พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2407/2560
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จต้องเป็นข้อสำคัญในคดี เพื่อให้มีความผิดฐานเบิกความเท็จ การเบิกความถึงเหตุการณ์ก่อนดำรงตำแหน่งไม่มีผลถอดถอน
คดีที่จำเลยขอให้ถอดถอนโจทก์จากตำแหน่งประธานกรรมการมูลนิธิตาม ป.พ.พ. มาตรา 129 เป็นเรื่องกล่าวหาการกระทำของโจทก์ขณะปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการมูลนิธิเป็นหลัก เมื่อได้ความว่าข้อความที่จำเลยเบิกความในคดีนั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนโจทก์ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการมูลนิธิ การที่จำเลยเบิกความจึงเป็นเพียงให้พฤติการณ์ของโจทก์ตามที่จำเลยกล่าวหาในขณะดำรงตำแหน่งประธานกรรมการมูลนิธิมีน้ำหนักน่าเชื่อถือเท่านั้น ลำพังพฤติการณ์ของโจทก์ตามที่จำเลยเบิกความยังไม่มีน้ำหนักพอให้รับฟังเป็นเหตุถอดถอนโจทก์ได้ ข้อความที่จำเลยเบิกความจึงไม่ใช่ข้อสำคัญในคดีที่จะเป็นความผิดฐานเบิกความเท็จ
เมื่อข้อความที่จำเลยเบิกความไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี จึงไม่มีประโยชน์ที่จะวินิจฉัยว่าข้อความนั้นเป็นความเท็จหรือไม่อีกต่อไป
เมื่อข้อความที่จำเลยเบิกความไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี จึงไม่มีประโยชน์ที่จะวินิจฉัยว่าข้อความนั้นเป็นความเท็จหรือไม่อีกต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3500/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดำเนินคดีไม่มีข้อพิพาทและการมีอำนาจร้องขอเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งกรรมการมูลนิธิ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งบัญญัติให้ศาลชั้นต้นที่รับคำฟ้องต้องส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยเฉพาะในการดำเนินคดีอย่างคดีมีข้อพิพาท หาได้มีบทบัญญัติให้ต้องมีการส่งหมายและสำเนาคำร้องขอให้แก่ผู้ใดในการดำเนินคดีอย่างคดีไม่มีข้อพิพาทไม่ การที่ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้องของผู้ร้องโดยประกาศคำร้องขอและกำหนดนัดไต่สวนคำร้องในหนังสือพิมพ์รายวันและได้ไต่สวนคำร้องหลังจากครบกำหนดประกาศดังกล่าว 15 วัน โดยไม่ได้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำร้องขอของผู้ร้องให้ผู้คัดค้านทั้งห้าก่อนไต่สวนคำร้องของผู้ร้อง จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ชอบแล้ว
เมื่อผู้คัดค้านทั้งห้ามิได้ยื่นคำคัดค้านคำร้องขอของผู้ร้องในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นซึ่งไต่สวนและมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการมูลนิธิเกริกมังคละพฤกษ์ขึ้นใหม่ตามคำร้องขอของผู้ร้อง และคดีถึงที่สุดแล้ว ผู้คัดค้านทั้งห้าจะมีอำนาจร้องขอเป็นคดีนี้ขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลดังกล่าวในคดีก่อนได้ต่อเมื่อมีกฎหมายให้สิทธิผู้คัดค้านทั้งห้าร้องขอต่อศาลได้เช่นนั้น แต่กรณีนี้ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้สิทธิผู้ใดร้องขอต่อศาลเช่นนั้นได้ ผู้คัดค้านทั้งห้าจึงไม่มีอำนาจร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลที่แต่งตั้งคณะกรรมการมูลนิธิเกริกมังคละพฤกษ์ขึ้นใหม่ในคดีนี้ได้ หากคำสั่งศาลดังกล่าวทำให้สิทธิหรือหน้าที่ตามกฎหมายของผู้คัดค้านทั้งห้าถูกโต้แย้ง ก็ชอบที่ผู้คัดค้านทั้งห้าจะฟ้องผู้ที่โต้แย้งสิทธิหรือหน้าที่ของผู้คัดค้านทั้งห้าเป็นคดีอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก
