พบผลลัพธ์ทั้งหมด 813 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1163/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ร่วมในบ้านที่สร้างจากการรื้อถอนและปลูกสร้างใหม่โดยใช้เงินที่ได้มาจากการอยู่กินฉันสามีภรรยา
มารดาผู้ร้องยกบ้านให้ผู้ร้องในขณะที่ผู้ร้องอยู่กินกับจำเลยฉันสามีภรรยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรส ผู้ร้องรื้อบ้านนั้นและขนย้ายเอามาปลูกขึ้นใหม่เป็นบ้านพิพาท ทั้งนี้ได้ใช้จ่ายเงินเป็นค่าซื้อไม้ฝาและสีทาเพิ่มเติม กับค่าตะปูและค่ารื้อถอนขนย้าย รวมทั้งค่าแรงปลูกสร้างด้วย โดยค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นเงินที่ผู้ร้องและจำเลยทำมาหาได้ระหว่างอยู่กินฉันสามีภรรยา และเมื่อปลูกสร้างเสร็จผู้ร้องกับจำเลยก็อยู่ร่วมกันในบ้านพิพาทตลอดมาดังนี้ ถือว่าผู้ร้องและจำเลยเป็นเจ้าของร่วมในบ้านนั้น โจทก์เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยนำยึดบ้านพิพาทส่วนของจำเลยได้ผู้ร้องมีสิทธิเพียงร้องขอกันส่วนของผู้ร้องเท่านั้นหามีสิทธิร้องขอให้ปล่อยบ้านพิพาทไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1049/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์สินสมรส: เจ้าของร่วมมีสิทธิขอแบ่งส่วน แต่ไม่มีสิทธิขอปล่อยทรัพย์
โจทก์นำยึดที่ดินซึ่งเป็นสินสมรสระหว่างจำเลยและผู้ร้องโดยไม่ต้องขอแบ่งส่วนของจำเลยออกก่อนได้ ผู้ร้องเป็นเจ้าของร่วมในทรัพย์ที่ถูกยึดชอบที่จะร้องขอต่อศาลให้กันส่วนของผู้ร้องออกได้ แต่จะร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ถูกยึดไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 396/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินต้องทำตามกฎหมาย หากไม่จดทะเบียนสิทธิ โอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้ แม้ครอบครองทำประโยชน์แล้ว
การได้ที่พิพาทมาโดยนิติกรรม เมื่อมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนการได้มากับพนักงานเจ้าหน้าที่ ย่อมไม่บริบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคแรก กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทจึงยังไม่โอนมา
แม้ผู้ร้องจะได้เข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่พิพาทมาเป็นเวลา 5 ปีเศษแล้ว แต่ก็ได้ปล่อยปละละเลยมิได้ดำเนินการเพื่อให้มีการจดทะเบียนการได้มา แสดงว่าผู้ร้องไม่ประสงค์จะให้มีการจดทะเบียนการได้มาซึ่งที่พิพาทนั้น ผู้ร้องจึงมิใช่ผู้อยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้อยู่ก่อน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300
แม้ผู้ร้องจะได้เข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่พิพาทมาเป็นเวลา 5 ปีเศษแล้ว แต่ก็ได้ปล่อยปละละเลยมิได้ดำเนินการเพื่อให้มีการจดทะเบียนการได้มา แสดงว่าผู้ร้องไม่ประสงค์จะให้มีการจดทะเบียนการได้มาซึ่งที่พิพาทนั้น ผู้ร้องจึงมิใช่ผู้อยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้อยู่ก่อน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 396/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์โดยนิติกรรมต้องจดทะเบียน มิฉะนั้นกรรมสิทธิ์ยังไม่โอน การครอบครองโดยไม่จดทะเบียนไม่ทำให้เป็นเจ้าของ
การได้ที่พิพาทมาโดยนิติกรรม เมื่อมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนการได้มากับพนักงานเจ้าหน้าที่ ย่อมไม่บริบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคแรก กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทจึงยังไม่โอนมา
แม้ผู้ร้องจะได้เข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่พิพาทมาเป็นเวลา5 ปีเศษแล้วแต่ก็ได้ปล่อยปละละเลยมิได้ดำเนินการเพื่อให้มีการจดทะเบียนการได้มา แสดงว่าผู้ร้องไม่ประสงค์จะให้มีการจดทะเบียนการได้มาซึ่งที่พิพาทนั้น ผู้ร้องจึงมิใช่ผู้อยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้อยู่ก่อน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300
