พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,873 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 846/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องความผิดฐานใช้เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย ศาลยึดความเข้าใจโดยทั่วไปของคำฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยบังอาจใช้ยออันเป็นเครื่องมือต้องห้ามตามประกาศ ฯลฯ จับปลาน้ำจืดในฤดูปลามีไข่ ขอ ให้โทษ ดังนี้ ย่อมเป็นที่เข้าใจว่า ายอที่จำเลยใช้จับสัตว์น้ำมีขนาดปากกว้างเกินกว่า 2 เมตร เพราะถ้ายอของจำเลย มีขนาดปากแคบกว่านั้น ก็ไม่ผิดกฎหมาย โจทก์คงไม่ฟ้องจำเลยก็เข้าใจฟ้องโจทก์ได้ดี และรับสารภาพตลอดข้อหา มิได้ยกข้อต่อสู้ใด ๆ หาจำเป็นต้องบรรยายลงในฟ้องว่า ยอมีขนาดปากกว้างเท่าใดด้วยไม่ ก็เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม กฎหมาย./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 729/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องทำร้ายร่างกาย: ศาลใช้บทบัญญัติมาตรา 258 แม้ฟ้องไม่ระบุ หากพิจารณาได้ความจริง
ฟ้องใช้ถ้อยคำว่า "จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ฝ่ายหนึ่ง กับจำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 4 อีกฝ่ายหนึ่ง ต่างสมัครใจเข้า
วิวาทต่อสู้ทำร้ายร่างกาย ซึ่งกันและกัน โดยจำเลยที่ 1 - 2 สมคบกันใช้เหล็กแหลมแทงทำร้ายจำเลยที่ 3 บาดเจ็บสา หัส จำเลยที่ 3 -4 สมคบกันใช้กำลังชกต่อยทำร้ายจำเลยที่ 1 - 2 ถึงบาดเจ็บทุพพลภาพ" ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.
ลักษณะอาญามาตรา 254, 256, นั้น ย่อมถือได้ว่า มีข้อหาว่าจำเลยทำผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 258 ด้วย แม้ ท้ายฟ้องไม่ระบุมาตรา 258 ถ้าทางพิจารณาได้ความจริง ก็ใช้มาตรา 258 ลงแก่จำเลยได้./
วิวาทต่อสู้ทำร้ายร่างกาย ซึ่งกันและกัน โดยจำเลยที่ 1 - 2 สมคบกันใช้เหล็กแหลมแทงทำร้ายจำเลยที่ 3 บาดเจ็บสา หัส จำเลยที่ 3 -4 สมคบกันใช้กำลังชกต่อยทำร้ายจำเลยที่ 1 - 2 ถึงบาดเจ็บทุพพลภาพ" ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.
ลักษณะอาญามาตรา 254, 256, นั้น ย่อมถือได้ว่า มีข้อหาว่าจำเลยทำผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 258 ด้วย แม้ ท้ายฟ้องไม่ระบุมาตรา 258 ถ้าทางพิจารณาได้ความจริง ก็ใช้มาตรา 258 ลงแก่จำเลยได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 729/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานทำร้ายร่างกาย แม้ฟ้องไม่ตรงตามมาตราที่ใช้ลงโทษ
ฟ้องใช้ถ้อยคำว่า 'จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ฝ่ายหนึ่ง กับจำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 4 อีกฝ่ายหนึ่ง ต่างสมัครใจเข้าวิวาทต่อสู้ทำร้ายร่างกาย ซึ่งกันและกันโดยจำเลยที่ 1-2 สมคบกันใช้เหล็กแหลมแทงทำร้ายจำเลยที่ 3 บาดเจ็บสาหัสจำเลยที่ 3-4 สมคบกันใช้กำลังชกต่อยทำร้ายจำเลยที่ 1-2ถึงบาดเจ็บทุพพลภาพ' ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา254,256 นั้น ย่อมถือได้ว่า มีข้อหาว่าจำเลยทำผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 258 ด้วย แม้ท้ายฟ้องไม่ระบุมาตรา 258 ถ้าทางพิจารณาได้ความจริง ก็ใช้มาตรา 258 ลงแก่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 399/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดหลายกระทงในคดีฝิ่น: ต้องพิสูจน์การกระทำต่างกรรมต่างวาระ
