คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 288

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 813 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1924/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจำนอง vs. สิทธิยึด: การยึดทรัพย์ก่อนกรรมสิทธิจำนองตกเป็นของผู้รับจำนอง
เจ้าหนี้ฟ้องเรียกเงินกู้และดอกเบี้ยจากจำเลยผู้เป็นลูกหนี้จำเลยทำยอมชำระหนี้โดยดี ในระหว่างนั้นผู้รับจำนองได้ฟ้องบังคับจำนองเอากับจำเลยบ้าง จำเลยทำยอมต่อศาลว่ายอมชำระหนี้ทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยให้ภายในกำหนด ถ้าไม่ชำระภายในกำหนดยอมให้ที่นา 2 แปลงที่จำนองไว้หลุดเป็นสิทธิแก่ผู้รับจำนอง ดังนี้ ตามสัญญาประนีประนอมดังกล่าว ยังหามีผลให้นา 2 แปลงหลุดเป็นกรรมสิทธิแก่ผู้รับจำนองทันทีไม่หากแต่มีเงื่อนไขยอมให้หลุดเป็นสิทธิเมื่อไม่ใช้หนี้ภายในกำหนดฉะนั้น ถ้าเจ้าหนี้เงินกู้นำยึดมา 2 แปลงนี้ เพื่อ ขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ของตน ก่อนกำหนดในสัญญาประนีประนอมยอมความ ระหว่างผู้รับจำนองและจำเลยแล้ว ผู้รับจำนองก็มาร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่นา 2 แปลงนั้นไม่ได้ เพราะขณะนำยึดนา 2 แปลงนั้นยังเป็นของจำเลยอยู่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1924/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความกับการบังคับจำนอง: สิทธิในทรัพย์สินยังไม่หลุดจนกว่าจะผิดนัด
เจ้าหนี้ฟ้องเรียกเงินกู้และดอกเบี้ยจากจำเลยผู้เป็นลูกหนี้ จำเลยทำยอมชำระหนี้โดยดี ในระหว่างนั้นผู้รับจำนองได้ฟ้องบังคับจำนองเอากับจำเลยบ้าง จำเลยทำยอมต่อศาลว่ายอมชำระหนี้ทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยให้ภายในกำหนด ถ้าไม่ชำระภายในกำหนดยอมให้ที่นา 2 แปลงที่จำนองไว้ หลุดเป็นสิทธิแก่ผู้รับจำนอง ดังนี้ตามสัญญาประนีประนอมดังกล่าวยังหามีผลให้นา 2 แปลงหลุดเป็นกรรมสิทธิ์แก่ผู้รับจำนองทันทีไม่ หากแต่มีเงื่อนไขยอมให้หลุดเป็นสิทธิเมื่อไม่ใช้หนี้ภายในกำหนด ฉะนั้นถ้าเจ้าหนี้เงินกู้นำยึดนา 2 แปลงนี้ เพื่อขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ของตนก่อนกำหนดในสัญญาประนีประนอมยอมความ ระหว่างผู้รับจำนองและจำเลยแล้ว ผู้รับจำนองก็จะมาร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่นา 2 แปลงนั้นไม่ได้ เพราะขณะนำยึดนา 2 แปลงนั้นยังเป็นของจำเลยอยู่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1902/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับชำระหนี้จากสินบริคณห์ของภรรยา: เจ้าหนี้ต้องขอแยกส่วนก่อนยึด
ตามมาตรา 41 หญิงมีสามีจะทำการผูกพันถึงสินบริคณห์ได้ก็แต่เฉพาะที่เป็นส่วนของตนเท่านั้น ฉะนั้นถ้าหนี้ที่หญิงมีสามีก่อขึ้น ไม่เป็นหนี้ร่วมตามที่ระบุไว้ในป.ม.แพ่งฯมาตรา 1482 แล้ว เจ้าหนี้ของหญิงมีสามีจะยึดสินบริคณห์มาชำระหนี้ตนไม่ได้ จำต้องร้องขอแยกสินบริคณห์ออกเป็นส่วนของหญิงมีสามีก่อน เพื่อเอาชำระหนี้แก่ตน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1902/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับชำระหนี้จากสินบริคณห์ของภริยา: สิทธิของเจ้าหนี้และขอบเขตการบังคับ
