คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 288

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 813 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 134/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการร้องขอปล่อยทรัพย์ยึด ขึ้นอยู่กับความเป็นเจ้าของทรัพย์ ผู้ซื้อแทนไม่ถือเป็นเจ้าของ
เครื่องทำน้ำแข็งที่โจทก์นำยึดเป็นของจำเลย ผู้ร้องเป็นแต่เพียงผู้ซื้อเครื่องทำน้ำแข็งพิพาทแทนจำเลยผู้เป็นมารดาเนื่องจากจำเลยชรามากแล้ว ผู้ร้องไม่ใช่เจ้าของเครื่องทำน้ำแข็งพิพาท จึงไม่มีสิทธิร้องขอให้ปล่อยทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4609/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดทรัพย์และการพิสูจน์กรรมสิทธิ์: ศาลมีอำนาจพิจารณาในคดีขัดทรัพย์ได้ แม้มีข้ออ้างเรื่องฉ้อฉล
ในชั้นร้องขัดทรัพย์ซึ่งผู้ร้องอ้างว่าทรัพย์พิพาทไม่ใช่ของจำเลย แต่เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้อง เพราะผู้ร้องซื้อจากจำเลยแล้ว และโจทก์ต่อสู้ว่าการซื้อขายทรัพย์พิพาททำขึ้นเพื่อฉ้อฉลโจทก์ โดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นหนี้โจทก์ ราคาซื้อขายต่ำกว่าราคาท้องตลาด คู่สัญญาไม่มีเจตนาทำสัญญาผูกพันกันตามกฎหมาย ทรัพย์พิพาทยังเป็นของจำเลยอยู่ โจทก์มีสิทธิยึดได้ ประเด็นจึงมีว่าทรัพย์พิพาทยังเป็นของจำเลยหรือไม่ ศาลมีอำนาจชี้ขาดในคดีร้องขัดทรัพย์ได้โดยไม่ต้องให้โจทก์ไปฟ้องขอเพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายเป็นคดีใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4609/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดทรัพย์: ศาลมีอำนาจพิจารณาได้โดยไม่ต้องรอคำพิพากษาเพิกถอนสัญญาซื้อขาย หากมีข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์
ในชั้นร้องขัดทรัพย์ซึ่งผู้ร้องอ้างว่าทรัพย์พิพาทไม่ใช่ของจำเลย แต่เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้อง เพราะผู้ร้องซื้อจากจำเลยแล้วและโจทก์ต่อสู้ว่าการซื้อขายทรัพย์พิพาททำขึ้นเพื่อฉ้อฉลโจทก์โดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นหนี้โจทก์ ราคาซื้อขายต่ำกว่าราคาท้องตลาด คู่สัญญาไม่มีเจตนาทำสัญญาผูกพันกันตามกฎหมาย ทรัพย์พิพาทยังเป็นของจำเลยอยู่ โจทก์มีสิทธิยึดได้ ประเด็นจึงมีว่าทรัพย์พิพาทยังเป็นของจำเลยหรือไม่ ศาลมีอำนาจชี้ขาดในคดีร้องขัดทรัพย์ได้โดยไม่ต้องให้โจทก์ไปฟ้องขอเพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายเป็นคดีใหม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4498/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของร่วมทรัพย์สิน: สามีภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสร่วมกันทำธุรกิจ ทรัพย์สินที่ได้มาถือเป็นของร่วมกัน เจ้าของรวมร้องขัดทรัพย์ไม่ได้
ผู้ร้องกับจำเลยอยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสได้ร่วมกันประกอบธุรกิจ และใช้เงินซึ่งทำมาหาได้ด้วยกันซื้อทรัพย์ที่โจทก์นำยึดทรัพย์ดังกล่าวจึงเป็นของผู้ร้องกับจำเลยร่วมกันผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของรวมจึงร้องขัดทรัพย์ไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4498/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของรวมทรัพย์สิน: สามีภรรยาไม่จดทะเบียนร่วมกันทำธุรกิจ เงินร่วมกันซื้อทรัพย์เป็นของทั้งสองร่วมกัน
ผู้ร้องกับจำเลยอยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสได้ร่วมกันประกอบธุรกิจ และใช้เงินซึ่งทำมาหาได้ด้วยกันซื้อทรัพย์ที่โจทก์นำยึดทรัพย์ดังกล่าวจึงเป็นของผู้ร้องกับจำเลยร่วมกัน ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของรวมจึงร้องขัดทรัพย์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3694/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการบังคับจำนองติดไปกับทรัพย์สิน แม้กรรมสิทธิ์เปลี่ยนมือ บุคคลภายนอกขอหยุดยึดได้เฉพาะกรณีเจ้าพนักงานบังคับคดีฝ่าฝืนกฎหมาย
บุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินตามหมายบังคับคดีจะขอให้ศาลมีคำสั่งงดการบังคับคดีได้เฉพาะในกรณีที่ศาลออกหมายบังคับคดีหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 เท่านั้น โจทก์บังคับคดีแก่ที่ดินซึ่งจำเลยจำนองไว้กับโจทก์ แม้ว่ากรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงดังกล่าวจะเปลี่ยนไปเป็นของผู้อื่นสิทธิจำนองก็ติดไปด้วย การที่ศาลออกหมายบังคับคดีและเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังคับคดีแก่ที่ดินพิพาทซึ่งจำเลยจำนองไว้กับโจทก์ จึงหาได้ฝ่าฝืนต่อกฎหมายแต่อย่างใดไม่ผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอกจะมาร้องขอให้งดการบังคับคดีไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3525/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นคำร้องซ้ำเพื่อปล่อยทรัพย์ที่ถูกยึด แม้ศาลเคยมีคำพิพากษาแล้ว ถือเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำที่กฎหมายห้าม
