คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 158

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,873 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1780/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการถืออาวุธปืน การบรรยายฟ้องที่เพียงพอต่อการเข้าใจข้อหา
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ขณะเกิดเหตุประชาชนกำลังฟังการทำขวัญนาคอยู่มีคนจะวิวาทกัน จำเลยได้ควักปืนลูกซองพกออกมาถือไว้ด้วยความประมาทปืนได้ลั่นไปถูกผู้ตายซึ่งนั่งฟังการทำขวัญนาคอยู่ถึงแก่ความตายดังนี้เป็นฟ้องที่บรรยายถึงการกระทำว่าจำเลยประมาทอย่างไร พอให้จำเลยเข้าใจฟ้องได้ดีแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1780/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการถืออาวุธปืนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ฟ้องชัดเจนจำเลยเข้าใจได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ขณะเกิดเหตุประชาชนกำลังฟังการทำขวัญนาคอยู่มีคนจะวิวาทกัน จำเลยได้ควักปืนลูกซองพกออกมาถือไว้ด้วยความประมาทปืนได้ลั่นไปถูกผู้ตายซึ่งนั่งฟังการทำขวัญนาคอยู่ถึงแก่ความตาย ดังนี้ เป็นฟ้องที่บรรยายถึงการกระทำว่าจำเลยประมาทอย่างไร พอให้จำเลยเข้าใจฟ้องได้ดีแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1716/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การระบุวันเวลาที่กระทำผิด
ฟ้องของโจทก์ในคดีอาญาที่กล่าวหาว่าจำเลยทุจริตต่อหน้าที่และยักยอกทรัพย์ โจทก์บรรยายว่า เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2494 เวลากลางวันจำเลยทั้งสองทำการสอบสวนคดีเรื่องผิดพระราชบัญญัติสุราแล้วเปรียบเทียบปรับผู้ต้องหาสองรายเป็นเงิน 100 บาท แล้วจำเลยสมคบกันยักยอกเอาไว้ ดังนี้เป็นฟ้องที่ถือว่าได้ระบุวันเวลาที่กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดไว้แล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1716/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การระบุวันเวลาที่กระทำผิด
ฟ้องของโจทก์ในคดีอาญาที่กล่าวหาว่าจำเลยทุจริตต่อหน้าที่และยักยอกทรัพย์ โจทก์บรรยายว่า เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม2494 เวลากลางวันจำเลยทั้งสองทำการสอบสวนคดีเรื่องผิดพระราชบัญญัติสุราแล้วเปรียบเทียบปรับผู้ต้องหาสองรายเป็นเงิน 100 บาท แล้วจำเลยสมคบกันยักยอกเอาไว้ ดังนี้เป็นฟ้องที่ถือว่าได้ระบุวันเวลาที่กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดไว้แล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1512-1515/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานก่อการขบถและการเปลี่ยนแปลงราชประเพณีการปกครอง โดยอ้างรัฐธรรมนูญฉบับอื่น
ฟ้องโจทก์กล่าวว่า จำเลยกับพวกสะสมกำลังเครื่องศาสตราวุธ สมคบกันตระเตรียมการและพยายามก่อการขบถช่วยกันปกปิดความผิด ไม่นำความไปร้องเรียน และได้สมคบกันลงมือกระทำการขบถ ทั้งได้บรรยายรายละเอียดแห่งการกระทำของจำเลยไว้โดยชัดแจ้งแล้วย่อมเป็นฟ้องที่ถูกต้องตาม ป.ม.วิ.อาญา มาตรา 158 โจทก์ไม่จำต้องกล่าวเจาะจงจำเลยเป็นคน ๆ ไปว่าผู้ใดกระทำอย่างใด ที่ไหน เวลาใดบ้าง
รัฐธรรมนูญแต่ละฉบับเป็นหลักแห่งการปกครองพระราชอาณาจักรแต่ละฉบับย่อมมีบทบัญญัติแตกต่างกันราชประเพณีการปกครองย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามรัฐธรรมนูญนั้น การที่จำเลยนำเอารัฐธรรมนูญแห่งประเทศไทยฉบับอื่นมาใช้แทนรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงราชประเพณีการปกครองพระราชอาณาจักร
