คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 158

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,873 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 951/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญาฐานลักทรัพย์และการสมคบกันรับของโจร: ฟ้องไม่เคลือบคลุมหากจำเลยเข้าใจข้อกล่าวหา
โจทก์บรรยายฟ้องตอนต้นว่าคนร้ายลักไม้ของเจ้าทรัพย์ไป ต่อมาจับไม้ที่หายบางส่วนได้จากจำเลยที่ 2,3,4 โจทก์กล่าวยืนยันเฉพาะตัวจำเลยที่ 1 ว่าจำเลยที่ 1 ได้สมคบกันจำเลยที่ 2,3,4 ลักไม้หรือสมคบกันรับไม้ของกลางไว้จากคนร้าย ฯลฯ นั้นมีข้อความชัดพอให้จำเลยที่ 1 เข้าใจได้ดีแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 951/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนในการฟ้องคดีอาญา: จำเลยต้องเข้าใจข้อกล่าวหา
โจทก์บรรยายฟ้องตอนต้นว่าคนร้ายลักไม้ของเจ้าทรัพย์ไปต่อมาจับไม้ที่หายบางส่วนได้จากจำเลยที่ 2,3,4 โจทก์กล่าวยืนยันเฉพาะตัวจำเลยที่ 1 ว่า จำเลยที่ 1 ได้สมคบกับจำเลยที่ 2, 3,4 ลักไม้หรือสมคบกันรับไม้ของกลางไว้จากคนร้าย ฯลฯ นั้นมีข้อความชัดพอให้จำเลยที่ 1 เข้าใจได้ดีแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 756/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความไม่สมบูรณ์ของฟ้องอาญาที่ขาดรายละเอียดการกระทำความผิด จำเลยประมาทหรือไม่
ฟ้องบรรยายมีใจความสำคัญเพียงว่าจำเลยเสพสุราเมาขับรถยนต์ชนทับบุตรของโจทก์บาดเจ็บสาหัส ขอให้ลงโทษ ตาม ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา 259 จำเลยเมาเพียงไรหรือจำเลยประมาทปราศจากความระมัดระวังหรือไม่ ไม่ปรากฎในฟ้องดังนี้ ถือว่าเป็นฟ้องที่ยังไม่สมบูรณ์ที่จะเป็นผิดตามมาตรา 259 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 756/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีขับรถโดยประมาทเมาสุรา ต้องระบุรายละเอียดการกระทำผิด
ฟ้องบรรยายมีใจความสำคัญเพียงว่าจำเลยเสพสุราเมาขับรถยนต์ชนทับบุตรของโจทก์บาดเจ็บสาหัส ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 259 จำเลยเมาเพียงไรหรือจำเลยประมาทปราศจากความระมัดระวังหรือไม่ ไม่ปรากฏในฟ้องดังนี้ ถือว่าเป็นฟ้องที่ยังไม่สมบูรณ์ที่จะเป็นผิดตามมาตรา 259 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 729/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความไม่สมบูรณ์ของฟ้องอาญาเนื่องจากขาดรายละเอียดเวลาที่กระทำผิด แม้พิพากษาให้โจทก์ชนะ ก็ต้องปล่อยตัวจำเลย
ฟ้องของโจทก์บอกแต่วันเดือนปีที่จำเลยกระทำผิด ส่วนเวลาบอกแต่เพียง "เวลกลาง" จะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน โจทก์ไม่บอก ดังนี้ ถือว่าเป็นฟ้องไม่สมบูรณ์ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 1598(5)
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยเห็นว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิด และฟ้องของโจทก์ก็ไม่สมบูรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายโจทก์ฎีกาว่าฟ้องของโจทก์สมบูรณ์และว่าจำเลยกระทำผิดดังนี้ แม้ศาลฎีกาจะเห็นว่าฎีกาข้อเท็จจริงต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 219 และฎีกาในข้อฟ้องสมบูรณ์อันเป็นฎีกาข้อกฎหมายนั้น แม้ศาลฎีกาจะพิพากษาให้โจทก์ชนะโดยฟังว่าฟ้องสมบูรณ์ก็ตาม แต่ผลของคำพิพากษาก็ยังคงต้องปล่อยจำเลยอยู่นั่นเอง ดังนี้ ศาลฎีกาก็มีสิทธิรับฎีกาของโจทก์ไว้วินิจฉัยให้ในข้อกฎหมายนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 729/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การระบุเวลาเกิดเหตุ
ฟ้องของโจทก์บอกแต่ วันเดือนปีที่จำเลยกระทำผิด ส่วนเวลาบอกแต่เพียง'เวลากลาง'จะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน โจทก์ไม่บอก ดังนี้ ถือว่าเป็นฟ้องไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยเห็นว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิด และฟ้องของโจทก์ก็ไม่สมบูรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายโจทก์ฎีกาว่าฟ้องของโจทก์สมบูรณ์และว่าจำเลยกระทำผิดดังนี้ แม้ศาลฎีกาจะเห็นว่าฎีกาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 และฎีกาในข้อฟ้องสมบูรณ์อันเป็นฎีกาข้อกฎหมายนั้นแม้ศาลฎีกาจะพิพากษาให้โจทก์ชนะโดยฟังว่าฟ้องสมบูรณ์ก็ตาม แต่ผลของคำพิพากษาก็ยังคงต้องปล่อยจำเลยอยู่นั่นเอง ดังนี้ศาลฎีกาก็มีสิทธิรับฎีกาของโจทก์ไว้วินิจฉัยให้ในข้อกฎหมายนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 631/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความข้อกำหนดในฟ้องและประกาศท้ายฟ้องเพื่อกำหนดความผิดฐานใช้เครื่องมือประมงที่ห้าม
ฟ้องบรรยายว่าจำเลยทำการประมงโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยใช้เครื่องมือที่ห้ามเด็ดขาดตามประกาศท้ายฟ้อง แต่เมื่อปรากฎว่าตามประกาศท้ายฟ้องนั้นมิได้มีกำหนดห้ามเครื่องมือที่อ้างนั้น ว่าเป็นเครื่องมือที่ห้ามเด็ดขาด ดังนี้แม้จำเลยจะรับสารภาพตามฟ้อง ก็จะฟังว่าจำเลยกระทำผิดฐานใช้เครื่องมือที่ห้ามโดยเด็ดขาดไม่ได้ เพราะต้องถือประกาศท้ายฟ้องเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องด้วยจำเลยจึงคงมีความผิดตาม พ.ร.บ.การประมง 2490 มาตรา 18-62 ไม่ใช่ผิดตามมาตรา 32-65 ฉะนั้นการริบเครื่องมือของกลางจึงอยู่ในดุลยพินิจของศาลตามมาตรา 69

