พบผลลัพธ์ทั้งหมด 275 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2273/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบี้ยปรับสัญญาค้ำประกัน, ทุนทรัพย์แยกตามสัญญา, อำนาจฟ้องพนักงานเจ้าหน้าที่, ห้ามอุทธรณ์ข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกเบี้ยปรับตามสัญญาค้ำประกันคนต่างด้าว 5 ราย โดยจำเลยทำสัญญาค้ำประกันเป็นรายฉบับรวม 5 ฉบับ สำหรับลูกประกันแต่ละรายหากจำเลยผิดสัญญายอมให้ปรับรายละ 20,000 บาท ทุนทรัพย์ในคดีจึงแยกออกตามสัญญาค้ำประกันแต่ละฉบับ แม้จะปรับรวมกันมา ก็ถือว่ากำหนดค่าปรับภายในวงเงินตามสัญญาค้ำประกันแต่ละฉบับไม่เกินฉบับละ 20,000 บาท คดีจึงต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งรับอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงและศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยให้ ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ว่ากล่าวกันมาแล้วโดยชอบในชั้นอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 แม้จำเลยจะฎีกาในข้อเท็จจริงดังกล่าวต่อมา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
จำเลยทำสัญญาค้ำประกันคนต่างด้าวซึ่งเดินทางเข้ามาในประเทศไทยต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองกรุงเทพซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา โดยตำแหน่งหน้าที่ราชการอันกฎหมายกำหนดไว้ให้ทำสัญญาประกันได้ เมื่อจำเลยผิดสัญญาผู้บังคับการกองตรวจคนเข้าเมืองจึงมีอำนาจฟ้องจำเลยในฐานะเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่โดยใช้ชื่อตำแหน่งของตนได้
จำเลยสัญญาแก่โจทก์ว่า หากผิดสัญญาข้อใดข้อหนึ่งยอมให้โจทก์ปรับเป็นเงิน 20,000 บาท จึงมีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ เมื่อจำเลยผิดสัญญาจำเลยก็ต้องชำระเบี้ยปรับแก่โจทก์ตามสัญญา จะอ้างว่าโจทก์ไม่ได้รับความเสียหายมิได้
จำเลยทำสัญญาค้ำประกันคนต่างด้าวซึ่งเดินทางเข้ามาในประเทศไทยต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองกรุงเทพซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา โดยตำแหน่งหน้าที่ราชการอันกฎหมายกำหนดไว้ให้ทำสัญญาประกันได้ เมื่อจำเลยผิดสัญญาผู้บังคับการกองตรวจคนเข้าเมืองจึงมีอำนาจฟ้องจำเลยในฐานะเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่โดยใช้ชื่อตำแหน่งของตนได้
จำเลยสัญญาแก่โจทก์ว่า หากผิดสัญญาข้อใดข้อหนึ่งยอมให้โจทก์ปรับเป็นเงิน 20,000 บาท จึงมีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ เมื่อจำเลยผิดสัญญาจำเลยก็ต้องชำระเบี้ยปรับแก่โจทก์ตามสัญญา จะอ้างว่าโจทก์ไม่ได้รับความเสียหายมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2273/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบี้ยปรับสัญญาค้ำประกัน, ห้ามอุทธรณ์ข้อเท็จจริง, อำนาจฟ้องพนักงานเจ้าหน้าที่
โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกเบี้ยปรับตามสัญญาค้ำประกันคนต่างด้าว5 ราย โดยจำเลยทำสัญญาค้ำประกันเป็นรายฉบับรวม 5 ฉบับ สำหรับลูกประกันแต่ละรายหากจำเลยผิดสัญญายอมให้ปรับรายละ 20,000 บาท ทุนทรัพย์ในคดีจึงแยกออกตามสัญญาค้ำประกันแต่ละฉบับ แม้จะปรับรวมกันมา ก็ถือว่ากำหนดค่าปรับภายในวงเงินตามสัญญาค้ำประกันแต่ละฉบับไม่เกินฉบับละ 20,000 บาท คดีจึงต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 224 แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งรับอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงและศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยให้ ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ว่ากล่าวกันมาแล้วโดยชอบในชั้นอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 แม้จำเลยจะฎีกาในข้อเท็จจริงดังกล่าวต่อมา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
จำเลยทำสัญญาค้ำประกันคนต่างด้าวซึ่งเดินทางเข้ามาในประเทศไทยต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองกรุงเทพซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา โดยตำแหน่งหน้าที่ราชการอันกฎหมายกำหนดไว้ให้ทำสัญญาประกันได้ เมื่อจำเลยผิดสัญญาผู้บังคับการกองตรวจคนเข้าเมืองจึงมีอำนาจฟ้องจำเลยในฐานะเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่โดยใช้ชื่อตำแหน่งของตนได้
จำเลยสัญญาแก่โจทก์ว่า หากผิดสัญญาข้อใดข้อหนึ่งย่อมให้โจทก์ปรับเป็นเงิน 20,000 บาท จึงมีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ เมื่อจำเลยผิดสัญญาจำเลยก็ต้องชำระเบี้ยปรับแก่โจทก์ตามสัญญาจะอ้างว่าโจทก์ไม่ได้รับความเสียหายมิได้
จำเลยทำสัญญาค้ำประกันคนต่างด้าวซึ่งเดินทางเข้ามาในประเทศไทยต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองกรุงเทพซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา โดยตำแหน่งหน้าที่ราชการอันกฎหมายกำหนดไว้ให้ทำสัญญาประกันได้ เมื่อจำเลยผิดสัญญาผู้บังคับการกองตรวจคนเข้าเมืองจึงมีอำนาจฟ้องจำเลยในฐานะเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่โดยใช้ชื่อตำแหน่งของตนได้
จำเลยสัญญาแก่โจทก์ว่า หากผิดสัญญาข้อใดข้อหนึ่งย่อมให้โจทก์ปรับเป็นเงิน 20,000 บาท จึงมีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ เมื่อจำเลยผิดสัญญาจำเลยก็ต้องชำระเบี้ยปรับแก่โจทก์ตามสัญญาจะอ้างว่าโจทก์ไม่ได้รับความเสียหายมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 899/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าปรับสัญญาซื้อขาย: คิดจากสิ่งที่ค้างส่ง ไม่ใช่ทั้งชุด แม้มีข้อตกลงเป็นชุด, ต้องมีการเลิกสัญญาก่อน
