คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 288

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 813 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 399/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องค่าเพิ่มของที่ดินจากผู้เช่า กรณีบังคับคดีจากที่ดินจำนอง
ศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมให้จำเลยชำระหนี้ จำเลยผิดนัดโจทก์จึงขอให้บังคับคดีและนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินของจำเลยซึ่งจำนองไว้กับโจทก์ ผู้ร้องคัดค้านว่า ผู้ร้องเช่าที่ดินดังกล่าวจากจำเลยแล้วปลูกต้นสนในที่ดินนั้นขอให้โจทก์ใช้ราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นแก่ผู้ร้อง ดังนี้โจทก์เป็นเพียงผู้นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินซึ่งผู้ร้องปลูกต้นสนลงไว้ หากต้นสนเป็นส่วนควบของที่ดิน โจทก์ก็มิได้เป็นเจ้าของที่ดินดังกล่าว แม้ผู้ร้องปลูกต้นสนโดยสุจริต และค่าที่ดินเพิ่มขึ้น ผู้ร้องก็ชอบที่จะเรียกร้องจากจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน หามีสิทธิเรียกเอาจากโจทก์ไม่อีกทั้งไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ผู้เช่าที่ดินเรียกร้องเอาค่าที่ดินที่เพิ่มขึ้น เพราะผู้เช่าปลูกต้นสนลงในที่ดินจากเจ้าหนี้ของเจ้าของที่ดิน นอกจากนี้โจทก์มิได้นำยึดต้นสนที่ผู้ร้องปลูกในที่ดินพิพาท จึงไม่กระทบกระทั่งถึงสิทธิของผู้ร้องเกี่ยวกับต้นสนที่ผู้ร้องปลูกในที่ดินดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 176/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไต่สวนคำร้องคัดค้านการยึดทรัพย์: ศาลสอบคู่ความถือเป็นการไต่สวนแล้ว และมีอำนาจตีราคาทรัพย์ตามเจ้าพนักงานบังคับคดีได้
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอต่อศาลให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดไว้ ศาลสอบคู่ความเกี่ยวกับราคาทรัพย์ที่พิพาทแล้วตีราคาตามที่เจ้าพนักงานบังคับคดีประเมิน และสั่งให้ผู้ร้องชำระค่าขึ้นศาลเพิ่มภายใน 15 วัน ดังนี้การที่ศาลสอบคู่ความและจดไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างหนึ่งที่ศาลมีอำนาจกระทำได้และถือว่าเป็นการไต่สวนแล้ว หากให้คู่ความนำพยานเข้าสืบไต่สวนก็จะไม่ได้ข้อเท็จจริงแตกต่างนอกเหนือจากการสอบคู่ความและไม่อาจทำให้ประเด็นที่จะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงไป ศาลย่อมมีอำนาจนำข้อเท็จจริงที่ได้จากการสอบคู่ความมารับฟังประกอบการใช้ดุลพินิจทำคำสั่งตามที่เห็นควรได้ เมื่อผู้ร้องไม่เสียค่าขึ้นศาลเพิ่มภายในเวลาที่ศาลกำหนดจึงเป็นการทิ้งฟ้อง.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 176/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไต่สวนคำร้องขัดทรัพย์: ศาลมีอำนาจสอบคู่ความและใช้ดุลพินิจตีราคาทรัพย์สินได้ แม้ไม่ได้ไต่สวนพยานเพิ่มเติม
