คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 158

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,873 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1414/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความไม่สมบูรณ์ของฟ้องอาญาคดีลักทรัพย์ เนื่องจากการระบุวันเวลาการกระทำผิดไม่ชัดเจน
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยยักยอกข้าวสารของโจทก์ แต่ในฟ้องระบุแต่เพียงวันที่จำเลยได้รับมอบข้าวไปจากโจทก์ มิได้ระบุวันเวลาที่หาว่า จำเลยยักยอกข้าวไว้เลย และจะตีความว่าโจทก์หาเอาวันที่มอบข้าวเป็นวันกระทำผิด ก็ไม่ได้แล้ว ก็ต้องถือว่าฟ้องของโจทก์ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1395/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตในความผิดฉ้อโกง ไม่จำเป็นต้องระบุในฟ้องโดยตรง หากพฤติการณ์แสดงเจตนาหลอกลวงได้ชัดเจน
ฟ้องความผิดฐานฉ้อโกงนั้นจะต้องปรากฏว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตอันเป็นองค์แห่งความผิดอยู่ด้วย แต่หาจำเป็นถึงกับจะต้องระบุถ้อยคำว่า มีเจตนาทุจริตลงในฟ้องโดยตรงเสมอไปไม่ หากฟ้องกล่าวข้อความซึ่งเมื่อพิเคราะห์ทั้งหมดมีความหมายพอให้เข้าใจได้ว่า จำเลยมีเจตนาทุจริต ก็นับว่าเป็นการเพียงพอแล้ว ซึ่งทั้งนี้จะต้องพิเคราะห์ตามฟ้องเป็นเรื่องๆ ไป
ฟ้องฐานฉ้อโกงที่ไม่มีคำว่าทุจริตในฟ้อง แต่มีความหมายพอให้เข้าใจได้ว่า จำเลยมีเจตนาทุจริต ซึ่งถืว่าเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ฐานฉ้อโกง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1395/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตในความผิดฐานฉ้อโกง ไม่จำเป็นต้องระบุในฟ้องโดยตรง หากพฤติการณ์ตามฟ้องแสดงเจตนาได้ชัดเจน
ฟ้องความผิดฐานฉ้อโกงนั้นจะต้องปรากฎว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตอันเป็นองค์แห่งความผิดอยู่ด้วยแต่หาจำเป็นถึง กับจะต้องระบุถ้อยคำว่า มีเจตนาทุจริตลงในฟ้องโดยตรงเสมอไปไม่ หากฟ้องกล่าวข้อความซึ่งเมื่อพิเคราะห์ทั้งหมดมีความหมายพอให้เข้าใจได้ว่า จำเลยมีเจตนาทุจริต ก็นับว่าเป็นการเพียงพอแล้ว ซึ่งทั้งนี้จะต้องพิเคราะห์ตามฟ้องเป็นเรื่อง ๆ ไป
ฟ้องฐานฉ้อโกงที่ไม่มีคำว่าทุจริตในฟ้อง แต่มีความหมายพอให้เข้าใจได้ว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตซึ่งถือว่าเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ฐานฉ้อโกง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1392/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องตัดไม้หวงห้าม: การบรรยายพระราชกฤษฎีกาและประกาศในคำฟ้องถือว่าสมบูรณ์แล้ว
การฟ้องหาว่าตัดไม้ประเภทหวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นเมื่อโจทก์บรรยายว่าพระราชกฤษฎีกาและประกาศรัฐมนตรี ได้คัดสำเนาไว้แล้วดังปรากฏตามสำเนาท้ายฟ้อง ซึ่งมีหมายเหตุว่ารายการอันเป็นส่วนหนึ่งแห่งฟ้องระบุว่าได้ประกาศไว้ ณที่นั้นๆ แล้ว ดังนี้ถือว่าฟ้องโจทก์ในข้อนี้สมบูรณ์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1392/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องคดีตัดไม้หวงห้าม: การระบุประกาศกฎหมายในเอกสารท้ายฟ้องถือว่าสมบูรณ์