สัญญามีข้อความว่า ถ้าผู้ขายไม่นำสิ่งของมาส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อให้เป็นการถูกต้องภายในกำหนดตามสัญญา ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นจำนวนเงินร้อยละห้าของราคาของที่ยังไม่ได้ส่งถ้าผู้ขายผิดสัญญาและได้มีการบอกเลิกสัญญาผู้ขายยินยอมให้ผู้ซื้อปรับอีกเป็นเงินร้อยละห้าของราคาสิ่งของทั้งหมดในสัญญา หรือตามราคาสิ่งของที่ยังขาดส่งอยู่ดังนี้ โจทก์ผู้ซื้อจะมีสิทธิเรียกค่าปรับจากจำเลยผู้ขายอีกร้อยละห้าของราคาทั้งหมดได้ต่อเมื่อจำเลยผิดสัญญาและมีการเลิกสัญญากันเท่านั้น แต่เมื่อโจทก์มิได้บอกเลิกสัญญาและยังรับของที่จำเลยขายไว้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าปรับเพิ่มในอัตราร้อยละห้าจากราคาของทั้งหมดอีกคงมีสิทธิเรียกได้เพียงร้อยละห้าจากราคาของที่ยังค้างส่ง และต้องคิดเฉพาะชิ้นส่วนที่ยังค้างส่งเท่านั้น ไม่ใช่คิดเป็นชุด เพราะตามสัญญาไม่ได้ระบุ ว่าถ้าเครื่องโทรพิมพ์ชุดใดขาดส่งเพียงบางชิ้นส่วนให้ถือว่าขาดส่งทั้งชุด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3821/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงเบี้ยปรับในสัญญาซื้อขายสิทธิการเช่า ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม
จำเลยทำสัญญาจะขายสิทธิการเช่าตึกแถวแก่โจทก์โดยมีข้อตกลงว่าถ้าจำเลยผิดสัญญาไม่ไปทำหนังสือสัญญาและจดทะเบียนขายตามกำหนดจำเลยยอมให้โจทก์ฟ้องศาลบังคับให้เป็นไปตามสัญญาและ ยอมใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ 650,000 บาท อีกส่วนหนึ่งด้วยนั้น เป็นข้อตกลงที่โจทก์จำเลยสมัครใจตกลงกันไว้ แม้การผิดสัญญาของจำเลยนอกจากจำเลยจะถูกฟ้องศาลบังคับให้ปฏิบัติตามสัญญาแล้ว จำเลยยังจะต้องใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์อีก 650,000 บาท ก็ตาม การบังคับให้ปฏิบัติตามสัญญาก็คือการเรียกใช้ชำระหนี้ตามสัญญา และค่าเสียหายที่กำหนดจำนวนไว้ล่วงหน้าก็คือเบี้ยปรับนั่นเอง โจทก์จำเลยจึงอาจตกลงกันได้ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 381 วรรคหนึ่ง ข้อตกลงดังกล่าวจึงไม่เป็นโมฆะ เพราะขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรม อันดีของประชาชน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2669/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการบอกเลิกสัญญาและการเรียกร้องค่าปรับรายวันเมื่อผู้ขายผิดสัญญา โดยการยอมผ่อนปรนและไม่ยอมผ่อนปรน
ตามสัญญาข้อ 8 เมื่อผู้ขายผิดสัญญา ผู้ซื้ออาจบอกเลิกสัญญาได้ทันทีโดยไม่ต้องคำนึงว่าผู้ขายยังอาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้หรือไม่ ส่วนข้อ 9 ถ้าผู้ซื้อเห็นว่าผู้ขายยังอาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้ จึงยอมให้ผู้ขายส่งของเมื่อพ้นกำหนดเวลาส่งมอบตามสัญญาได้แต่ผู้ขายจะต้องถูกปรับเป็นรายวัน นับแต่วันครบกำหนดตามสัญญาจนถึงวันส่งมอบเรียบร้อยเมื่อผู้ซื้อยอมผ่อนปรนให้เช่นนี้แล้ว ถ้าผู้ขายยังทำให้ผู้ซื้อเห็นว่าผู้ขายไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้ ผู้ซื้อก็ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาดังนี้ เมื่อผู้ซื้อผิดสัญญาโดยส่งของไม่ถูกต้อง ผู้ซื้อก็แจ้งให้ผู้ขายนำของไปเปลี่ยนถึง 3 ครั้ง แสดงว่าผู้ซื้อไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาตามข้อ 8 แต่ยอมให้ผู้ขายส่งมอบของได้แม้พ้นกำหนดเวลาแล้ว ซึ่งผู้ขายก็ไม่อาจจัดหาของมาส่งมอบได้ ผู้ซื้อจึงบอกเลิกสัญญา รูปคดีต้องปรับด้วยข้อ 9 ผู้ซื้อมีสิทธิริบหลักประกันและเรียกร้องเอาเงินค่าปรับเป็นรายวันจากผู้ขายได้
