คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 288

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 813 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1151-1152/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการโอนทรัพย์เพื่อหลีกเลี่ยงเจ้าหนี้ในชั้นบังคับคดี ศาลมีอำนาจพิจารณาได้โดยไม่ต้องมีการฟ้องร้องเพิกถอนก่อน
ในชั้นร้องขัดทรัพย์ การที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาโอนทรัพย์สินให้ผู้อื่นโดยไม่สุจริตเป็นเหตุให้เจ้าหนี้อื่นเสียเปรียบนั้น เป็นการพิจารณาชั้นบังคับคดี เจตนารมย์ของการบังคับคดียอมให้ว่ากล่าวกันได้ภายหลังการยึดทรัพย์แล้ว ศาลจึงมีอำนาจชี้ขาดตามความในมาตรา 237 ได้ โดยมิพักต้องให้เจ้าหนี้ไปฟ้องดำเนินคดีฟ้องร้องขอให้ทำลายการโอนหรือเพิกถอนการฉ้อฉลเสียก่อนแต่ประการใด(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 18/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ร่วมในสินสมรส: การยึดทรัพย์และการปล่อยทรัพย์
ที่ดินที่โจทก์นำยึดเป็นทรัพย์ซึ่งจำเลยกับผู้ร้องตกลงถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันสืบไปโดยให้ผู้ร้องเป็นฝ่ายรักษาไว้ เช่นนี้ จำเลยยังไม่ขาดสิทธิเรียกร้องเกี่ยวกับที่ดินนั้น ผู้ร้องจะถือว่าได้สิทธิโดยการครอบครองเกิน 1 ปีหาได้ไม่
โจทก์มีสิทธินำยึดที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์ที่จำเลยและผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์ร่วมกัน ผู้ร้องจะขอให้ศาลสั่งปล่อยทรัพย์ดังกล่าวนี้หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดินหลังหย่า: สิทธิเรียกร้องของผู้ร้องเมื่อถูกยึดทรัพย์
ที่ดินที่โจทก์นำยึดเป็นทรัพย์ซึ่งจำเลยกับผู้ร้องตกลงถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันสืบไปโดยให้ผู้ร้องเป็นฝ่ายรักษาไว้ เช่นนี้ จำเลยยังไม่ขาดสิทธิเรียกร้องเกี่ยวกับที่ดินนั้น ผู้ร้องจะถือว่าได้สิทธิโดยการครอบครองเกิน 1 ปีหาได้ไม่
โจทก์มีสิทธินำยึดที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์ที่จำเลยและผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์ร่วมกัน ผู้ร้องจะขอให้ศาลสั่งปล่อยทรัพย์ดังกล่าวนี้หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 928/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดทรัพย์สินบริคณห์เพื่อชำระหนี้ส่วนตัวของภริยา สามีไม่สามารถขัดทรัพย์ได้ แต่มีสิทธิร้องขอแบ่งส่วนได้
โจทก์เป็นเจ้าหนี้จำเลยตามคำพิพากษาโจทก์ย่อมนำยึดสินบริคณห์ ซึ่งจำเลยมีส่วนร่วมอยู่ด้วย เพื่อขอให้ขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้โจทก์ได้ ในกรณีเช่นนี้ ผู้ร้องซึ่งเป็นสามีจำเลยจะมาร้องขัดทรัพย์หาได้ไม่ เมื่อผู้ร้องถือว่าตนเป็นเจ้าของร่วมในทรัพย์ที่ถูกยึดรายนี้ ก็ชอบที่จะร้องขอต่อศาลให้กันส่วนได้ของตนออก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 928/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดทรัพย์สินบริคณห์ชำระหนี้: เจ้าหนี้มีสิทธิยึดได้ แต่เจ้าของร่วมขอแบ่งส่วนได้
โจทก์เป็นเจ้าหนี้จำเลยตามคำพิพากษาโจทก์ย่อมนำยึดสินบริคณห์ซึ่งจำเลยมีส่วนร่วมอยู่ด้วยเพื่อขอให้ขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้โจทก์ได้ ในกรณีเช่นนี้ ผู้ร้องซึ่งเป็นสามีจำเลยจะมาร้องขัดทรัพย์หาได้ไม่ เมื่อผู้ร้องถือว่าตนเป็นเจ้าของร่วมในทรัพย์ที่ถูกยึดรายนี้ก็ชอบที่จะร้องขอต่อศาลให้กันส่วนได้ของตนออก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 927/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินพิพาทร่วมกัน และผลของการยกให้ที่ดินโดยไม่จดทะเบียน
ผู้ร้องและจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทซึ่งในโฉนดมีชื่อผู้ตายร่วมกันมา โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่พิพาทผู้ร้องไม่มีสิทธิที่จะขอให้ถอนการยึด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 927/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินพิพาทและสิทธิในการขอถอนการยึดทรัพย์เมื่อการโอนยังไม่จดทะเบียน