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอต่อศาลให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดไว้ ศาลสอบคู่ความเกี่ยวกับราคาทรัพย์ที่พิพาทแล้วตีราคาตามที่เจ้าพนักงานบังคับคดีประเมิน และสั่งให้ผู้ร้องชำระค่าขึ้นศาลเพิ่มภายใน 15 วัน ดังนี้การที่ศาลสอบคู่ความและจดไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างหนึ่งที่ศาลมีอำนาจกระทำได้และถือว่าเป็นการไต่สวนแล้ว หากให้คู่ความนำพยานเข้าสืบไต่สวนก็จะไม่ได้ข้อเท็จจริงแตก ต่างนอกเหนือจากการสอบคู่ความและไม่อาจทำให้ประเด็นที่จะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงไป ศาลย่อมมีอำนาจนำข้อเท็จจริงที่ได้จากการสอบคู่ความมารับฟังประกอบการใช้ดุลพินิจ ทำคำสั่งตามที่เห็นควรได้ เมื่อผู้ร้องไม่เสียค่าขึ้นศาลเพิ่มภายในเวลาที่ศาลกำหนดจึงเป็นการทิ้งฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 158/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการอุทธรณ์ข้อเท็จจริงในคดีมีทุนทรัพย์น้อยกว่าสองหมื่นบาท การวินิจฉัยข้อเท็จจริงของศาลอุทธรณ์ที่ไม่ชอบ
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าทรัพย์สิน 5 รายการรวมราคา 7,800 บาท ที่โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดเป็นทรัพย์สินของผู้ร้อง ขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด เป็นคดีมีทุนทรัพย์และราคาทรัพย์สินที่พิพาทไม่เกินสองหมื่นบาท ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 เมื่อศาลชั้นต้นยกคำร้องโดยฟังว่าทรัพย์ที่นำยึดไม่ใช่ของผู้ร้อง ผู้ร้องอุทธรณ์ว่าทรัพย์ดังกล่าวเป็นของผู้ร้อง จึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยให้ จึงเป็นการไม่ชอบและผู้ร้องจะฎีกาข้อเท็จจริงขึ้นมาอีกไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 158/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์ข้อเท็จจริงในคดีบังคับคดีที่ราคาทรัพย์สินไม่เกินสองหมื่นบาท ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยมิชอบ
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าทรัพย์สิน 5 รายการรวมราคา 7,800 บาท ที่โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดเป็นทรัพย์สินของผู้ร้อง ขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด เป็นคดีมีทุนทรัพย์และราคาทรัพย์สินที่พิพาทไม่เกินสองหมื่นบาท ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 เมื่อศาลชั้นต้นยกคำร้องโดยฟังว่าทรัพย์ที่นำยึดไม่ใช่ของผู้ร้อง ผู้ร้องอุทธรณ์ว่าทรัพย์ดังกล่าวเป็นของผู้ร้อง จึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยให้ จึงเป็นการไม่ชอบและผู้ร้องจะฎีกาข้อเท็จจริงขึ้นมาอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4820/2529 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิการเช่าอาคารบนที่ดินราชพัสดุ แม้ยังมิได้จดทะเบียน ก็มีผลผูกพันเจ้าหนี้
กระทรวงการคลังตกลงให้เทศบาลเมืองสมุทรปราการเช่าที่ดินราชพัสดุจัดทำประโยชน์สร้างอาคารพาณิชย์ให้บุคคลอื่นเช่าทำการค้า จำเลยเป็นผู้ก่อสร้างอาคารพิพาทบนที่ดินดังกล่าวแล้วยกกรรมสิทธิ์ให้กระทรวงการคลัง โดยกระทรวงการคลังยินยอมให้จำเลยเป็นผู้เช่าอาคารหรือโอนสิทธิการเช่าอาคารพิพาทได้สิทธิการเช่าจึงเกิดขึ้นจากนิติกรรมหรือข้อตกลง มิใช่เป็นทรัพยสิทธิ แต่เป็นสิทธิเกี่ยวกับทรัพย์สินซึ่งอาจจำหน่ายจ่ายโอนกันได้