ส่วนจำนวนเบี้ยปรับนั้น เมื่อผู้ขายได้รับแจ้งว่าส่งของไม่ถูกต้องตามสัญญาก็มีหนังสือถึงผู้ซื้อขอยกเลิกสัญญาและยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญาทุกประการ ผู้ซื้อไม่เลิกสัญญาโดยแจ้งว่าของมีขายในท้องตลาด ให้ปฏิบัติตามสัญญา ผู้ขายขอเลิกสัญญาทุกครั้งที่ผู้ซื้อเตือนดังนี้ผู้ซื้อหาควรฝืนใจผู้ขายให้ปฏิบัติตามสัญญาต่อไปอีกไม่น่าจะอนุมัติเลิกสัญญาตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือ จึงสมควรให้ผู้ซื้อได้รับเบี้ยปรับตั้งแต่วันที่ผู้ขายผิดสัญญาจนถึงวันที่ผู้ซื้อได้รับหนังสือขอยกเลิกสัญญาจากผู้ขาย
ส่วนจำนวนเบี้ยปรับนั้น เมื่อผู้ขายได้รับแจ้งว่าส่งของไม่ถูกต้องตามสัญญาก็มีหนังสือถึงผู้ซื้อขอยกเลิกสัญญาและยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญาทุกประการ ผู้ซื้อไม่เลิกสัญญาโดยแจ้งว่าของมีขายในท้องตลาด ให้ปฏิบัติตามสัญญา ผู้ขายขอเลิกสัญญาทุกครั้งที่ผู้ซื้อเตือนดังนี้ผู้ซื้อหาควรฝืนใจผู้ขายให้ปฏิบัติตามสัญญาต่อไปอีกไม่น่าจะอนุมัติเลิกสัญญาตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือ จึงสมควรให้ผู้ซื้อได้รับเบี้ยปรับตั้งแต่วันที่ผู้ขายผิดสัญญาจนถึงวันที่ผู้ซื้อได้รับหนังสือขอยกเลิกสัญญาจากผู้ขาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2669/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการบอกเลิกสัญญาและการเรียกร้องค่าปรับรายวันเมื่อผู้ขายผิดสัญญา โดยพิจารณาถึงการผ่อนปรนและเหตุสุดวิสัย
ตามสัญญาข้อ 8 เมื่อผู้ขายผิดสัญญา ผู้ซื้ออาจบอกเลิกสัญญาได้ทันทีโดยไม่ต้องคำนึงว่าผู้ขายยังอาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้หรือไม่ ส่วนข้อ 9 ถ้าผู้ซื้อเห็นว่าผู้ขายยังอาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้ จึงยอมให้ผู้ขายส่งของเมื่อพ้นกำหนดเวลาส่งมอบตามสัญญาได้ แต่ผู้ขายจะต้องถูกปรับเป็นรายวัน นับแต่วันครบกำหนดตามสัญญาจนถึงวันส่งมอบเรียบร้อยเมื่อผู้ซื้อยอมผ่อนปรนให้เช่นนี้แล้ว ถ้าผู้ขายยังทำให้ผู้ซื้อเห็นว่าผู้ขายไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้ ผู้ซื้อก็ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาดังนี้ เมื่อผู้ซื้อผิดสัญญาโดยส่งของไม่ถูกต้อง ผู้ซื้อก็แจ้งให้ผู้ขายนำของไปเปลี่ยนถึง 3 ครั้ง แสดงว่าผู้ซื้อไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาตามข้อ 8 แต่ยอมให้ผู้ขายส่งมอบของได้แม้พ้นกำหนดเวลาแล้ว ซึ่งผู้ขายก็ไม่อาจจัดหาของมาส่งมอบได้ ผู้ซื้อจึงบอกเลิกสัญญา รูปคดีต้องปรับด้วยข้อ 9 ผู้ซื้อมีสิทธิริบหลักประกันและเรียกร้องเอาเงินค่าปรับเป็นรายวันจากผู้ขายได้