ผู้ร้องและจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทซึ่งในโฉนดมีชื่อผู้ตายร่วมกันมา โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่พิพาทผู้ร้องไม่มีสิทธิที่จะขอให้ถอนการยึด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 924/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าหนี้ในการขอแบ่งสินบริคณห์ แม้เคยขอเฉลี่ยทรัพย์แล้ว ไม่ตัดสิทธิในการขอแบ่งสินบริคณห์เพิ่มเติม
เจ้าหนี้ยื่นคำร้องว่าทรัพย์ที่ยึดเป็นสินบริคณห์ ขอให้แยกสินบริคณห์ซึ่งถูกศาลยึดทรัพย์มาขายทอดตลาดแยกเป็นส่วนของสามี ดังนี้ ไม่ใช่เป็นการร้องขัดทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ แพ่ง มาตรา 288 หากแต่เป็นการขอแบ่งแยกสิบริคณห์ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2503)
การขอเฉลี่ยทรัพย์ คือการขอให้ได้รับชำระหนี้ โดยส่วนเฉลี่ยกับเจ้าหนี้ผู้ทำการยึดทรัพย์จากทรัพย์ของลูกหนี้ที่เจ้าหนี้ยึดไว้ ส่วนการขอแบ่งแยกสินบริคณห์ คือ การขอเอาส่วนอันเป็นส่วนของลูกหนี้ผู้ร้องออกมา
การที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษายื่นคำร้องขอเฉลี่ยและได้เฉลี่ยว่า เป็นสินบริคณห์ก็มิได้ทำให้สิทธิของเจ้าหนี้ในการที่จะขอแบ่งสินบริคณห์มาชำระหนี้หายไป เจ้าหนี้ย่อมที่จะยื่นคำร้องขอแบ่งสินบริคณห์ของลูกหนี้ได้อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 924/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการขอแบ่งสินบริคณห์ แม้ได้มีการเฉลี่ยทรัพย์แล้ว เจ้าหนี้ยังคงมีสิทธิขอแบ่งสินบริคณห์เพื่อชำระหนี้ได้
เจ้าหนี้ยื่นคำร้องว่า ทรัพย์ที่ยึดเป็นสินบริคณห์ขอให้แยกสินบริคณห์ซึ่งถูกศาลยึดทรัพย์มาขายทอดตลาดแยกเป็นส่วนของสามี ดังนี้ ไม่ใช่เป็นการร้องขัดทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288 หากแต่เป็นการขอแบ่งแยกสินบริคณห์ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 8/2503)
การขอเฉลี่ยทรัพย์ คือ การขอให้ได้รับชำระหนี้โดยส่วนเฉลี่ยกับเจ้าหนี้ผู้ทำการยึดทรัพย์จากทรัพย์ของลูกหนี้ที่เจ้าหนี้ยึดไว้ ส่วนการขอแบ่งแยกสินบริคณห์คือ การขอเอาส่วนอันเป็นส่วนของลูกหนี้ผู้ร้องออกมา
การที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษายื่นคำร้องขอเฉลี่ยและได้เฉลี่ยแล้ว แม้เจ้าหนี้นั้นจะไม่ได้กล่าวไว้ในชั้นขอเฉลี่ยว่า เป็นสินบริคณห์ ก็มิได้ทำให้สิทธิของเจ้าหนี้ในการที่จะขอแบ่งสินบริคณห์มาชำระหนี้หายไป เจ้าหนี้ย่อมที่จะยื่นคำร้องขอแบ่งสินบริคณห์ของลูกหนี้ได้อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 778/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีกับทรัพย์ที่อยู่ในมือบุคคลที่สาม: สิทธิของเจ้าหนี้และผู้ครอบครอง
โจทก์ฟ้องเรียกจักรคืนจากจำเลยเพราะจำเลยผิดสัญญาซื้อขาย โจทก์ขอดให้ยึดจักรไว้ก่อนมีคำพิพากษา ศาลอนุญาตเจ้าพนักงานจึงไปยึดจักรรายนี้จากผู้ร้องซึ่งเป็นผู้รับจำนำจักรไว้จากจำเลย เช่นนี้การที่ผู้ร้องร้องขอให้ปล่อยจักรที่ยึด กรณีจึงเป็นเรื่องผู้ร้องร้องขัดทรัพย์ หาใช่เป็นการร้องสอดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57 (1) ไม่ เมื่อโจทก์ถือว่าทรัพย์ของจำเลยไปตกอยู่ที่ผู้ร้อง โจทก์ก็ย่อมดำเนินการบังคับคดีกับทรัพย์ (จักร) นั้นได้ หาจำต้องฟ้องร้องเรียกทรัพย์นั้นจากผู้ร้อง แต่ประการใดไม่ แม้ผู้ร้องจะเถียงว่าเป็นของผู้ร้อง กฎหมายก็เปิดให้มีการร้องขัดทรัพย์ได้ อยู่แล้ว
แม้ผู้ร้องจะมีสิทธิครอบครอง จะเจตนาเป็นเจ้าของ จะรับจักรไว้โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนอย่างใด แต่เมื่อกรรมสิทธิ์ยังอยู่กับจำเลย ส่วนผู้ร้องไม่มีกรรมสิทธิ์เช่นนี้ โจทก์ก็ยังนำยึดจักรนั้นได้
of 82