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 631/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประมงผิดกฎหมาย: ประกาศท้ายฟ้องเป็นส่วนหนึ่งของฟ้อง การพิพากษาต้องอ้างอิงตามประกาศที่ถูกต้อง
ฟ้องบรรยายว่าจำเลยทำการประมงโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยใช้เครื่องมือที่ห้ามเด็ดขาดตามประกาศท้ายฟ้อง แต่เมื่อปรากฏว่าตามประกาศท้ายฟ้องนั้นมิได้มีกำหนดห้ามเครื่องมือที่อ้างนั้น ว่าเป็นเครื่องมือที่ห้ามเด็ดขาดดังนี้แม้จำเลยจะรับสารภาพตามฟ้อง ก็จะฟังว่าจำเลยกระทำผิดฐานใช้เครื่องมือที่ห้ามโดยเด็ดขาดไม่ได้ เพราะต้องถือประกาศท้ายฟ้องเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องด้วย จำเลยจึงคงมีความผิดตามพระราชบัญญัติการประมง 2490 มาตรา 18,62 ไม่ใช่ผิดตามมาตรา 32,65 ฉะนั้นการริบเครื่องมือของกลางจึงอยู่ในดุลพินิจของศาลตามมาตรา 69

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 623/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีปลอมแปลงเอกสาร ต้องระบุความเสียหายและตัวผู้เสียหาย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปลอมหนังสือ และใช้หนังสือปลอมแต่ในฟ้องมิได้กล่าวว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายและมิได้บรรยายไว้ด้วยว่าเป็นการกระทำที่มีลักษณะที่สามารถอาจเกิดความเสียหายแก่สาธารณะชนหรือแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ย่อมเป็นฟ้องที่ขาดองค์ความผิดฐานปลอมหนังสือ ไม่มีมูลที่ศาลจะรับไว้พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 623/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีปลอมหนังสือต้องระบุความเสียหายต่อผู้เสียหายหรือสาธารณะ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปลอมหนังสือ และใช้หนังสือปลอมแต่ในฟ้องมิได้กล่าวว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายและมิได้บรรยายไว้ด้วยว่าเป็นการกระทำที่มีลักษณะที่สามารถอาจเกิดความเสียหายแก่สาธารณะชนหรือแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ย่อมเป็นฟ้องที่ขาดองค์ความผิดฐานปลอมหนังสือ ไม่มีมูลที่ศาลจะรับไว้พิจารณา
of 188