การฟ้องหาว่าตัดไม้ประเภทหวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น เมื่อโจทก์บรรยายว่าพระราชกฤษฎีกาและประกาศรัฐมนตรีได้คัดสำเนาไว้แล้วดังปรากฎตามสำเนาท้ายฟ้อง ซึ่งมีหมายเหตุว่ารายการอันเป็นส่วนหนึ่งแห่งฟ้องระบุว่าได้ประกาศไว้ ณ ที่นั้น ๆ แล้ว ดังนี้ถือว่าฟ้องโจทก์ในข้อนี้สมบูรณ์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1329/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องคดีลักทรัพย์: การบรรยายฟ้องที่ทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้
ฟ้องว่าจำเลยบังอาจลักไม้สักที่เจ้าพนักงานป่าไม้อำเภอเมืองยึดไว้เป็นของกลางในคดีอาญา ซึ่งบุคคลอื่นต้องหาว่าตัดฟันไม้สักรายนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานไป ขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์ แม้จะไม่ได้บรรยายว่า จำเลยลักไม้นั้นไปจากใคร ผู้ใดเป็นผู้ควบคุมรักษา และไม่ปรากฏว่าไม้นั้นยึดจากใคร ก็ถือได้ว่าเป็นฟ้องที่มีข้อความบรรยายมาพอสมควรที่จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1329/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องคดีลักทรัพย์ของกลาง การบรรยายฟ้องที่ทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้
ฟ้องว่าจำเลยบังอาจลักไม้สักที่เจ้าพนักงานป่าไม้อำเภอเมืองยึดไว้เป็นของกลางในคดีอาญา ซึ่งบุคคลอื่นต้องหาว่าตัดฟันไม้สักรายนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานไป ขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์ แม้จะไม่ได้บรรยายว่า จำเลยลักไม้นั้นไปจากใคร ผู้ใดเป็นผู้ควบคุมรักษา และไม่ปรากฎว่าไม้นั้นยึดจากใคร ก็ถือได้ว่าเป็นฟ้องที่มีข้อความบรรยายมาพอสมควรที่จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1321/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความเจตนาในการฆ่าจากคำฟ้องและข้อเท็จจริง ศาลฎีกาชี้ขาดให้ลงโทษตามเจตนาที่โจทก์ฟ้อง
โจทก์ฟ้องกล่าวว่าจำเลยบังอาจสมคบกับพวกใช้ไม้ด้ามเสียม เป็นสาตราวุธตีทำร้ายร่างกายผู้เสียหายตายโดยเจตนาอ้างบท ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249 มาเป็นบทขอให้ลงโทษ ดังนี้ย่อมถือได้ว่า ฟ้องโจทก์มีความหมายเพียงพอให้เข้าใจได้ว่า โจทก์หาว่าจำเลยฆ่าผู้เสียหายตายโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1321/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความหมายของฟ้องฆ่าคนตายโดยเจตนา: การตีความคำว่า 'เจตนา' ในฟ้องอาญา
โจทก์ฟ้องกล่าวว่าจำเลยบังอาจสมคบกับพวกใช้ไม้ด้ามเสียมเป็นศาตราวุธตีทำร้ายร่างกายผู้เสียหายตายโดยเจตนาอ้างบทกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 มาเป็นบทขอให้ลงโทษ ดังนี้ ย่อมถือได้ว่า ฟ้องโจทก์มีความหมายเพียงพอให้เข้าใจได้ว่า โจทก์หาว่าจำเลยฆ่าผู้เสียหายตายโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1320/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉ้อโกงโดยอ้างเจ้าพนักงาน - ผู้ใหญ่บ้านเรียกเงินโดยไม่มีอำนาจ
ฟ้องฐานฉ้อโกงที่ถือว่าชอบด้วยกฎหมาย
ผู้ใหญ่บ้านเรียกร้องเอาเงินจากลูกบ้าน 80 บาท โดยอ้างว่าเสมียนอำเภอใช้ให้ตนมาเอา เรื่องที่ลูกบ้านขอจับจองที่ดินและจับจองทับทางเดิน ถ้าไม่ให้เงินการจับจองจะไม่สำเร็จ ลูกบ้านหลงเชื่อว่าเสมียนอำเภอใช้ผู้ใหญ่บ้านมาเอาเงินจริง จึงมอบเงิน 80 บาทแก่ผู้ใหญ่บ้านไปซึ่งความจริงเสมียนอำเภอไม่ได้ใช้ผู้ใหญ่บ้านมาเรียกเอาเงินจากลูกบ้านเลย ดังนี้ ผู้ใหญ่บ้านต้องมีความผิดฐานฉ้อโกง
of 188