จำเลยผู้มีสิทธิการเช่าอาคารที่พิพาทได้โอนสิทธินั้นให้แก่ผู้ร้อง ผู้ร้องได้ชำระเงินให้ครบถ้วนตามสัญญา และเข้าครอบครองอาคารแล้ว แม้ข้อตกลงโอนสิทธิการเช่าจะมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และยังมิได้มีการจดทะเบียนยกกรรมสิทธิ์อาคารให้แก่กระทรวงการคลังและยังไม่ได้ชำระค่าเช่าให้แก่เทศบาลเมืองสมุทรปราการผู้เช่าที่ดินดังกล่าว ก็หาทำให้ข้อตกลงการโอนสิทธิการเช่านั้นเป็นโมฆะไม่ผู้ร้องจึงอยู่ในฐานะที่จะเรียกร้องให้จดทะเบียนการเช่าและขอชำระค่าเช่าได้ตามสัญญา โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะนำยึดสิทธิการเช่าดังกล่าวโดยอ้างว่ายังเป็นของจำเลยหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4820/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเช่าเป็นสิทธิเกี่ยวกับทรัพย์สิน โอนได้แม้ไม่จดทะเบียน เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาไม่สามารถยึดได้
สิทธิการเช่าอาคารมิใช่เป็นทรัพยสิทธิที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์แต่เป็นสิทธิเกี่ยวกับทรัพย์สินซึ่งอาจจำหน่ายจ่ายโอนกันได้โดยไม่ต้องจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เมื่อจำเลยผู้มีสิทธิการเช่าอาคารพิพาทได้โอนสิทธินั้นให้แก่ผู้ร้องไปแล้วโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยจะนำยึดสิทธิการเช่าดังกล่าวหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4820/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิการเช่าอาคารบนที่ดินราชพัสดุ แม้มิได้จดทะเบียนก็มีผลผูกพันเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา
กระทรวงการคลังตกลงให้เทศบาลเมืองสมุทรปราการเช่าที่ดินราชพัสดุจัดทำประโยชน์สร้างอาคารพาณิชย์ให้บุคคลอื่นเช่าทำการค้าจำเลยเป็นผู้ก่อสร้างอาคารพิพาทบนที่ดินดังกล่าวแล้วยกกรรมสิทธิ์ให้กระทรวงการคลังโดยกระทรวงการคลังยินยอมให้จำเลยเป็นผู้เช่าอาคารหรือโอนสิทธิการเช่าอาคารพิพาทได้สิทธิการเช่าจึงเกิดขึ้นจากนิติกรรมหรือข้อตกลงมิใช่เป็นทรัพยสิทธิแต่เป็นสิทธิเกี่ยวกับทรัพย์สินซึ่งอาจจำหน่ายจ่ายโอนกันได้ จำเลยผู้มีสิทธิการเช่าอาคารที่พิพาทได้โอนสิทธินั้นให้แก่ผู้ร้องผู้ร้องได้ชำระเงินให้ครบถ้วนตามสัญญาและเข้าครอบครองอาคารแล้วแม้ข้อตกลงโอนสิทธิการเช่าจะมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่และยังมิได้มีการจดทะเบียนยกกรรมสิทธิ์อาคารให้แก่กระทรวงการคลังและยังไม่ได้ชำระค่าเช่าให้แก่เทศบาลเมืองสมุทรปราการผู้เช่าที่ดินดังกล่าวก็หาทำให้ข้อตกลงการโอนสิทธิการเช่านั้นเป็นโมฆะไม่ผู้ร้องจึงอยู่ในฐานะที่จะเรียกร้องให้จดทะเบียนการเช่าและขอชำระค่าเช่าได้ตามสัญญาโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะนำยึดสิทธิการเช่าดังกล่าวโดยอ้างว่ายังเป็นของจำเลยหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4820/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิการเช่าอาคารบนที่ดินราชพัสดุ แม้ยังมิได้จดทะเบียน ก็มีผลผูกพันเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา
