คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 158

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,873 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1443/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงผลสลากกินแบ่งและการมอบหมายดูแลรักษาทรัพย์สิน การฟ้องยักยอกทรัพย์สินไม่มีมูล
ฟ้องของโจทก์กล่าวว่า โจทก์กับนางสาวขาวตกลงกันว่า ถ้าเลขท้าย 3 ตัวของกลางรางวัลที่ 1สลากกินแบ่งงวดสุดท้ายประจำเดือนมกราคม 2492 ตรงกับเลข 094ให้โจทก์ได้รับสายสร้อยทองคำ 1 เส้น ราคา 720 บาท ซึ่งมอบหมายให้จำเลยเป็นผู้ดูแลรักษา ต่อมาสลากดังกล่าวออกตรงเลข 094 โจทก์ไปขอรับสายสร้อยจากจำเลย จำเลยไม่ให้ ได้ยักยอกเอาสายสร้อยนั้นไว้เสีย ดังนี้ การกระทำของจำเลยดังกล่าวในฟ้อง จำเลยไม่ได้รับมอบหมายสายสร้อยของโจทก์ไว้จากโจทก์ จำเลยจึงยังไม่มีผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1442/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาคดีลักทรัพย์: ความสอดคล้องของวันเวลาเกิดเหตุตามคำฟ้องและพยานหลักฐาน
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยทำผิดคืนวันที่ 3 เมษายน 2491เวลากลางคืน พยานโจทก์ว่าเกิดเหตุคืนวันแรม 9 ค่ำ เดือน4 เวลาประมาณ 5 นาฬิกา รุ่งขึ้นเป็นวันแรม 10 ค่ำซึ่งตรงกับวันที่ 3 เมษายน ดังนี้ ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณา หาต่างกับฟ้องไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1442/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์เวลาเกิดเหตุในคดีลักทรัพย์: การพิจารณาคำเบิกความพยานประกอบวันเวลาตามจันทรคติและสุริยคติ
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยผิดคืนวันที่ 3 เมษายน 2491 เวลากลางคืน พะยานโจทก์ว่าเกิดเหตุคืนวันแรม 9 ค่ำ เดือน 4 เวลาประมาณ 5 นาฬิกา รุ่งขึ้นเป็นวันแรม 10 ค่ำ ซึ่งตรงกับวันที่ 3 เมษายน ดังนี้ ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณา หาต่างกับฟ้องไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย แม้ข้อเท็จจริงในการพิจารณาคดีแตกต่างจากที่ฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า จ. กับพวกฝ่ายหนึ่ง ย.กับพวกอีกฝ่ายหนึ่งต่างใช้ มีด ไม้ ครกแตก และกำลังกายวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน ย. ถึงแก่ความตายโดย จ.ใช้มีดซุยแทงย. แม้ทางพิจารณาจะไม่ได้ความว่า จ.ได้เข้าวิวาทต่อสู้กับจำเลยอื่นดังที่โจทก์กล่าวในฟ้อง แต่ฟ้องโจทก์กล่าวชัดแล้วว่า จ. ใช้มีดซุยแทงย.โดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย ยังได้อ้าง กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249มาเป็นบทลงโทษด้วย ดังนี้ จะว่าทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องไม่ได้ จึงลงโทษจ. ตามมาตรา 249 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าแม้ไม่มีวิวาทร่วม: ศาลลงโทษฐานฆ่าตามฟ้องได้
โจทก์ฟ้องว่า จ. กับพวกฝ่าย หนึ่ง ย.กับพวกอีกฝ่ายหนึ่งต่าง ใช้ มีด ไม้ ครกแตก และกำลังกายทำร้ายร่างกายซึ่งกัน ย.ถึงแก่ความตายโดย จ. ใช้มีดซุยแทง ย. แม้ทางพิจารณาจะไม่ได้ความว่า จ.ได้เข้าวิวาทต่อสู้กับจำเลยอื่นดังที่กล่าวในฟ้อง แต่ฟ้องโจทก์กล่าวชัดแล้วว่า จ.ใช้มีดซุยแทง ย. โดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย ยังได้อ้าง ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา 249 เป็นบทลงโทษด้วย ดังนี้ จะว่าทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องไม่ได้ จึงลงโทษตามมาตรา 249 ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1430/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องละเมิดจากการแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จ: ศาลพิจารณาข้อเท็จจริงจากคดีก่อน และความน่าเชื่อถือของเหตุผลในการเบิกความ