รัฐบาลที่ได้ตั้งขึ้นตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้นได้เข้าครอบครองและบริหารราชการแผ่นดินด้วยความสำเร็จเด็ดขาดและรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศชาติตลอดมา เป็นที่ยอมรับนับถือกันทั่วไปว่าเป็นรัฐบาลอันสมบูรณ์มาช้านานจนบัดนี้ ย่อมถือว่าเป็นรัฐบาลอันชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1438/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยนอกฟ้อง: การหลีกรถในที่คับขันและการประมาทเลินเล่อ
โจทก์ฟ้องกล่าวว่า จำเลยได้ขับรถยนต์ซึ่งห้ามล้อมือเสียใช้การไม่ได้ไปตามถนนหลวงด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังโดยหลีกรถในที่คับขัน เป็นเหตุให้รถที่จำเลยขับชนคนด้วย ดังนี้ศาลวินิจฉัยว่า จำเลยได้หลีกรถในที่คับขันเป็นเหตุให้ชนคนตายโดยประมาท จึงหาเป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1438/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการวินิจฉัยคดีอาญา: การพิจารณาความประมาทและเหตุแห่งการชน
โจทก์ฟ้องกล่าวว่า จำเลยได้ขับรถยนต์ซึ่งห้ามล้อมือเสียใช้การไม่ได้ไปตามถนนหลวงด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังโดยหลีกรถในที่คับขัน เป็นเหตุให้รถที่จำเลยขับชนคนด้วย ดังนี้ศาลวินิจฉัยว่า จำเลยได้หลีกรถในที่คับขันเป็นเหตุให้ชนคนตายโดยประมาท จึงหาเป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1367/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความถูกต้องของเวลาเกิดเหตุในฟ้องอาญา: ผลต่อการพิจารณาคดีและการพิพากษา
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2494 เวลากลางวัน (6.00น.)จำเลยปล้นทรัพย์แม้ทางพิจารณาได้ความว่าเวลาเกิดเหตุเป็นเวลาขมุกขมัวมีแสงสว่างบ้างแล้วซึ่งจะถือว่าเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืนก็ใกล้เคียงกันมาก จะฟ้องฟังว่าข้อเท็จจริงได้ความว่าเหตุเกิดเวลากลางคืนต่างกับข้อเท็จจริงในฟ้องซึ่งบรรยายว่าเหตุเกิดเวลากลางวันจึงให้ยกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา192 ยังไม่ได้และเมื่อฟ้องของโจทก์จำเลยก็เข้าใจข้อหาได้ดีโดยไม่หลงข้อต่อสู้จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1367/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความถูกต้องของเวลาเกิดเหตุในฟ้องอาญา แม้เวลาใกล้เคียงกัน หากจำเลยไม่หลงข้อต่อสู้ ฟ้องไม่ถือว่าไม่สมบูรณ์
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2494 เวลากลางวัน(06.00 น.)จำเลยปล้นทรัพย์แม้ทางพิจารณาได้ความว่าเวลาเกิดเหตุเป็นเวลาขมุกขมัวมีแสงสว่างบ้างแล้วซึ่งจะถือว่าเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืนก็ใกล้เคียงกันมาก จะฟังว่าข้อเท็จจริงได้ความว่าเหตุเกิดเวลากลางคืนต่างกับข้อเท็จจริงในฟ้องซึ่งบรรยายว่าเหตุเกิดเวลากลางวัน จึงให้ยกฟ้องโจทก์ตาม ป.วิ.อาญา ม.192 ยังไม่ได้และเมื่อฟ้องของโจทก์จำเลยก็เข้าใจข้อหาได้ดีโดยไม่หลงข้อต่อสู้จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามป.วิ.อาญา มาตรา 158

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1366/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

of 188