เมื่อผู้คัดค้านทั้งห้ามิได้ยื่นคำคัดค้านคำร้องขอของผู้ร้องในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นซึ่งไต่สวนและมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการมูลนิธิเกริกมังคละพฤกษ์ขึ้นใหม่ตามคำร้องขอของผู้ร้อง และคดีถึงที่สุดแล้ว ผู้คัดค้านทั้งห้าจะมีอำนาจร้องขอเป็นคดีนี้ขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลดังกล่าวในคดีก่อนได้ต่อเมื่อมีกฎหมายให้สิทธิผู้คัดค้านทั้งห้าร้องขอต่อศาลได้เช่นนั้น แต่กรณีนี้ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้สิทธิผู้ใดร้องขอต่อศาลเช่นนั้นได้ ผู้คัดค้านทั้งห้าจึงไม่มีอำนาจร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลที่แต่งตั้งคณะกรรมการมูลนิธิเกริกมังคละพฤกษ์ขึ้นใหม่ในคดีนี้ได้ หากคำสั่งศาลดังกล่าวทำให้สิทธิหรือหน้าที่ตามกฎหมายของผู้คัดค้านทั้งห้าถูกโต้แย้ง ก็ชอบที่ผู้คัดค้านทั้งห้าจะฟ้องผู้ที่โต้แย้งสิทธิหรือหน้าที่ของผู้คัดค้านทั้งห้าเป็นคดีอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2302/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดิน แม้ผู้ขายยังไม่มีกรรมสิทธิ์สมบูรณ์ก็มีผลใช้บังคับได้ และศาลฎีกาสามารถเพิ่มประเด็นข้อพิพาทได้
จำเลยให้การต่อสู้ด้วยว่า จำเลยมีอำนาจทำสัญญาจะซื้อขายกับโจทก์หรือไม่ และก่อนฟ้องโจทก์ได้บอกกล่าวก่อนหรือไม่ แต่ศาลชั้นต้นไม่ได้กำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาท จำเลยได้คัดค้านไว้แล้วเมื่อจำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็มิได้วินิจฉัยให้ ศาลฎีกาจึงกำหนดประเด็นข้อพิพาทเพิ่มขึ้นอีก 2 ข้อ ตามที่จำเลยฎีกาและวินิจฉัยประเด็นข้อพิพาทที่เพิ่มขึ้นไปเสียทีเดียว โดยไม่ย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย จำเลยกับโจทก์ทำสัญญาจะซื้อขายให้โอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินกันภายหน้า แม้ขณะทำสัญญาผู้จะขายยังไม่มีกรรมสิทธิ์หรือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินยังไม่สมบูรณ์ สัญญาก็มีผลใช้บังคับได้ เพราะเมื่อสัญญาถึงกำหนด หากผู้จะขายผิดสัญญาโอนทรัพย์สินให้ผู้จะซื้อไม่ได้ผู้จะซื้อก็สามารถให้ผู้จะขายชดใช้ค่าเสียหายแทนการโอนทรัพย์สินที่จะขายได้ สัญญาจะซื้อขายกำหนดวันไปทำนิติกรรมจดทะเบียนโอนไว้แน่นอนแล้ว โจทก์ไม่จำต้องบอกกล่าวก่อนฟ้อง การที่ พ.และด. ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกที่ดินพิพาทมีชื่ออยู่ในหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในฐานะผู้ครอบครองแทนทายาท จำเลยเป็นทายาทของเจ้ามรดกที่ดินพิพาทย่อมตกได้แก่จำเลยเมื่อจำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินพิพาทให้โจทก์ โจทก์จึงฟ้องบังคับให้จำเลยไปจดทะเบียนขายที่พิพาทให้แก่โจทก์ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1331/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกให้ลาออกเพื่อหลีกเลี่ยงดำเนินคดีทุจริต ไม่ถือเป็นการข่มขู่ให้ลาออก
เมื่อลูกจ้างได้กระทำการอันส่อว่าทุจริตเกี่ยวกับการเงินแล้วนายจ้างบอกให้ลูกจ้างลาออกมิฉะนั้นจะดำเนินคดีเป็นการขู่ว่าจะใช้สิทธิตามปกตินิยม ดังนั้น เมื่อลูกจ้างสมัครใจลาออก จึงถือไม่ได้ว่านายจ้างเลิกจ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 561/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในอาคารบนที่ดินเช่า: ตกลงให้เป็นสิทธิของผู้เช่า ย่อมตกเป็นส่วนควบของที่ดิน
เช่าที่ดินของผู้อื่นปลูกตึกโดยตกลงว่าจะให้ตึกเป็นสิทธิแก่เจ้าของที่ดินจะเป็นในทันทีหรือในภายหน้าก็ตาม เมื่อถึงกำหนดนั้น ๆ แล้วตึกย่อมตกเป็นกรรมสิทธิแก่เจ้าของที่ดินโดยไม่ต้องมีการโอนทะเบียน ในกรณีเช่นนี้ถ้าโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทำการโอนก็ต้องตัดสินยกฟ้อง