แม้ผู้ร้องจะได้เข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่พิพาทมาเป็นเวลา5 ปีเศษแล้วแต่ก็ได้ปล่อยปละละเลยมิได้ดำเนินการเพื่อให้มีการจดทะเบียนการได้มา แสดงว่าผู้ร้องไม่ประสงค์จะให้มีการจดทะเบียนการได้มาซึ่งที่พิพาทนั้น ผู้ร้องจึงมิใช่ผู้อยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้อยู่ก่อน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3388/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าหนี้ในการยึดทรัพย์มรดกที่ยังมิได้แบ่งปัน และการรับคำร้องขอค่าธรรมเนียมศาลหลังพ้นกำหนด
ผู้ร้องกับสามีเป็นเจ้าของทรัพย์พิพาท จำเลยเป็นบุตรของผู้ร้อง เมื่อสามีของผู้ร้องถึงแก่กรรมไปโดยมิได้ทำพินัยกรรมยกมรดกส่วนของตนให้แก่ผู้ใด ดังนั้น ส่วนที่เป็นของสามีจึงเป็นมรดกตกทอดแก่ทายาทโดยธรรมทุกคน รวมทั้งผู้ร้องซึ่งเป็นภริยาและจำเลยซึ่งเป็นบุตรด้วย เมื่อทรัพย์นั้นยังมิได้แบ่งปันกันระหว่างทายาท โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ของจำเลยตามคำพิพากษา ย่อมมีสิทธิ์ที่จะยึดทรัพย์ดังกล่าวเพื่อบังคับชำระหนี้ได้ ผู้ร้องเป็นเพียงเจ้าของร่วมกันหามีอำนาจร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดได้ไม่ ได้แต่จะร้องขอส่วนแบ่งหรือร้องขอให้กับเงินส่วนของตนออกเมื่อขายทรัพย์แล้วเท่านั้น
โจทก์ยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดอายุอุทธรณ์พร้อมด้วยคำขออุทธรณ์คนอนาถาระหว่างไต่สวน ก่อนศาลมีคำสั่ง แต่พ้นกำหนดอายุอุทธรณ์แล้ว โจทก์ขอเสียค่าธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นอนุญาตและสั่งรับอุทธรณ์โจทก์ เช่นนี้ถือได้ว่าศาลชั้นต้นสั่งชอบแล้วและไม่ขาดอายุอุทธรณ์ เพราะในระหว่างศาลชั้นต้นดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 นั้น กฎหมายไม่ได้บังคับให้โจทก์ต้องวางเงินค่าธรรมเนียม (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 679/2486 แล 22/2493)
โจทก์ยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดอายุอุทธรณ์พร้อมด้วยคำขออุทธรณ์คนอนาถาระหว่างไต่สวน ก่อนศาลมีคำสั่ง แต่พ้นกำหนดอายุอุทธรณ์แล้ว โจทก์ขอเสียค่าธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นอนุญาตและสั่งรับอุทธรณ์โจทก์ เช่นนี้ถือได้ว่าศาลชั้นต้นสั่งชอบแล้วและไม่ขาดอายุอุทธรณ์ เพราะในระหว่างศาลชั้นต้นดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 นั้น กฎหมายไม่ได้บังคับให้โจทก์ต้องวางเงินค่าธรรมเนียม (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 679/2486 แล 22/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3388/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าหนี้ในการยึดทรัพย์มรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง และการรับคำอุทธรณ์พร้อมคำขออนาถา
ผู้ร้องกับสามีเป็นเจ้าของทรัพย์พิพาท จำเลยเป็นบุตรของผู้ร้อง เมื่อสามีของผู้ร้องถึงแก่กรรมไปโดยมิได้ทำพินัยกรรมยกมรดกส่วนของตนให้แก่ผู้ใด ดังนั้น ส่วนที่เป็นของสามีจึงเป็นมรดกตกทอดแก่ทายาทโดยธรรมทุกคน รวมทั้งผู้ร้องซึ่งเป็นภริยาและจำเลยซึ่งเป็นบุตรด้วย เมื่อทรัพย์นั้นยังมิได้แบ่งปันกันระหว่างทายาท โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ของจำเลยตามคำพิพากษา ย่อมมีสิทธิที่จะยึดทรัพย์ดังกล่าวเพื่อบังคับชำระหนี้ได้ ผู้ร้องเป็นเพียงเจ้าของร่วมกันหามีอำนาจร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดได้ไม่ ได้แต่จะร้องขอส่วนแบ่งหรือร้องขอให้กันเงินส่วนของตนออกเมื่อขายทรัพย์แล้วเท่านั้น
โจทก์ยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดอายุอุทธรณ์พร้อมด้วยคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาระหว่างไต่สวน ก่อนศาลมีคำสั่งแต่พ้นกำหนดอายุอุทธรณ์แล้ว โจทก์ขอเสียค่าธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นอนุญาตและสั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์เช่นนี้ถือได้ว่าศาลชั้นต้นสั่งชอบแล้วและไม่ขาดอายุอุทธรณ์ เพราะในระหว่างศาลชั้นต้นดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 นั้น กฎหมายไม่ได้บังคับให้โจทก์ต้องวางเงินค่าธรรมเนียม (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 679/2486 และ 22/2493)
