พบผลลัพธ์ทั้งหมด 813 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 154/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของร่วมและลูกหนี้ตามคำพิพากษา การยึดทรัพย์ในเขตปฏิรูปที่ดิน
เมื่อจำเลยและผู้ร้องเป็นเจ้าของร่วมในที่ดินพิพาทที่โจทก์นำยึด โดยจำเลยเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาของโจทก์ ผู้ร้องย่อมไม่มีสิทธิร้องขอให้ปล่อยจากการยึด จะร้องขอให้ปล่อยได้ก็แต่เฉพาะกรณีที่กล่าวอ้างว่าจำเลยหรือลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่ใช่เจ้าของทรัพย์สินที่ถูกยึด
การที่พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518มาตรา 28 วรรคแรก บัญญัติว่าภายในระยะเวลา 3 ปี นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตปฏิรูปที่ดินตามมาตรา 25 ใช้บังคับ ห้ามมิให้ผู้ใดจำหน่ายด้วยประการใด ๆ หรือก่อให้เกิดภาระติดพันใด ๆ ซึ่งที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากคณะกรรมการหรือผู้ซึ่งคณะกรรมการมอบหมายนั้น. มิได้เป็นการห้ามจำหน่ายโดยเด็ดขาดหากแต่มีการผ่อนคลายไว้ว่าถ้าได้รับอนุญาตก็ทำการจำหน่ายได้ ทั้งพระราชบัญญัติดังกล่าวก็มิได้บัญญัติว่าที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี โจทก์จึงมีสิทธินำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพิพาทมาขายทอดตลาดเพื่อเอาชำระหนี้ได้
การที่พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518มาตรา 28 วรรคแรก บัญญัติว่าภายในระยะเวลา 3 ปี นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตปฏิรูปที่ดินตามมาตรา 25 ใช้บังคับ ห้ามมิให้ผู้ใดจำหน่ายด้วยประการใด ๆ หรือก่อให้เกิดภาระติดพันใด ๆ ซึ่งที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากคณะกรรมการหรือผู้ซึ่งคณะกรรมการมอบหมายนั้น. มิได้เป็นการห้ามจำหน่ายโดยเด็ดขาดหากแต่มีการผ่อนคลายไว้ว่าถ้าได้รับอนุญาตก็ทำการจำหน่ายได้ ทั้งพระราชบัญญัติดังกล่าวก็มิได้บัญญัติว่าที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี โจทก์จึงมีสิทธินำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพิพาทมาขายทอดตลาดเพื่อเอาชำระหนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1449/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบังคับคดีและการโต้แย้งกรรมสิทธิ์ทรัพย์สิน: จำเลยไม่มีสิทธิฎีกาในคำสั่งศาลที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหนี้และเจ้าพนักงานบังคับคดี
เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์สินตามคำร้องของโจทก์ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาแล้วนั้น เป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเท่านั้น จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่มีสิทธิที่จะโต้แย้งคำสั่งนั้นว่าผู้อื่นเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ได้ยึดไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1449/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการบังคับคดีและการโต้แย้งการยึดทรัพย์: จำเลยไม่มีสิทธิฎีกาคำสั่งระหว่างศาลกับเจ้าหนี้
เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์สินตามคำร้องของโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาแล้วนั้นเป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเท่านั้น จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่มีสิทธิที่จะโต้แย้งคำสั่งนั้นว่าผู้อื่นเป็นเจ้าของทรัพย์ที่ได้ยึดไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 31/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์ก่อนคำพิพากษาและการปล่อยทรัพย์เมื่อไม่บังคับคดี ศาลต้องพิจารณาการปล่อยทรัพย์ตามสิทธิของผู้ร้อง
โจทก์นำยึดรถยนต์ก่อนคำพิพากษา เมื่อศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีแล้ว โจทก์ไม่บังคับคดี การยึดทรัพย์สิ้นผล ไม่มีประโยชน์ที่จะพิจารณาคำร้องขัดทรัพย์ของผู้ร้องต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2699/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแยกทรัพย์สินระหว่างคู่ไม่สมรส: ที่ดินยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ส่วนตัว, ห้องแถวปลูกร่วมกันเป็นทรัพย์สินร่วม
หญิงชายอยู่ร่วมกันโดยไม่จดทะเบียนสมรส มารดาหญิงยกที่ดินให้หญิง ไม่เป็นกรรมสิทธิ์รวมระหว่างชายหญิง ส่วนห้องแถวปลูกในที่ดินโดยชายหญิงร่วมกันปลูกด้วยแรงหรือด้วยเงินของฝ่ายใด ถือว่าเป็นทรัพย์ที่ทำมาหาได้ร่วมกัน เป็นเจ้าของร่วมกัน ชายถูกยึดทรัพย์หญิงร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2487/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาแบ่งสินสมรสเพื่อหลีกเลี่ยงเจ้าหนี้: ไม่ผูกพันเจ้าหนี้
