พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1593/2560
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการรับเงินประจำตำแหน่ง ส.ส. แม้เป็นบุคคลล้มละลาย แต่ต้องรอการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและแจ้งประธานสภา
ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 106 (5) ประกอบมาตรา 102 (2) บัญญัติให้สมาชิกภาพความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง เมื่อผู้นั้นเป็นบุคคลล้มละลาย แต่ตามมาตรา 92 บัญญัติให้การสิ้นสุดสมาชิกภาพดังกล่าวไม่กระทบกระเทือนถึงการที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้รับเงินประจำตำแหน่งหรือประโยชน์ตอบแทนอื่นก่อนที่สมาชิกผู้นั้นออกจากตำแหน่ง หรือก่อนที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้รับแจ้งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลงแล้วแต่กรณี คดีนี้ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งเรื่องที่คณะกรรมการการเลือกตั้งเห็นว่าสมาชิกภาพความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของจำเลยที่ 1 สิ้นสุดลง เนื่องจากจำเลยที่ 1 เป็นบุคคลล้มละลาย เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของจำเลยที่ 1 สิ้นสุดลงหรือไม่ แต่ประธานสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้รับแจ้งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า สมาชิกภาพของจำเลยที่ 1 สิ้นสุดลงด้วยเหตุดังกล่าว ประกอบกับในระหว่างวันที่ 5 กรกฎาคม 2553 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2553 จำเลยทั้งเจ็ดยังคงทำหน้าที่มิได้ออกจากตำแหน่งหน้าที่ ดังนั้น จำเลยทั้งเจ็ดจึงไม่ต้องคืนเงินที่รับไประหว่างวันที่ 5 กรกฎาคม 2553 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2553 แก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1700/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคืนเงินประจำตำแหน่งและค่าตอบแทนแก่ผู้แทนราษฎรที่ถูกสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่
แม้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีประกาศฉบับที่ 11/2557 ให้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 สิ้นสุดลง แต่ได้รับรองอำนาจของศาลว่า ยังคงมีอำนาจดำเนินการพิจารณาและพิพากษาอรรถคดี ศาลจึงมีอำนาจพิพากษาคดีนี้ เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังยุติได้ว่า ศาลฎีกามีคำสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่แทนจำเลย อันเป็นกรณีจำเลยถูกออกจากตำแหน่งหรือสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของจำเลยสิ้นสุดเพราะเหตุที่จำเลยได้รับเลือกตั้งมาโดยไม่ชอบด้วย พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2550 มาตรา 111 ซึ่งตามนัยมาตรา 92 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ซึ่งใช้บังคับขณะนั้น จำเลยย่อมตกอยู่ในบังคับมาตรา 92 ตอนท้าย ที่บัญญัติว่า กรณีที่ออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพราะเหตุที่ผู้นั้นได้รับเลือกตั้งหรือสรรหามาโดยไม่ชอบด้วย พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ให้คืนเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นก่อนที่ผู้นั้นได้รับมาเนื่องจากการดำรงตำแหน่งดังกล่าว แม้ต่อมาจะมีประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติให้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 สิ้นสุดลงก็ตาม แต่มูลหนี้ที่ก่อให้เกิดสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เกิดขึ้นในขณะที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มีผลใช้บังคับ โดยไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายยกเว้นไว้และไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายให้ยกเลิกมูลหนี้ที่เกิดขึ้น จำเลยจึงต้องคืนเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นทั้งหมดที่จำเลยได้รับมาเนื่องจากการดำรงตำแหน่งดังกล่าว และเมื่อจำเลยเป็นผู้ขอให้โจทก์แต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญประจำตัวจำเลยและผู้ช่วยดำเนินงานประจำตัวจำเลย ซึ่งเป็นสิทธิของจำเลยที่ได้มาระหว่างที่จำเลยดำรงตำแหน่งและเป็นประโยชน์แก่จำเลย ดังนี้ เงินที่โจทก์จ่ายให้แก่บุคคลที่จำเลยขอให้โจทก์แต่งตั้ง จึงมีลักษณะเป็นประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่จำเลยได้รับมาเนื่องจากการดำรงตำแหน่ง จำเลยจึงต้องคืนเงินค่าตอบแทนผู้เชี่ยวชาญประจำตัวจำเลย และเงินค่าตอบแทนผู้ช่วยดำเนินงานของจำเลยแก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี