คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 288

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 813 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 54/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการพิจารณาคำร้องขัดทรัพย์: ศาลจำกัดอำนาจพิจารณาเฉพาะการปล่อยทรัพย์สินที่ยึดเท่านั้น
ในชั้นร้องขัดทรัพย์ กฎหมายประสงค์ให้ศาลที่ออกหมายบังคับคดีชี้ขาดเพียงว่าสมควรปล่อยทรัพย์สินที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดไว้หรือไม่เท่านั้น จะไปเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์สำหรับที่พิพาทซึ่งมีชื่อผู้ร้องด้วยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 54/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการพิจารณาคำร้องขัดทรัพย์: ศาลจำกัดอำนาจเฉพาะการปล่อยทรัพย์ที่ยึด ไม่สามารถเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้
ในชั้นร้องขัดทรัพย์ กฎหมายประสงค์ให้ศาลที่ออกหมายบังคับคดีชี้ขาดเพียงว่าสมควรปล่อยทรัพย์สินที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดไว้หรือไม่เท่านั้น จะไปเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์สำหรับที่พิพาทซึ่งมีชื่อผู้ร้องด้วยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3836/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ น.ส.3 ไม่ใช่หลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของที่ดิน ศาลต้องสืบพยานข้อเท็จจริงก่อนวินิจฉัย
หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) หาใช่เป็นหลักฐานที่แสดงว่าผู้มีชื่อในหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินนั้นเสมอไปดังเช่นโฉนดที่ดินไม่
โจทก์นำยึดที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ซึ่งมีชื่อจำเลย ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของผู้ร้องจำเลยเป็นเพียงผู้เช่าอาศัยทำกินเท่านั้น รูปคดีจำต้องสืบพยานฟังข้อเท็จจริงให้สิ้นกระแสความก่อน ศาลจะวินิจฉัยคดีโดยอาศัยเหตุที่ว่าจำเลยมีชื่อในหนังสือรับรองการทำประโยชน์ จึงถือว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครองโดยมิได้ทำการสืบพยานเสียก่อนนั้นเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3836/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ น.ส.3 ไม่ใช่หลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของที่ดิน ศาลต้องสืบพยานข้อเท็จจริงก่อนวินิจฉัย
หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) หาใช่เป็นหลักฐานที่แสดงว่าผู้มีชื่อในหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินนั้นเสมอไปดังเช่นโฉนดที่ดินไม่
โจทก์นำยึดที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ซึ่งมีชื่อจำเลย ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของผู้ร้องจำเลยเป็นเพียงผู้เช่าอาศัยทำกินเท่านั้น รูปคดีจำต้องสืบพยานฟังข้อเท็จจริงให้สิ้นกระแสความก่อน ศาลจะวินิจฉัยคดีโดยอาศัยเหตุที่ว่าจำเลยมีชื่อในหนังสือรับรองการทำประโยชน์ จึงถือว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครองโดยมิได้ทำการสืบพยานเสียก่อนนั้นเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3835/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดตึกแยกจากที่ดิน และผลของการโอนทรัพย์หลังการยึดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