ตามมาตรา 41 หญิงมีสามีจะทำการผูกพันถึงสินบริคณห์ได้ก็แต่เฉพาะที่เป็นส่วนของตนเท่านั้น ฉะนั้นถ้าหนี้ที่หญิงมีสามีก่อขึ้น ไม่เป็นหนี้ร่วมตามที่ระบุไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1482 แล้ว เจ้าหนี้ของหญิงมีสามีจะยึดสินบริคณห์มาชำระหนี้ตนไม่ได้ จำต้องร้องขอแยกสินบริคณห์ออกเป็นส่วนของหญิงมีสามีก่อน เพื่อเอาชำระหนี้แก่ตน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1350/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบุคคลภายนอกคัดค้านการบังคับคดีและการงดการขายทอดตลาดทรัพย์สิน
โจทก์ยึดทรัพย์จำเลยเพื่อบังคับคดีโดยการขายทอดตลาดของศาล ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าทรัพย์สินที่ยึดเป็นของผู้ร้อง ๆ กำลังฟ้องขอให้ทำลายการโอน ซึ่งจำเลยรับโอนไปโดยปลอมใบมอบอำนาจและขอให้ทำลายการจำนองระหว่างโจทก์จำเลยอยู่แล้ว ขอให้ศาลงดการขาดทอดตลาดทรัพย์สินรายนี้ไว้ก่อน ดังนี้ ศาลย่อมใช้ดุลยพินิจงดการขายได้ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 306 ประกอบด้วยมาตรา 292 (2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1350/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ถูกยึดชั่วคราวเนื่องจากข้อพิพาทเรื่องการโอนและจำนอง
โจทก์ยึดทรัพย์จำเลยเพื่อบังคับคดีโดยการขายทอดตลาดของศาลผู้ร้องยื่นคำร้องว่าทรัพย์สินที่ยึดเป็นของผู้ร้องผู้ร้องกำลังฟ้องขอให้ทำลายการโอน ซึ่งจำเลยรับโอนไปโดยปลอมใบมอบอำนาจและขอให้ทำลายการจำนองระหว่างโจทก์จำเลยอยู่แล้ว ขอให้ศาลงดการขายทอดตลาดทรัพย์สินรายนี้ไว้ก่อน ดังนี้ ศาลย่อมใช้ดุลพินิจงดการขายได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 306 ประกอบด้วยมาตรา292(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1824/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิร้องขัดทรัพย์ของผู้มีส่วนได้เสีย: ผู้รับสัมปทานไม้มีสิทธิร้องขอปล่อยทรัพย์ที่ถูกยึดได้ แม้มิใช่เจ้าของ
ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 55 นั้น ผู้ที่จะต้องใช้สิทธิทางศาลเช่นในกรณีร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดเพราะทรัพย์นั้นมิใช่ของลูกหนี้ตามคำพิพากษานั้น หาจำจะต้องเป็นผู้มีกรรมสิทธิในทรัพย์นั้นไม่ ผู้มีส่วนได้เสียในกรณีย่อมมาใช้สิทธิทางศาลได้ด้วยการร้องขัดทรัพย์
ผู้รับสัมปทานจากรัฐบาลให้มีสิทธิเข้าถือเอาไม้ในป่าตามที่กำหนดให้นั้น ย่อมมีสิทธิร้องขัดทรัพย์ในเมื่อไม้ที่ถูกตัดมาจากป่าสัมปทานของผู้ร้องได้ถูกยึดทรัพย์ไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1824/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้รับสัมปทานร้องขัดทรัพย์: แม้มิใช่เจ้าของทรัพย์แต่มีส่วนได้เสีย