สามีภริยาจดทะเบียนหย่าและทำสัญญาแบ่งสินสมรสโดยสมยอมเพื่อมิให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของภริยายึดทรัพย์ที่แบ่งเป็นของสามี เจ้าหนี้ยึดสินสมรสนั้นได้ สัญญาแบ่งทรัพย์เป็นเจตนาลวง ไม่ผูกพันเจ้าหนี้ซึ่งเป็นคนภายนอก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1779/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์และการคุ้มครองสิทธิผู้รับจำนองโดยสุจริต
จำเลยยกกรรมสิทธิ์ที่ดินให้ผู้ร้องโดยมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แม้จะได้ความตามคำร้องว่าผู้ร้องได้เข้าครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นโดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว แต่ผู้ร้องหาได้จดทะเบียนการได้กรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวไม่โจทก์รับจำนองและมีการจดทะเบียนจำนองถูกต้องตามกฎหมายย่อมได้รับการสันนิษฐานว่ากระทำการโดยสุจริต ผู้ร้องไม่อาจยกเรื่องการได้กรรมสิทธิ์ดังกล่าวขึ้นต่อสู้โจทก์ได้ จึงไม่จำเป็นต้องสืบพยานในเรื่องการได้กรรมสิทธิ์ของผู้ร้องต่อไปอีก
ผู้ร้องฎีกาว่า ผู้ร้องมิได้รับรองหรือมีข้อเท็จจริงว่าโจทก์ได้สิทธิมาโดยสุจริตแม้จะมีข้อสันนิษฐานไว้ในกฎหมายผู้ร้องก็สืบคัดค้านได้นั้น ประเด็นข้อนี้ผู้ร้องหาได้ยกขึ้นกล่าวในชั้นอุทธรณ์ไม่ จึงต้องห้ามมิให้ฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาจึงไม่วินิจฉัยให้
ผู้ร้องฎีกาว่า ผู้ร้องมิได้รับรองหรือมีข้อเท็จจริงว่าโจทก์ได้สิทธิมาโดยสุจริตแม้จะมีข้อสันนิษฐานไว้ในกฎหมายผู้ร้องก็สืบคัดค้านได้นั้น ประเด็นข้อนี้ผู้ร้องหาได้ยกขึ้นกล่าวในชั้นอุทธรณ์ไม่ จึงต้องห้ามมิให้ฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาจึงไม่วินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1779/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ต้องจดทะเบียน มิอาจอ้างต่อสู้ผู้รับจำนองสุจริต
จำเลยยกกรรมสิทธิ์ที่ดินให้ผู้ร้องโดยมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แม้จะได้ความตามคำร้องว่าผู้ร้องได้เข้าครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นโดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนา เป็นเจ้าของเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว แต่ผู้ร้องหาได้จดทะเบียนการได้กรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวไม่ โจทก์รับจำนองและมีการจดทะเบียนจำนองถูกต้องตามกฎหมายย่อมได้รับการสันนิษฐานว่ากระทำการโดยสุจริต ผู้ร้องไม่อาจยกเรื่องการได้กรรมสิทธิ์ดังกล่าวขึ้นต่อสู้โจทก์ได้ จึงไม่จำเป็นต้องสืบพยานในเรื่องการได้กรรมสิทธิ์ของผู้ร้องต่อไปอีก
ผู้ร้องฎีกาว่า ผู้ร้องมิได้รับรองหรือมีข้อเท็จจริงว่าโจทก์ได้สิทธิ์มาโดยสุจริตแม้จะมีข้อสันนิษฐานไว้ในกฎหมายผู้ร้องก็สืบคัดค้านได้นั้น ประเด็นข้อนี้ผู้ร้องหาได้ยกขึ้นกล่าวในชั้นอุทธรณ์ไม่ จึงต้องห้ามมิให้ฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาจึงไม่วินิจฉัยให้
ผู้ร้องฎีกาว่า ผู้ร้องมิได้รับรองหรือมีข้อเท็จจริงว่าโจทก์ได้สิทธิ์มาโดยสุจริตแม้จะมีข้อสันนิษฐานไว้ในกฎหมายผู้ร้องก็สืบคัดค้านได้นั้น ประเด็นข้อนี้ผู้ร้องหาได้ยกขึ้นกล่าวในชั้นอุทธรณ์ไม่ จึงต้องห้ามมิให้ฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาจึงไม่วินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1414/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้รับจำนองเหนือทรัพย์จำนอง แม้มีการซื้อขายทรัพย์ก่อนบังคับคดี ผู้ซื้อไม่มีสิทธิขัดทรัพย์
โจทก์ฟ้องผู้จำนองจนมีผลการบังคับคดียึดทรัพย์จำนองขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ให้โจทก์ตามสัญญาจำนองแล้ว การที่ผู้ร้องขัดทรัพย์รับซื้อทรัพย์ที่จำนองจากผู้จำนองและศาลพิพากษาให้ผู้จำนองโอนขายให้แก่ผู้ร้องตามสัญญา แต่ยังมิได้จดทะเบียนโอนให้แก่ผู้ร้องตามคำพิพากษานั้น ผู้ร้องขัดทรัพย์มีฐานะเท่ากับบุคคลภายนอกที่จะได้รับโอนทรัพย์จำนองซึ่งอยู่ใระหว่างถูกยึดขายทอดตลาด ย่อมต้องถูกบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินที่จำนองด้วย ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องขัดทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1414/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้รับจำนองเหนือบุคคลภายนอกที่จะได้รับโอนทรัพย์จำนองที่ถูกยึดขายทอดตลาด
โจทก์ได้ฟ้องผู้จำนองจนมีการบังคับคดียึดทรัพย์จำนองขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ให้โจทก์ตามสัญญาจำนองแล้ว การที่ผู้ร้องขัดทรัพย์รับซื้อทรัพย์ที่จำนองจากผู้จำนองและศาลพิพากษาให้ผู้จำนองโอนขายให้แก่ผู้ร้องตามสัญญาแต่ยังมิได้จดทะเบียนโอนให้แก่ผู้ร้องตามคำพิพากษานั้นผู้ร้องขัดทรัพย์มีฐานะเท่ากับบุคคลภายนอกที่จะได้รับโอนทรัพย์จำนองซึ่งอยู่ในระหว่างถูกยึดขายทอดตลาด ย่อมต้องถูกบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินที่จำนองด้วย ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องขัดทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288