ส่วนจำนวนเบี้ยปรับนั้น เมื่อผู้ขายได้รับแจ้งว่าส่งของไม่ถูกต้องตามสัญญาก็มีหนังสือถึงผู้ซื้อขอยกเลิกสัญญาและยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญาทุกประการ ผู้ซื้อไม่เลิกสัญญาโดยแจ้งว่าของมีขายในท้องตลาด ให้ปฏิบัติตามสัญญา ผู้ขายขอเลิกสัญญาทุกครั้งที่ผู้ซื้อเตือนดังนี้ผู้ซื้อหาควรฝืนใจผู้ขายให้ปฏิบัติตามสัญญาต่อไปอีกไม่น่าจะอนุมัติเลิกสัญญาตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือ จึงสมควรให้ผู้ซื้อได้รับเบี้ยปรับตั้งแต่วันที่ผู้ขายผิดสัญญาจนถึงวันที่ผู้ซื้อได้รับหนังสือขอยกเลิกสัญญาจากผู้ขาย
ส่วนจำนวนเบี้ยปรับนั้น เมื่อผู้ขายได้รับแจ้งว่าส่งของไม่ถูกต้องตามสัญญาก็มีหนังสือถึงผู้ซื้อขอยกเลิกสัญญาและยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญาทุกประการ ผู้ซื้อไม่เลิกสัญญาโดยแจ้งว่าของมีขายในท้องตลาด ให้ปฏิบัติตามสัญญา ผู้ขายขอเลิกสัญญาทุกครั้งที่ผู้ซื้อเตือนดังนี้ผู้ซื้อหาควรฝืนใจผู้ขายให้ปฏิบัติตามสัญญาต่อไปอีกไม่น่าจะอนุมัติเลิกสัญญาตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือ จึงสมควรให้ผู้ซื้อได้รับเบี้ยปรับตั้งแต่วันที่ผู้ขายผิดสัญญาจนถึงวันที่ผู้ซื้อได้รับหนังสือขอยกเลิกสัญญาจากผู้ขาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1629/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผิดสัญญาจ้างเหมา การชดใช้ค่าเสียหาย และเบี้ยปรับรายวัน ศาลฎีกาวินิจฉัยผูกพันจำเลยและหุ้นส่วนผู้จัดการ
คดีก่อนจำเลยที่ 1 ได้ฟ้องโจทก์คดีนี้เป็นจำเลยฐานผิดสัญญาและให้จ่ายเงินค่าก่อสร้างงวดที่ 5 เป็นเงิน608,000 บาท ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 เป็นฝ่ายผิดสัญญาคำพิพากษาดังกล่าวจึงผูกพันจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นคู่ความในคดีนั้น และผูกพันจำเลยที่ 2 ที่ 3ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 1 ด้วย ข้อเท็จจริงในคดีนี้จึงฟังเป็นยุติว่าจำเลยที่ 1 เป็นฝ่ายผิดสัญญาเกี่ยวกับการทาสีบานประตูหน้าต่างภายในตามสัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง
การที่จำเลยที่ 1 ผิดสัญญาทำให้โจทก์ต้องจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัด ท. ทำการก่อสร้างเป็นเงินเพิ่มไปจากเดิมที่ทำไว้กับจำเลยที่ 1 จำนวนเงินที่เพิ่มขึ้นนี้ถือเป็นค่าเสียหายที่โจทก์ได้รับโดยตรงจากการที่จำเลยที่ 1 ปฏิบัติผิดสัญญา จำเลยทั้งสามต้องร่วมรับผิดชดใช้ให้โจทก์
โจทก์บอกเลิกสัญญากับจำเลยที่ 1 โดยอาศัยเหตุที่ว่าจำเลยที่ 1 ทาสีไม่ถูกต้องตามข้อกำหนดในสัญญา ไม่ได้อาศัยเหตุที่ว่า จำเลยที่ 1 ทำการก่อสร้างไม่แล้วเสร็จบริบูรณ์ภายใน 300 วัน โจทก์จะใช้สิทธิเรียกร้องเบี้ยปรับรายวันหาได้ไม่
การที่จำเลยที่ 1 ผิดสัญญาทำให้โจทก์ต้องจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัด ท. ทำการก่อสร้างเป็นเงินเพิ่มไปจากเดิมที่ทำไว้กับจำเลยที่ 1 จำนวนเงินที่เพิ่มขึ้นนี้ถือเป็นค่าเสียหายที่โจทก์ได้รับโดยตรงจากการที่จำเลยที่ 1 ปฏิบัติผิดสัญญา จำเลยทั้งสามต้องร่วมรับผิดชดใช้ให้โจทก์