โจทก์ฟ้อง ฉ.จำเลยฐานแจ้งความเท็จว่าโจทก์ยักยอกทรัพย์ของฉ. ศาลตัดสินยกฟ้องโจทก์ว่า โจทก์ฟ้องแก้เกี้ยวข้อหาของโจทก์ฟังไม่ได้ คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้หาว่า ฉ. จำเลยจงใจแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จ ดังนี้ เมื่อศาลได้ชี้ขาดในคดีก่อนแล้วว่า ฉ. ไม่ได้แจ้งความเท็จในคดีนี้ ก็ต้องฟังว่า ฉ. ไม่ได้แจ้งความเท็จ
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดในการที่จำเลยเบิกความ แต่ตามฟ้องไม่อาจทราบได้ว่าที่จำเลยเบิกความไปนั้นเป็นการเบิกความเท็จ หรือการเบิกความเช่นนั้นเป็นไปโดยเลินเล่อ เพราะถึงแม้จำเลยจะเบิกความไม่ถูกต้องกับความจริง ก็มีเหตุอันสมควรให้จำเลยเข้าใจผิดเช่นนั้นก็ได้ ซึ่งไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ ฉะนั้นฟ้องโจทก์จึงยังไม่เป็นฟ้องที่จะให้จำเลยต้องรับผิดฐานละเมิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1398/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องร้องความผิดฐานขนย้ายข้าวสารโดยไม่ได้รับอนุญาต และการมีอยู่ของประกาศคณะกรรมการจังหวัด
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยขนย้ายข้าวสารโดยมิได้รับอนุญาต ฟ้องโจทก์ได้มีประกาศของคณะกรรมการจังหวัดสงขลาติดมากับฟ้อง ประกาศฉบับนี้อ้างประกาศคณะกรรมการควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค(ฉบับที่ 6) เรื่องควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคบางอย่าง และตั้งคณะกรรมการจังหวัดทุกจังหวัดเว้นจังหวัดพระนครและธนบุรีเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ ดังนี้ ฟ้องโจทก์ย่อมมีสาระสำคัญครบถ้วนแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1360/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทเรื่องวันเวลาทำผิดในคดีอาญา หากข้อเท็จจริงที่ได้จากการพิจารณาไม่ตรงกับที่ระบุในฟ้อง ถือเป็นเหตุให้ต้องยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำผิดวันที่ 12 พฤษภาคม 2491 เวลากลางคืน ตรงกับวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 6 พะยานโจทก์เบิกความว่าจำเลยทำผิดเมื่อวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 6 เวลากลางคืนตรงกับวันที่ 13 พฤษภาคม 2491 เวลากลางคืน ดังนี้ ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับฟ้อง จึงต้องยกฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1360/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อเท็จจริงต่างกับฟ้องเป็นเหตุให้ยกฟ้องคดีอาญา
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำผิดวันที่ 12 พฤษภาคม 2491 เวลากลางคืน ตรงกับวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 6 พยานโจทก์เบิกความว่าจำเลยทำผิดเมื่อวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 6 เวลากลางคืนตรงกับวันที่ 13 พฤษภาคม 2491 เวลากลางคืนดังนี้ ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับฟ้องจึงต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1276/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มเติมคำฟ้องที่ขาดรายละเอียดสถานที่เกิดเหตุ หากจำเลยไม่หลงข้อต่อสู้ ศาลอนุญาตได้
ฟ้องของโจทก์ไม่ได้ระบุสถานที่เกิดเหตุ โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องในวันเดียวกับที่จำเลยยื่นคำให้การยังไม่ทันลงมือสืบพยาน โดยกล่าวว่าโจทก์พิมพ์ฟ้องขาดตกบกพร่องไปเพราะความหลงลืม ดังนี้ ไม่มีเหตุจะว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้ในคดีเรื่องสถานที่เกิดเหตุแต่ประการใด โจทก์ย่อมขอเพิ่มเติมฟ้องได้(ประชุมใหญ่ ครั้งที่20/2492)
of 188