การมีฝิ่น มีมูลฝิ่น มีเครื่องประกอบในการสูบฝิ่นและสูบฝิ่นนอกร้านโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นถ้าต่างกรรมต่างวาระกัน อันฟังได้ว่าเป็นความผิดหลายกระทงแล้วพระราชบัญญัติฝิ่นแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2476 มาตรา 9 บัญญัติให้เรียงกระทงลงโทษตามรายตัวผู้กระทำผิด ศาลจะไม่พิพากษาลงโทษเรียงกระทงความผิด ไม่ได้
ฟ้องของโจทก์กล่าวว่า จำเลยสูบฝิ่นนอกร้านนั้น มิได้รับอนุญาตพิเศษและว่าจำเลยมีกล้องสูบฝิ่น มีฝิ่น และมูลฝิ่น มิได้รับอนุญาตและยังกล่าวว่าเจ้าพนักงานจับได้พร้อมด้วยของกลางและเครื่องอุปกรณ์ในการสูบฝิ่นด้วยดังนี้ ข้อเท็จจริงเท่าที่กล่าวในฟ้อง ไม่ปรากฏชัดว่าการกระทำของจำเลยต่างกรรมต่างวาระกันอย่างไรหรือไม่คือยังฟังไม่ได้ว่าการกระทำของจำเลยจะเป็นความผิดหลายกระทง เพราะอาจเป็นผิดหลายบทก็ได้ ฉะนั้นศาลจะพิพากษาลงโทษจำเลยเรียงกระทงความผิด ตามที่โจทก์อ้างในฟ้อง ยังไม่ได้
ฟ้องของโจทก์กล่าวว่า จำเลยสูบฝิ่นนอกร้านนั้น มิได้รับอนุญาตพิเศษและว่าจำเลยมีกล้องสูบฝิ่น มีฝิ่น และมูลฝิ่น มิได้รับอนุญาตและยังกล่าวว่าเจ้าพนักงานจับได้พร้อมด้วยของกลางและเครื่องอุปกรณ์ในการสูบฝิ่นด้วยดังนี้ ข้อเท็จจริงเท่าที่กล่าวในฟ้อง ไม่ปรากฏชัดว่าการกระทำของจำเลยต่างกรรมต่างวาระกันอย่างไรหรือไม่คือยังฟังไม่ได้ว่าการกระทำของจำเลยจะเป็นความผิดหลายกระทง เพราะอาจเป็นผิดหลายบทก็ได้ ฉะนั้นศาลจะพิพากษาลงโทษจำเลยเรียงกระทงความผิด ตามที่โจทก์อ้างในฟ้อง ยังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 395/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การระบุวันเวลาการกระทำผิดและการรับของโจร
ฟ้องบรรยายว่า เมื่อเวลาค่ำคืนระหว่างวันที่ 6-7พฤศจิกายน2494 คนร้ายได้ลักทรัพย์ของผู้เสียหายไปต่อมาวันที่ 7 เดือนเดียวกัน เวลากลางวัน จับของกลางได้ที่ลิ้นชักตู้ของจำเลยทั้งนี้โดยจำเลยเป็นคนร้ายลักทรัพย์นั้นมา หรือมิฉะนั้นจำเลยก็รับเอาทรัพย์ดังกล่าวแล้ว ไว้จากโจรโดยรู้ว่าเป็นของร้ายได้มาจากการกระทำผิดกฎหมายขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 293,294,321คงถือได้ว่า ฟ้องดังกล่าวได้มีวันเดือนปีที่หาว่าจำเลยทำผิดไว้แล้วเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 198/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพนันสลากกินรวบ: ความผิดสำเร็จเมื่อขายสลาก และการเพิ่มโทษผู้กระทำผิดซ้ำ
โจทก์ฟ้องบรรยายว่าจำเลยลักเล่นการพนันสลากกินรวบพนันเอาทรัพย์สินกัน ขอให้ลงโทษดังนี้ ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุมเพราะการเล่นการพนันสลากกินรวบนั้น เป็นการพนันประเภท 1 ที่ได้ระบุไว้ในพ.ร.บ.การพนันแล้ว ส่วนที่ว่าการพนันสลากกินรวบเล่นกันอย่างใดนั้นเป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์จะนำสืบในเวลาพิจารณาได้ ไม่จำต้องบรรยายมาในฟ้อง
ในฟ้องโจทก์บรรยายมาด้วยว่า จำเลยเคยต้องโทษฐานเล่นการพนันมาแล้ว พ้นโทษไปยังไม่เกิน 3 ปีและอ้าง พ.ร.บ.การพนัน(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2485 มาตรา3 ซึ่งเป็นบทเพิ่มโทษมาด้วยแม้จะไม่มีคำขอให้เพิ่มโทษจำเลยก็ถือได้ว่าโจทก์ฟ้องขอให้เพิ่มโทษจำเลยมาด้วยแล้ว ศาลย่อมพิพากษาให้เพิ่มโทษจำเลยตามกฎหมายที่กล่าวได้
โจทก์นำสืบวิธีเล่นได้ว่า จำเลยขายสลากให้แก่ผู้ซื้อโดยถือเอาเลขท้าย 3 ตัวของรางวัลที่ 1 ของสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดที่จะออกต่อไปเป็นหลักแพ้ชนะถ้าเลขสลากที่ผู้ซื้อตรงกับเลขท้าย 3 ตัวที่ออก ผู้ขายก็จะต้องใช้เงินให้ผู้ซื้อดังนี้ ฟังได้ว่า จำเลยเป็นเจ้ามือเล่นการพนันสลากกินรวบแล้วและแม้ว่า จำเลยจะถูกจับเสียก่อนวันที่สลากกินแบ่งในงวดนั้นจะออกก็ดีก็ถือได้ว่าเป็นความผิดสำเร็จแล้ว ตั้งแต่เมื่อจำเลยขายสลากให้แก่ผู้ซื้อไป