กระทรวงการคลังตกลงให้เทศบาลเมืองสมุทรปราการเช่าที่ดินราชพัสดุจัดทำประโยชน์สร้างอาคารพาณิชย์ให้บุคคลอื่นเช่าทำการค้าจำเลยเป็นผู้ก่อสร้างอาคารพิพาทบนที่ดินดังกล่าวแล้วยกกรรมสิทธิ์ให้กระทรวงการคลัง โดยกระทรวงการคลังยินยอมให้จำเลยเป็นผู้เช่าอาคารหรือโอนสิทธิการเช่าอาคารพิพาทได้สิทธิการเช่าจึงเกิดขึ้นจากนิติกรรมหรือข้อตกลงมิใช่เป็นทรัพยสิทธิ แต่เป็นสิทธิเกี่ยวกับทรัพย์สินซึ่งอาจจำหน่ายจ่ายโอนกันได้
จำเลยผู้มีสิทธิการเช่าอาคารที่พิพาทได้โอนสิทธินั้นให้แก่ผู้ร้องผู้ร้องได้ชำระเงินให้ครบถ้วนตามสัญญาและเข้าครอบครองอาคารแล้วแม้ข้อตกลงโอนสิทธิการเช่าจะมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และยังมิได้มีการจดทะเบียนยกกรรมสิทธิ์อาคารให้แก่กระทรวงการคลังและยังไม่ได้ชำระค่าเช่าให้แก่เทศบาลเมืองสมุทรปราการผู้เช่าที่ดินดังกล่าวก็หาทำให้ข้อตกลงการโอนสิทธิการเช่านั้นเป็นโมฆะไม่ผู้ร้องจึงอยู่ในฐานะที่จะเรียกร้องให้จดทะเบียนการเช่าและขอชำระค่าเช่าได้ตามสัญญาโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะนำยึดสิทธิการเช่าดังกล่าวโดยอ้างว่ายังเป็นของจำเลยหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3135/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของร่วมที่ดิน: สิทธิการขายเฉพาะส่วน, การครอบครองทำกิน, และผลของการยึดทรัพย์
ที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์จำเลยร่วมกัน จำเลยไม่มีสิทธินำที่ดินพิพาทส่วนของโจทก์ไปขายโดยโจทก์ไม่ยินยอม จำเลยคงมีสิทธิขายได้เฉพาะส่วนของตนเท่านั้นการที่จำเลยทำสัญญาขายที่ดินพิพาทให้แก่ผู้ร้องจึงมีผลผูกพันเฉพาะส่วนของจำเลย ส่วนของโจทก์ยังคงมีอยู่ตามเดิม
ผู้ร้องเข้าครอบครองทำกินในที่ดินพิพาทก่อนจำเลยทำสัญญาขายที่ดินพิพาทให้ผู้ร้องนั้น เป็นการเข้าครอบครองทำกินต่างดอกเบี้ย ถือว่าเป็นการครอบครองแทนโจทก์จำเลย ส่วนหลังจากจำเลยทำสัญญาขายที่ดินพิพาทให้ผู้ร้องถือได้ว่า ผู้ร้องเข้าครอบครองที่ดินพิพาทตามสัญญาซื้อขายซึ่งผู้ร้องได้สิทธิเฉพาะส่วนของจำเลยเท่านั้นที่ผู้ร้องครอบครองที่ดินพิพาททั้งแปลงย่อมถือได้ว่าเป็นการครอบครองแทนโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของร่วม มิใช่เป็นการแย่งการครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมายจะนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 มาใช้บังคับไม่ได้
ผู้ร้องขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทก็ดี เสียภาษีบำรุงท้องที่ในที่ดินพิพาทก็ดี ไม่ปรากฏว่าโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของร่วมได้รู้เห็นในการกระทำดังกล่าวด้วย ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการบอกกล่าวแสดงเจตนาเปลี่ยนลักษณะแห่งการครอบครองต่อโจทก์ ผู้ร้องจึงไม่ได้สิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทส่วนของโจทก์
ข้อเท็จจริงปรากฏว่าที่ดินพิพาทตกเป็นของผู้ร้องตั้งแต่ก่อนที่โจทก์จะฟ้องขอแบ่งจากจำเลย คำพิพากษาที่ให้จำเลยแบ่งที่ดินที่พิพาทให้โจทก์ จึงไม่มีผลบังคับเอากับผู้ร้อง โจทก์จึงจะยึดที่ดินพิพาทซึ่งเจ้าของรวมคือโจทก์กับผู้ร้องมาขายทอดตลาดไม่ได้ เพราะโจทก์มิได้ฟ้องขอแบ่งจากผู้ร้อง
of 82