โจทก์ยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดอายุอุทธรณ์พร้อมด้วยคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาระหว่างไต่สวน ก่อนศาลมีคำสั่งแต่พ้นกำหนดอายุอุทธรณ์แล้ว โจทก์ขอเสียค่าธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นอนุญาตและสั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์เช่นนี้ถือได้ว่าศาลชั้นต้นสั่งชอบแล้วและไม่ขาดอายุอุทธรณ์ เพราะในระหว่างศาลชั้นต้นดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 นั้น กฎหมายไม่ได้บังคับให้โจทก์ต้องวางเงินค่าธรรมเนียม (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 679/2486 และ 22/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3223/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการคัดค้านการบังคับคดี กรณีอ้างว่าทรัพย์สินเป็นของผู้ร้อง ไม่ใช่จำเลย
ในกรณีที่ผู้ร้องอ้างว่าที่ดินที่โจทก์ขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษามิใช่ของจำเลย แต่เป็นของผู้ร้อง ผู้ร้องจึงชอบที่จะยื่นคำร้องขอต่อศาลได้ตามนัยแห่งบทบัญญัติมาตรา 7(2)288 และ 296 แห่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ซึ่งศาลจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป เมื่อผู้ร้องได้เสียค่าธรรมเนียมตามคำร้องในเรื่องนี้แล้ว ไม่จำเป็นที่ผู้ร้องจะต้องไปฟ้องเป็นคดีใหม่อีกต่างหาก
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 802/2491)
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 802/2491)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3174/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สิทธิร้องขัดทรัพย์โดยไม่สุจริตเพื่อประวิงคดี ทำให้ศาลยกคำร้องขัดทรัพย์
คดีได้มีการประกาศขายทอดตลาดแล้ว และเลื่อนการขายทอดตลาดเรื่อยมาโดยเฉพาะผู้ร้องขัดทรัพย์ซึ่งเป็นบุตรจำเลยได้ยื่นคำร้องขัดทรัพย์มาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกศาลสั่งจำหน่ายคดี ครั้งที่ 2 ขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาศาลชั้นต้นยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา คดีถึงที่สุด ศาลกำหนดให้ผู้ร้องนำค่าธรรมเนียมศาลมาชำระภายใน 7 วัน มีการประกาศขายทอดตลาดอีก แต่ก่อนวันนัดซึ่งล่วงเลยเวลาที่ศาลให้ผู้ร้องนำเงินค่าธรรมเนียมศาลมาเสียเกือบ 3 เดือนผู้ร้องขัดทรัพย์กลับมายื่นฟ้องขัดทรัพย์ใหม่เป็นครั้งที่ 3 พฤติการณ์ดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ร้องมีเจตนาที่จะประวิงคดีมิให้ศาลขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยที่ถูกยึดเท่านั้น เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ต้องยกคำร้องขัดทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3174/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สิทธิร้องขัดทรัพย์โดยไม่สุจริตเพื่อประวิงคดีและขัดขวางการขายทอดตลาด
คดีได้มีการประกาศขายทอดตลาดแล้ว และเลื่อนการขายทอดตลาดเรื่อยมาโดยเฉพาะผู้ร้องขัดทรัพย์ซึ่งเป็นบุตรจำเลยได้ยื่นคำร้องขัดทรัพย์มาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกศาลสั่งจำหน่ายคดี ครั้งที่ 2 ขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา คดีถึงที่สุด ศาลกำหนดให้ผู้ร้องนำค่าธรรมเนียมศาลมาชำระภายใน 7 วัน มีการประกาศขายทอดตลาดอีก แต่ก่อนวันนัดซึ่งล่วงเลยเวลาที่ศาลให้ผู้ร้องนำเงินค่าธรรมเนียมศาลมาเสียเกือ บ 3 เดือน ผู้ร้องขัดทรัพย์กลับมายื่นร้องขัดทรัพย์ใหม่เป็นครั้งที่ 3 พฤติการณ์ดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ร้องมีเจตนาที่จะประวิงคดีมิให้ศาลขายทอดตลาดของจำเลยที่ถูกยึดเท่านั้น เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ต้องยกคำร้องขัดทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2922/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์โดยมิชอบ: ผู้ซื้อสุจริตในตลาดมีสิทธิไม่คืนทรัพย์ให้เจ้าของเดิม หากเจ้าของเดิมไม่ชดใช้ราคาซื้อ
แม้จะปรากฏว่าทรัพย์ที่โจทก์นำยึดเป็นของโจทก์ไม่ใช่ของจำเลย แต่ผู้ร้องได้ซื้อมาโดยสุจริตในท้องตลาดผู้ร้องไม่จำต้องคืนให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของแท้จริงเว้นแต่ โจทก์จะชดใช้ราคาที่ซื้อมา ซึ่งเป็นสิทธิอย่างหนึ่งที่ผู้ร้องได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1332 โจทก์จึงนำยึดทรัพย์ดังกล่าวโดยไม่ชดใช้ราคา ที่ผู้ร้องซื้อมาไม่ได้