คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 158

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,873 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 218/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญาที่ขาดรายละเอียดการกระทำความผิด ศาลไม่สามารถลงโทษฐานทำร้ายร่างกายได้
โจทก์บรรยายว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ฝ่ายหนึ่ง กับจำเลยที่ 5 ถึงที่ 10 อีกฝ่ายหนึ่งต่างมีสาตราวุธ วิวาทต่อสู้กันในถนนหลวง และในการวิวาทต่อสู้กันนี้ จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ได้สมคบกันทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 5 ที่ 6 ถึงบาดเจ็บและจำเลยที่ 5 ถึงที่ 10 ได้สมคบกันทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 1 ที่ 2 ถึงบาดเจ็บ ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 254,335(6) ดังนี้ฟ้องในตอนหลังที่กล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายนั้น มิได้บรรยายรายละเอียดว่าคนไหนทำคนไหนให้ชัดแจ้ง ย่อมถือได้เพียงว่าจำเลยวิวาทกันถึงแก่มีบาดเจ็บเท่านั้น ศาลจะลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายตามมาตรา 254 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 196/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องฉ้อโกงและปลอมแปลงเอกสารต้องระบุรายละเอียดการกระทำความผิดชัดเจน
ฟ้องหาว่า จำเลยฉ้อโกงและปลอมหนังสือแต่ตามฟ้องไม่ปรากฏว่าจำเลยเอาข้อความเท็จมาหลอกลวงเมื่อวันเวลาใด เป็นแต่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยใช้อุบายหลอกลวงโดยเอาความเท็จมากล่าว แล้วบรรยายต่อไปว่าจำเลยเขียนเช็คฉบับใดลงวันเดือนปี ให้ผู้มีชื่อ ผู้มีชื่อนำเช็คนั้นมามอบให้โจทก์เมื่อวันใดก็ไม่บอกในฟ้อง และทั้งในฟ้องก็ไม่บรรยายว่าจำเลยทำผิดฐานปลอมหนังสือนั้นทำอย่างไร เป็นแต่โจทก์บอกมาในฟ้องว่า โจทก์นำเช็ค 3 ฉบับไปขอรับเงินที่ธนาคาร ธนาคารว่าเงินไม่พอจ่ายจึงคืนเช็คเพียงเท่านี้เป็นฟ้องที่ยังลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 196/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องฉ้อโกงและปลอมแปลงเอกสารที่ไม่ชัดเจนถึงองค์ประกอบความผิด ทำให้ศาลยกฟ้อง
ฟ้องหาว่า จำเลยฉ้อโกงและปลอมหนังสือ แต่ตามฟ้องไม่ปรากฎว่าจำเลยเอาข้อความเท็จมาหลอกลวงเมื่อวันเวลาใดเป็นแต่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยใช้อุบายหลอกลวงโดยเอาความเท็จมากล่าว แล้วบรรยายต่อไปว่าจำเลยเขียนเช็คฉบับใด ลงวันเดือนปี ให้ผู้มีชื่อ ๆ นำเช็คนั้นมามอบให้โจทก์เมื่อวันใดก็ไม่บอกในฟ้อง และทั้งในฟ้องก็ไม่บรรยายว่าจำเลยทำผิดฐานปลอมหนังสือนั้นทำอย่างไร เป็นแต่โจทก์บอกมาในฟ้องว่า โจทก์นำเช็ค 3 ฉบับไปขอรับเงินที่ธนาคาร ๆ ว่าเงินไม่พอจ่าย จึงคืนเช็คเพียงเท่านี้ เป็นฟ้องที่ยังลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีพนัน: ไม่ต้องบรรยายวิธีเล่นโดยละเอียด
โจทก์ฟ้องบรรยายว่าจำเลยสมคบกันเล่นการพนันสลากกินรวบพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานโดยจำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดให้มีการเล่นขึ้นเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งจำเลยทั้งสองกับพวกที่ยังหลบหนีอยู่เป็นผู้เข้าเล่น ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.การพนันดังนี้ เป็นฟ้องที่ชอบด้วยวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158(5) แล้วไม่จำเป็นจะต้องบรรยายวิธีเล่นโดยละเอียดอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเพียงพอของฟ้องคดีพนัน: ไม่ต้องบรรยายวิธีเล่นละเอียด หากบรรยายการกระทำและสินพนันชัดเจน
โจทก์ฟ้องบรรยายว่าจำเลยสมคบกันเล่นการพนันสลากกินรวม พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน โดยจำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดให้มีการเล่นขึ้นเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งจำเลยทั้งสองกับพวกที่ยังหลบหนีอยู่ เป็นผู้เข้าเล่น ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.กาาพนันดังนี้ เป็นฟ้องที่ชอบด้วยวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5) แล้วไม่จำเป็นจะต้องบรรยายวิธีเล่นโดยละเอียดอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 68/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฐานยักยอกทรัพย์จากการเป็นตัวแทน: การรับเงินค่าขายแทนเจ้าของแล้วเบียดบัง