ในฟ้องโจทก์บรรยายมาด้วยว่า จำเลยเคยต้องโทษฐานเล่นการพนันมาแล้ว พ้นโทษไปยังไม่เกิน 3 ปีและอ้าง พ.ร.บ.การพนัน(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2485 มาตรา3 ซึ่งเป็นบทเพิ่มโทษมาด้วยแม้จะไม่มีคำขอให้เพิ่มโทษจำเลยก็ถือได้ว่าโจทก์ฟ้องขอให้เพิ่มโทษจำเลยมาด้วยแล้ว ศาลย่อมพิพากษาให้เพิ่มโทษจำเลยตามกฎหมายที่กล่าวได้
โจทก์นำสืบวิธีเล่นได้ว่า จำเลยขายสลากให้แก่ผู้ซื้อโดยถือเอาเลขท้าย 3 ตัวของรางวัลที่ 1 ของสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดที่จะออกต่อไปเป็นหลักแพ้ชนะถ้าเลขสลากที่ผู้ซื้อตรงกับเลขท้าย 3 ตัวที่ออก ผู้ขายก็จะต้องใช้เงินให้ผู้ซื้อดังนี้ ฟังได้ว่า จำเลยเป็นเจ้ามือเล่นการพนันสลากกินรวบแล้วและแม้ว่า จำเลยจะถูกจับเสียก่อนวันที่สลากกินแบ่งในงวดนั้นจะออกก็ดีก็ถือได้ว่าเป็นความผิดสำเร็จแล้ว ตั้งแต่เมื่อจำเลยขายสลากให้แก่ผู้ซื้อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1595/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีฉ้อโกง แม้ขาดรายละเอียดวันเดือนปีที่ทราบถึงความผิด
ในคดีความผิดฐานฉ้อโกงอันเป็นความผิดต่อส่วนตัวนั้น แม้ในฟ้องโจทก์จะมิได้บรรยายว่าได้ทราบว่าจำเลยกระทำผิดวันเดือนปีใด ก็ตาม เมื่อฟ้องข้ออื่นสมบูรณ์แล้วก็หาทำให้ฟ้องโจทก์ถึงกับเคลือบคลุมไม่ เพราะข้อที่โจทก์มิได้บรรยายนั้น เป็นเพียงแต่ข้อนำสืบต่อไปว่าได้ทราบว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อใดเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1595/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องฉ้อโกง: ความสมบูรณ์ของฟ้อง แม้ขาดรายละเอียดวันเวลาที่ทราบการกระทำผิด
ในคดีความผิดฐานฉ้อโกงอันเป็นความผิดต่อส่วนตัวนั้น แม้ในฟ้องโจทก์จะมิได้บรรยายว่าได้ทราบว่าจำเลยกระทำผิด วันเดือนปีใด ก็ตาม เมื่อฟ้องข้ออื่นสมบูรณ์แล้ว ก็หาทำให้ฟ้องโจทก์ถึงกับเคลือบคลุมไม่ เพราะข้อที่โจทก์มิได้บรรยายนั้น เป็นเพียงแต่ข้อนำสืบต่อไปว่า ได้ทราบว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อใดเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1521-1522/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลบังคับของกฎหมายป่าไม้: การประกาศและการคัดลอก
พระราชกฤษฎีกา หรือประกาศรัฐมนตรี ซึ่งกำหนดขึ้นตามบทแห่ง พระราชบัญญัติป่าไม้นั้นต้องคัดสำเนาประกาศไว้ ณที่ว่าการอำเภอและที่ทำการกำนันหรือที่สาธารณสถานในท้องที่ซึ่งเกี่ยวข้องจึงจะมีผลบังคับได้ ถ้ามิได้มีการปฏิบัติตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ดังกล่าวก็ไม่มีผลบังคับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1521-1522/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลบังคับของประกาศหวงห้ามไม้: ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการติดประกาศตามกฎหมาย
พระราชกฤษฎีกา หรือ ประกาศรัฐมนตรี ซึ่งกำหนดขึ้นตามบทแห่ง พ.ร.บ.ป่าไม้นั้นต้องตัดสำเนาประกาศไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอและที่ทำการกำนันหรือที่สาธารณะสถานในท้องที่ซึ่งเกี่ยวข้อง จึงจะมีผลบังคับได้ ถ้ามิได้มีการปฏิบัติตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ดังกล่าวก็ไม่มีผลบังคับ