เมื่อการยึดตึกพิพาทเป็นการยึดแต่ตัวตึกโดยไม่ได้ยึดรวมกับที่ดินที่ตึกตั้งอยู่ด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับอสังหาริมทรัพย์เช่นนี้ได้แก่นายอำเภอหรือผู้ทำการแทน ดังนั้นเมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการยึดตึกพิพาทและได้มีหนังสือแจ้งการยึดไปยังหัวหน้าเขตแล้ว ย่อมเป็นการเพียงพอที่จะถือได้ว่ามีการแจ้งให้เจ้าพนักงานที่ดินผู้มีหน้าที่ทราบแล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 304 และย่อมมีผลตามมาตรา 305 การที่จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้โอนตึกพิพาทที่ถูกยึดแก่ผู้ร้องในภายหลัง จึงหาอาจใช้ยันแก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3835/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดตึกแยกจากที่ดิน: การแจ้งยึดไปยังหัวหน้าเขตเพียงพอ และใช้ยันผู้ซื้อตึกได้
เมื่อการยึดตึกพิพาทเป็นการยึดแต่ตัวตึกโดยไม่ได้ยึดรวมกับที่ดินที่ตึกตั้งอยู่ด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับอสังหาริมทรัพย์เช่นนี้ได้แก่นายอำเภอหรือผู้ทำการแทน ดังนั้นเมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการยึดตึกพิพาทและได้มีหนังสือแจ้งการยึดไปยังหัวหน้าเขตแล้ว ย่อมเป็นการเพียงพอที่จะถือได้ว่ามีการแจ้งให้เจ้าพนักงานที่ดินผู้มีหน้าที่ทราบแล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 304 และย่อมมีผลตามมาตรา 305 การที่จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้โอนตึกพิพาทที่ถูกยึดแก่ผู้ร้องในภายหลัง จึงหาอาจใช้ยันแก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3698/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงเจตนาลวงในการทำสัญญาหย่าและการบังคับคดียึดทรัพย์สิน
หนังสือข้อตกลงหย่าและการจดทะเบียนหย่า ผู้ร้องกับจำเลยแสดงเจตนาลวงโดยสมรู้ระหว่างกันกระทำขึ้น หรืออีกนัยหนึ่งเป็นการกระทำขึ้นโดยสมยอมจึงไม่ผูกพันโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ทรัพย์สินที่โจทก์นำยึดจึงเป็นสินสมรสซึ่งผู้ร้องกับจำเลยมีกรรมสิทธิ์ร่วมกันผู้ร้องไม่มีอำนาจมาร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3698/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงเจตนาลวงในการหย่าและการยึดทรัพย์สิน: สิทธิของเจ้าหนี้ต่อสินสมรส
หนังสือข้อตกลงหย่าและการจดทะเบียนหย่า ผู้ร้องกับจำเลยแสดงเจตนาลวงโดยสมรู้ระหว่างกันกระทำขึ้นหรืออีกนัยหนึ่งเป็นการกระทำขึ้นโดยสมยอมจึงไม่ผูกพันโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ทรัพย์สินที่โจทก์นำยึดจึงเป็นสินสมรสซึ่งผู้ร้องกับจำเลยมีกรรมสิทธิ์ร่วมกันผู้ร้องไม่มีอำนาจมาร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2987/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร้องขัดทรัพย์: ภาระการพิสูจน์ตกแก่ผู้ร้องเมื่ออ้างว่าเป็นเจ้าของทรัพย์
การร้องขัดทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288 ผู้ร้องขัดทรัพย์มีฐานะเสมือนเป็นโจทก์ ส่วนโจทก์มีฐานะเสมือนเป็นจำเลยเมื่อผู้ร้องขัดทรัพย์กล่าวอ้างว่าทรัพย์ที่ยึดทั้งหมดเป็นของตน แต่โจทก์ให้การยืนยันว่าเป็นของจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา เมื่อไม่มีข้อสันนิษฐานของกฎหมายอันเป็นคุณแก่ผู้ร้องขัดทรัพย์แล้ว ภาระการพิสูจน์ย่อมตกแก่ผู้ร้องขัดทรัพย์ที่จะนำสืบให้สมข้อกล่าวอ้างนั้น เมื่อทั้งสองฝ่ายไม่สืบพยานผู้ร้องขัดทรัพย์จึงไม่อาจชนะคดีโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2978/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดทรัพย์: ภาระการพิสูจน์ตกแก่ผู้ขัดทรัพย์เมื่อฝ่ายตรงข้ามปฏิเสธ
การร้องขัดทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา288 ผู้ร้องขัดทรัพย์มีฐานะเสมือนเป็นโจทก์ ส่วนโจทก์มีฐานะเสมือนเป็นจำเลย เมื่อผู้ร้องขัดทรัพย์กล่าวอ้างว่าทรัพย์ที่ยึดทั้งหมดเป็นของตน แต่โจทก์ให้การยืนยันว่าเป็นของจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา เมื่อไม่มีข้อสันนิษฐานของกฎหมายอันเป็นคุณแก่ผู้ร้องขัดทรัพย์แล้วภาระการพิสูจน์ย่อมตกแก่ผู้ร้องขัดทรัพย์ที่จะต้องนำสืบให้สมข้อกล่าวอ้างนั้น เมื่อทั้งสองฝ่ายไม่สืบพยานผู้ร้องขัดทรัพย์จึงไม่อาจชนะคดีโจทก์ได้
of 82