ฟ้องว่าจำเลยได้รับมอบแหวนเพ็ชรของผู้เสียหายไป 1 วง โดยจำเลยรับว่าจะเอาไปขายให้ ถ้าขายไม่ได้ก็จะเอามาคืนให้ ครั้นแล้วจำเลยได้มีเจตนาทุจริตเบียดบังยักยอกแหวนเพ็ชรหรือเงินค่าแหวนนั้นเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย ดังนี้เป็นฟ้องที่จำเลยสามารถเข้าใจข้อหาได้ดี จำเลยย่อมรู้สึกอยุ่แก่ตนว่า ยักยอกแหวนหรือยักยอกเงินค่าแหวนที่ขายได้ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
รับแหวนของเขาไปเพื่อจะนำไปขายตามคำสั่งขอผู้มอบหมายนั้น ผู้รับมอบมีฐานะเป็นตัวแทน ฉะนั้นเมื่อได้รับเงินค่าขายแหวนไว้ ก็หมายความว่ารับไว้ในฐานเป็นตัวแทนเขาด้วย และมีหน้าที่จะต้องนำส่งเงินนี้แก่ผู้มอบหมาย ถ้ายักยอกเอาเงินนี้ไว้เสียโดยทุจริต ก็เป็นความผิดฐานยักยอกในทางอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 68/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ยักยอกทรัพย์โดยตัวแทน: การเบียดบังเงินค่าขายทรัพย์สินที่รับมอบมา
ฟ้องว่า จำเลยได้รับมอบแหวนเพ็ชรของผู้เสียหายไป 1วง โดยจำเลยรับว่าจะเอาไปขายให้ ถ้าขายไม่ได้ก็จะเอามาคืนให้ครั้นแล้วจำเลยได้มีเจตนาทุจริตเบียดบังยักยอกแหวนเพ็ชรหรือเงินค่าแหวนนั้นเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียดังนี้ เป็นฟ้องที่จำเลยสามารถเข้าใจข้อหาได้ดีจำเลยย่อมรู้สึกอยู่แก่ตนว่า ยักยอกแหวนหรือยักยอกเงินค่าแหวนที่ขายได้จึงไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
รับแหวนของเขาไปเพื่อจะนำไปขายตามคำสั่งของผู้มอบหมายนั้น ผู้รับมอบมีฐานะเป็นตัวแทนฉะนั้นเมื่อได้รับเงินค่าขายแหวนไว้ก็หมายความว่ารับไว้ในฐานเป็นตัวแทนเขาด้วย และมีหน้าที่จะต้องนำส่งเงินนี้แก่ผู้มอบหมายถ้ายักยอกเอาเงินนี้ไว้ เสียโดยทุจริต ก็เป็นความผิดฐานยักยอกในทางอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 63/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กฎหมายใหม่มีผลบังคับใช้กลางคดี ศาลใช้กฎหมายที่เบากว่าลงโทษจำเลย
จำเลยกระทำความผิดในขณะที่ใช้ พระราชบัญญัติภาษีชั้นในจ.ศ.1248
โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พระราชบัญญัติภาษีชั้นในจ.ศ.1248 แต่ในวันที่โจทก์ยื่นฟ้อง ได้มีกฎหมายใหม่คือพระราชบัญญัติสุราพ.ศ.2493 ซึ่งบัญญัติให้ยกเลิก พระราชบัญญัติภาษีชั้นใน จ.ศ.1248เสียและได้ประกาศใช้มา 9 วันแล้วดังนี้ เมื่อปรากฏว่าการกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดตามที่บัญญัติไว้ใน พระราชบัญญัติสุรา 2493 ด้วยและมีโทษเบากว่าที่บัญญัติไว้ใน พระราชบัญญัติภาษีชั้นใน จ.ศ.1248 แล้ว กรณีต้องตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 8 และศาลอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192วรรคสี่ ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติสุรา 2493ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 63/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กฎหมายใหม่ใช้บังคับย้อนหลังได้หรือไม่: เลือกใช้กฎหมายที่มีโทษเบาเมื่อความผิดยังคงอยู่
จำเลยกระทำความผิดในขณะที่ใช้ พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ. 1248 โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ. 1248 แต่ในวันที่โจทก์ยื่นฟ้อง ได้มี ก.ม.ใหม่คือ พ.ร.บ.สุรา พ.ศ.2493 ซึ่งบัญญัติให้ยกเลิก พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ. 1248 เสีย และได้ประกาศใช้มา 9 วันแล้ว ดังนี้ เมื่อปรากฎว่าการกระทำของจำเลย ก็เป็นความผิดตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.สุรา 2493 ด้วยและมีโทษเบากว่า ที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ. 1248 แล้ว กรณีต้องตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 8 และศาลอาศัยอำนาจตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 192 วรรค 4 ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.สุรา 2493 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 62/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทนายยื่นอุทธรณ์แทนจำเลยที่หลบหนี ไม่กระทบความชอบด้วยกฎหมายของอุทธรณ์
ทนายความที่ได้รับมอบอำนาจจากตัวความในคดีอาญาให้ใช้สิทธิอุทธรณ์,ฎีกาได้นั้น ย่อมมีอำนาจลงชื่อในฟ้องอุทธรณ์แทนตัวความได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย จำเลยฟังคำพิพากษาแล้วได้หลบหนีเรือจำไป แล้วทนายจำเลยจึงได้ทำฟ้องอุทธรณ์ลงชื่อทนายในอุทธรณ์ แทนจำเลย นำไปยืนต่อศาลภายในกำหนดอายุความอุทธรณ์ดังนี้ ย่อมถือเป็นอุทธรณ์ที่ชอบด้วยวิธีพิจารณา และเมื่อภายหลังจำเลยได้ถูกจับตัวมาแล้วศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะพิจารณาพิพากษาคดีไปได้
of 188