ผู้ร้องเคยยื่นคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่โจทก์นำยึดทั้งหมด 6 รายการ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ถอนการยึดทรัพย์เฉพาะบางรายการ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ ผู้ร้องได้มายื่นคำร้องเป็นคดีนี้ ขอให้ปล่อยทรัพย์รายเดียวกันกับทรัพย์ในคดีก่อนที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกคำร้องไปแล้ว ดังนี้คำร้องของผู้ร้องในคดีก่อนกับคำร้องของผู้ร้องในคดีนี้ต่างก็ได้ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งปล่อยทรัพย์ที่โจทก์นำยึดโดยอ้างว่าเป็นทรัพย์ของผู้ร้องซึ่งเป็นทรัพย์รายเดียวกัน ประเด็นแห่งคดีทั้งสองเป็นประเด็นอย่างเดียวกัน คู่ความทั้งสองฝ่ายก็เป็นคู่ความรายเดียวกัน ทั้งศาลชั้นต้นก็ได้เคยมีคำพิพากษาชี้ขาดในประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีไปแล้ว คำร้องของผู้ร้องในคดีนี้จึงต้องห้ามมิให้ดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่อีกตาม ป.วิ.พ.มาตรา 144.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3525/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องซ้ำต้องห้าม: การยื่นคำร้องขอปล่อยทรัพย์ที่ถูกยึดซ้ำโดยอ้างว่าเป็นของผู้ร้อง แม้ศาลชั้นต้นเคยมีคำพิพากษาแล้ว
ผู้ร้องเคยยื่นคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่โจทก์นำยึดทั้งหมด 6รายการ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ถอนการยึดทรัพย์เฉพาะบางรายการคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ ผู้ร้องยื่นคำร้องเป็นคดีนี้ขอให้ปล่อยทรัพย์รายเดียวกันกับทรัพย์ในคดีก่อนที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกคำร้องไปแล้ว ดังนี้คำร้อง ของ ผู้ร้องในคดีก่อนกับคำร้อง ของ ผู้ร้องในคดีนี้ต่างก็ได้ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งปล่อยทรัพย์ที่โจทก์นำยึดโดยอ้างว่าเป็นทรัพย์ของผู้ร้อง ซึ่งเป็นทรัพย์รายเดียวกัน ประเด็นแห่งคดีทั้งสองเป็นประเด็นอย่างเดียวกันคู่ความทั้งสองฝ่ายก็เป็นคู่ความรายเดียวกัน ทั้งศาลชั้นต้นก็ได้เคยมีคำพิพากษาชี้ขาดในประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีไปแล้ว คำร้อง ของผู้ร้องในคดีนี้จึงต้องห้ามมิให้ดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่อีกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3525/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องซ้ำต้องห้ามตามมาตรา 144 พ.ร.บ.วิธีพิจารณาความแพ่ง กรณีประเด็นข้อพิพาทและคู่ความเดิม
ผู้ร้องเคยยื่นคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่โจทก์นำยึดทั้งหมด 6 รายการ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ถอนการยึดทรัพย์เฉพาะบางรายการคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ ผู้ร้องยื่นคำร้องเป็นคดีนี้ขอให้ปล่อยทรัพย์รายเดียวกันกับทรัพย์ในคดีก่อนที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกคำร้องไปแล้ว ดังนี้คำร้อง ของ ผู้ร้องในคดีก่อนกับคำร้อง ของ ผู้ร้องในคดีนี้ต่างก็ได้ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งปล่อยทรัพย์ที่โจทก์นำยึดโดยอ้างว่าเป็นทรัพย์ของผู้ร้อง ซึ่งเป็นทรัพย์รายเดียวกัน ประเด็นแห่งคดีทั้งสองเป็นประเด็นอย่างเดียวกันคู่ความทั้งสองฝ่ายก็เป็นคู่ความรายเดียวกัน ทั้งศาลชั้นต้นก็ได้เคยมีคำพิพากษาชี้ขาดในประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีไปแล้ว คำร้อง ของผู้ร้องในคดีนี้จึงต้องห้ามมิให้ดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่อีกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2975/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิร้องขัดทรัพย์ต้องเป็นเจ้าของทรัพย์หรือมีสิทธิเหนือทรัพย์นั้น ผู้มีสัญญาซื้อขายแต่ยังไม่ได้สิทธิครอบครองไม่มีอำนาจร้องขัดทรัพย์
ขณะที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขัดทรัพย์ ที่ดินพิพาทเป็นของผู้อื่น ผู้ร้องมิได้ถูกโต้แย้งสิทธิ ผู้ร้องจึงไม่มีอำนาจร้องขัดทรัพย์ การโอนที่ดินพิพาทครั้งสุดท้ายเป็นการโอนระหว่างจำเลยกับบุคคลภายนอกโดยไม่ปรากฏว่าบุคคลภายนอกรับโอนแทนผู้ร้องจึงเป็นเรื่องที่บุคคลภายนอกถูกโต้แย้งสิทธิและจะต้องไปดำเนินการเอง ผู้ร้องไม่มีอำนาจร้องขัดทรัพย์ในนามของตนเอง
of 82