โจทก์บอกเลิกสัญญากับจำเลยที่ 1 โดยอาศัยเหตุที่ว่าจำเลยที่ 1 ทาสีไม่ถูกต้องตามข้อกำหนดในสัญญา ไม่ได้อาศัยเหตุที่ว่า จำเลยที่ 1 ทำการก่อสร้างไม่แล้วเสร็จบริบูรณ์ภายใน 300 วัน โจทก์จะใช้สิทธิเรียกร้องเบี้ยปรับรายวันหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2299/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบี้ยปรับกับการบังคับทำสัญญา: เมื่อเรียกเบี้ยปรับแล้วสิทธิในการเรียกร้องให้ทำสัญญาเป็นอันสิ้นสุด
ทำสัญญาตกลงกันว่าผู้ขายตกลงจะทำถนนผ่านที่คืนในส่วนของผู้ขายหลังจากแบ่งแยกโฉนดขายให้แก่ผู้ซื้อแล้ว หากผิดสัญญายอมให้ผู้ซื้อปรับผู้ขายเป็นเงินห้าหมื่นบาท ข้อตกลงดังกล่าวนี้เป็นเรื่องสัญญาว่าจะให้เบี้ยปรับเมื่อไม่ชำระหนี้ เมื่อผู้ซื้อตกลงเรียกเอาเบี้ยปรับมาแล้วจึงไม่มีสิทธิเรียกให้ทำถนนอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2299/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบี้ยปรับสัญญาซื้อขาย: การเลือกใช้สิทธิเรียกร้องค่าปรับ ย่อมสละสิทธิเรียกร้องให้ปฏิบัติตามสัญญา
ทำสัญญาตกลงกันว่าผู้ขายตกลงจะทำถนนผ่านที่ดินในส่วนของผู้ขายหลังจากแบ่งแยกโฉนดขายให้แก่ผู้ซื้อแล้ว หากผิดสัญญายอมให้ผู้ซื้อปรับผู้ขายเป็นเงินห้าหมื่นบาทข้อตกลงดังกล่าวนี้เป็นเรื่องสัญญาว่าจะให้เบี้ยปรับเมื่อไม่ชำระหนี้ เมื่อผู้ซื้อตกลงเรียกเอาเบี้ยปรับแล้ว จึงไม่มีสิทธิเรียกให้ทำถนนอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2529/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาก่อสร้าง: ผิดสัญญา, ค่าปรับ, การซ่อมแซมโดยจำเลย, การชำระหนี้
เมื่อปรากฏว่างานของโจทก์มีสิ่งที่บกพร่อง จำเลยบอกกล่าวให้โจทก์แก้ไขสิ่งที่บกพร่องให้คืนดี หรือทำการให้เป็นไปตามสัญญาภายในเวลาอันสมควรซึ่งกำหนดให้ในคำบอกกล่าวนั้นแล้ว โจทก์ไม่ดำเนินการแก้ไขให้เป็นไปตามสัญญาจนคลาดกำหนดนั้นไป จำเลยจึงจ้างบุคคลภายนอกทำการแก้ไขสิ่งยกพร่องดังกล่าวได้ โดยโจทก์จะต้องออกค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตร 594
โจทก์ปลูกบ้านยังไม่เสร็จสมบูรณ์ จำเลยยังไม่ได้รับมอบบานนั้นจากโจทก์ยังไม่ถือว่าโจทก์ได้ชำระหนี้ให้แก่จำเลยแล้ว จำเลยมีสิทธเรียกเอาเบี้ยปรับในกรณีไม่ชำระหนี้ตรงตามเวลาที่กำหนดไว้จากโจทก์ได้ตามสัญญา
โจทก์จำเลยตกลงกันว่า หากโจทก์ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนดยอมให้จำเลยปรับเป็นรายวัน จำเลยจึงมีสิทธิที่จะปรับโจทก์ได้ตั้งแต่วันหมดอายุสัญญาจนถึงวันที่งานก่อสร้างแล้วเสร็จ
โจทก์ปลูกบ้านยังไม่เสร็จสมบูรณ์ จำเลยยังไม่ได้รับมอบบานนั้นจากโจทก์ยังไม่ถือว่าโจทก์ได้ชำระหนี้ให้แก่จำเลยแล้ว จำเลยมีสิทธเรียกเอาเบี้ยปรับในกรณีไม่ชำระหนี้ตรงตามเวลาที่กำหนดไว้จากโจทก์ได้ตามสัญญา
โจทก์จำเลยตกลงกันว่า หากโจทก์ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนดยอมให้จำเลยปรับเป็นรายวัน จำเลยจึงมีสิทธิที่จะปรับโจทก์ได้ตั้งแต่วันหมดอายุสัญญาจนถึงวันที่งานก่อสร้างแล้วเสร็จ