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 55 นั้น ผู้ที่จะต้องใช้สิทธิทางศาลเช่นในกรณีร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดเพราะทรัพย์นั้นไม่ใช่ของลูกหนี้ตามคำพิพากษานั้น หาจำจะต้องเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์นั้นไม่ ผู้มีส่วนได้เสียในกรณี ย่อมมาใช้สิทธิทางศาลได้ด้วยการร้องขัดทรัพย์
ผู้รับสัมปทานจากรัฐบาลให้มีสิทธิเข้าถือเอาไม้ในป่าตามที่กำหนดให้นั้น ย่อมมีสิทธิร้องขัดทรัพย์ในเมื่อไม้ที่ถูกตัดมาจากป่าสัมปทานของผู้ร้องได้ถูกยึดทรัพย์ไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1823/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิร้องขัดทรัพย์ของผู้มีส่วนได้เสีย ไม่จำกัดเฉพาะเจ้าของทรัพย์ หากทรัพย์สินถูกยึดโดยไม่ชอบ
ประเด็นในเรื่องร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ถูกยึดนั้นมีว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษาเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ถูกยึดนั้นหรือ ไม่ และตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 55 นั้น ผู้ที่จะต้องใช้สิทธิทางศาลในกรณีขอให้ปล่อยทรัพย์นั้น ก็หาจำต้องเป็นผู้มีกรรมสิทธิในทรัพย์นั้นไม่ ผู้มีส่วนได้เสียในกรณีย่อมมาใช้สิทธิทางศาลได้ด้วยการร้องขัดทรัพย์
มีผู้ลอบตัดฟันไม้สักอันเป็นไม้หวงห้ามแล้วแปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาตภายหลังถูกเจ้าหนี้ยึดไม้เหล่านี้ไว้เพื่อ บังคับคดีกรมป่าไม้ซึ่งรัฐหรือแผ่นดินมอบหน้าที่ให้เป็นผู้ดูแลรักษาไม้หวงห้ามย่อมมีสิทธิร้องขัดทรัพย์ขอให้ปล่อย ไม้นั้นได้
ไม้ที่หวงห้ามเป็นส่วนควบของป่าไม้แม้จะถูกลอบลักตัดโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นสังหาริมทรัพย์แล้วก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณะสมบัติของแผ่นดินอยู่+

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1823/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิร้องขัดทรัพย์: ผู้มีส่วนได้เสียไม่ต้องเป็นเจ้าของทรัพย์สิน แต่มีสิทธิเมื่อทรัพย์สินได้มาจากการกระทำผิด
ประเด็นในเรื่องร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ถูกยึดนั้นมีว่า ลูกหนี้ตามคำพิพากษาเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ถูกยึดนั้นหรือไม่ และตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 55 นั้นผู้ที่จะต้องใช้สิทธิทางศาลในกรณีขอให้ปล่อยทรัพย์นั้น ก็หาจำต้องเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์หรือทรัพยสิทธิในทรัพย์นั้นไม่ ผู้มีส่วนได้เสียในกรณีย่อมมาใช้สิทธิทางศาลได้ด้วยการร้องขัดทรัพย์
มีผู้ลอบตัดฟันไม้สัก อันเป็นไม้หวงห้ามแล้วแปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต ภายหลังถูกเจ้าหนี้ยึดไม้เหล่านี้ไว้เพื่อบังคับคดี กรมป่าไม้ซึ่งรัฐหรือแผ่นดินมอบหน้าที่ให้เป็นผู้ดูแลรักษาไม้หวงห้ามย่อมมีสิทธิร้องขัดทรัพย์ขอให้ปล่อยไม้นั้นได้
ไม้ที่หวงห้ามเป็นส่วนควบของป่าไม้ แม้จะถูกลอบลักตัดโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นสังหาริมทรัพย์แล้ว ก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณะสมบัติของแผ่นดินอยู่เช่นเดิม
of 82