พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,873 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 887/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตฟ้องจำกัด ศาลลงโทษจำเลยเฉพาะส่วนที่ฟ้องชัดเจน
ฟ้องโจทก์ข้อ 1 ว่า จำเลยสมคบกันมีธนบัตรปลอมไว้เพื่อจำหน่าย 40 ฉะบับราคา 400 บาท และได้จำหน่ายธนบัตรจำนวนนั้นให้แก่นายดีไปทั้งหมด ข้อ 2 กล่าวว่าเจ้าพนักงานจับจำเลยได้และได้ธนบัตรของกลาง 35 ฉะบับเท่าที่ค้นได้ และเหลือจำหน่ายในหีบในห้องนอนของจำเลย ขอให้ลงโทษจำเลย ดังนี้ คำบรรยายฟ้องในข้อ 1 ไม่กินถึงธนบัตรของกลาง 35 ฉะบับในข้อ 2 และเมื่อโจทก์ไม่ได้บรรยายถึงองค์ความผิดประกอบประการใดในฟ้องข้อ 2 จึงลงโทษจำเลยสำหรับความผิดเกี่ยวกับธนบัตรของกลาง 35 ฉะบับนี้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 887/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายธนบัตรปลอม: ฟ้องไม่ชัดเจน ขอบเขตฟ้องไม่ครอบคลุมของกลาง ศาลไม่สามารถลงโทษได้
ฟ้องโจทก์ข้อ 1 ว่า จำเลยสมคบกันมีธนบัตรปลอมไว้เพื่อจำหน่าย 40 ฉบับราคา 400 บาท และได้จำหน่ายธนบัตรจำนวนนั้นให้แก่นายดีไปทั้งหมด ข้อ 2 กล่าวว่าเจ้าพนักงานจับจำเลยได้และได้ธนบัตรของกลาง 35ฉบับเท่าที่ค้นได้ และเหลือจำหน่ายในหีบในห้องนอนของจำเลย ขอให้ลงโทษจำเลย ดังนี้คำบรรยายฟ้องในข้อ 1 ไม่กินถึงธนบัตรของกลาง 35 ฉบับในข้อ 2 และเมื่อโจทก์ไม่ได้บรรยายถึงองค์ความผิดประกอบประการใดในฟ้องข้อ 2 จึงลงโทษจำเลยสำหรับความผิดเกี่ยวกับธนบัตรของกลาง 35ฉบับนี้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 881/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายบุหรี่เกินราคาที่กำหนด ก่อให้เกิดฐานะ 'ผู้ทำการจำหน่ายยาสูบ' ตาม พ.ร.บ.ยาสูบ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้รับมอบหมายบุหรี่ตราฆ้อง ซึ่งผลิตจากโรงงานยาสูบกรมสรรพสามิตจากผู้อื่นให้ไปจำหน่ายแทน จำเลยได้จำหน่ายให้แก่ผู้ซื้อไปราคาสูงกว่าราคาที่อธิบดีกรมสรรพสามิตกำหนดไว้ ดังนี้ ย่อมพอให้ถือได้แล้วว่า จำเลยเป็น 'ผู้ทำการจำหน่ายยาสูบ' ตามความในมาตรา 19 พระราชบัญญัติยาสูบ 2486 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 881/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายบุหรี่เกินราคาที่กำหนด: การตีความ 'ผู้ทำการจำหน่ายยาสูบ' ตาม พ.ร.บ.ยาสูบ 2486
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้รับมอบหมายบุหรี่ตราฆ้อง ซึ่งผลิตจากโรงงานยาสูบกรมสรรพสามิตต์ จากผู้อื่นให้ไปจำหน่ายแทน จำเลยได้จำหน่ายให้แก่ผู้ซื้อไปราคาสูงกว่าราคาที่อธิบดีกรมสรรพสามิตต์กำหนดไว้ ดังนี้ย่อมพอให้ถือได้แล้วว่า จำเลยเป็น "ผู้ทำการจำหน่ายยาสูบ" ตามความในมาตรา 19 พ.ร.บ.ยาสูบ 2486 แล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 871/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
องค์ความผิดการค้ากำไรเกินควร: ความจำเป็นในการระบุเจตนาทราบประกาศ
โจทก์ฟ้องว่า
คณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควรประจำจังหวัดนครพนมอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 แห่ง พระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร 2490 ได้ประกาศระบุให้น้ำมันก๊าดเป็นสิ่งของต้องห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควร โดยได้กำหนดราคาสูงสุดไว้แล้วตามสำเนาประกาศท้ายฟ้อง จำเลยบังอาจค้ากำไรเกินควรโดยขายน้ำมันก๊าดให้นายทองไป 1 ลิตรราคา 2 บาท เกินราคาสูงสุดที่กำหนดไว้ 50 สตางค์ ดังนี้ ตามข้อความในฟ้อง พอเข้าใจได้แล้วว่า โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยบังอาจกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนประกาศ แม้โจทก์จะมิได้ระบุในฟ้องว่าจำเลยได้ทราบประกาศนั้นแล้วฟ้องของโจทก์ก็สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158 แล้ว
คณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควรประจำจังหวัดนครพนมอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 แห่ง พระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร 2490 ได้ประกาศระบุให้น้ำมันก๊าดเป็นสิ่งของต้องห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควร โดยได้กำหนดราคาสูงสุดไว้แล้วตามสำเนาประกาศท้ายฟ้อง จำเลยบังอาจค้ากำไรเกินควรโดยขายน้ำมันก๊าดให้นายทองไป 1 ลิตรราคา 2 บาท เกินราคาสูงสุดที่กำหนดไว้ 50 สตางค์ ดังนี้ ตามข้อความในฟ้อง พอเข้าใจได้แล้วว่า โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยบังอาจกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนประกาศ แม้โจทก์จะมิได้ระบุในฟ้องว่าจำเลยได้ทราบประกาศนั้นแล้วฟ้องของโจทก์ก็สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 871/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีค้ากำไรเกินควร การทราบประกาศเป็นองค์ประกอบที่ต้องพิสูจน์ในชั้นพิจารณา
โจทก์ฟ้องว่า คณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควรประจำจังหวัดนครพนม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร 2490 ได้ประกาศระบุให้น้ำมันก๊าสเป็นสิ่งของต้องห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควร โดยได้กำหนดราคาสูงสุดไว้แล้วตามสำเนาประกาศท้ายฟ้อง จำเลยบังอาจค้ากำไรเกินควรโดยขายน้ำมันก๊าสให้นายทองไป 1 ลิตร ราคา 2 บาท เกินราคาสูงสุดที่กำหนดไว้ 50 สตางค์ ดังนี้ตามข้อความในฟ้อง พอเข้าใจได้แล้วว่า โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยบังอาจกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนประกาศ แม้โจทก์จะมิได้ระบุในฟ้องว่าจำเลยได้ทราบประกาศนั้นแล้ว ฟ้องของโจทก์ก็สมบูรณ์ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 แล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 868/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับของผู้ต้องหาที่บันทึกโดยไม่ใช่พนักงานสอบสวน ไม่ผูกมัดในชั้นศาล และการขนย้ายข้าวภายในจังหวัดเดียวกัน
คำรับของผู้ต้องหาต่อนายสิบและพลตำรวจที่บันทึกขึ้นไว้ หาผูกมัดผู้นั้นในชั้นศาลไม่ เพราะตำรวจผู้บันทึกไม่ใช่พนักงานสอบสวน
ฟ้องหาว่า จำเลยเจตนาขนย้ายข้าวภายในเขตต์จังหวัดเดียวกัน แต่เป็นการขนย้ายทางทะเล ดังนี้ ย่อมไม่เป็นผิดตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 มาตรา 10,13 เพราะมิได้เป็นการขนย้ายออกนอกเขตต์ที่กำหนดไว้.
(อ้างฎีกาที่ 637/2492)
ฟ้องหาว่า จำเลยเจตนาขนย้ายข้าวภายในเขตต์จังหวัดเดียวกัน แต่เป็นการขนย้ายทางทะเล ดังนี้ ย่อมไม่เป็นผิดตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 มาตรา 10,13 เพราะมิได้เป็นการขนย้ายออกนอกเขตต์ที่กำหนดไว้.
(อ้างฎีกาที่ 637/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 868/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับของผู้ต้องหาต่อตำรวจไม่ผูกมัดในชั้นศาล และการขนย้ายข้าวภายในจังหวัดไม่ผิดตาม พ.ร.บ.สำรวจข้าว
คำรับของผู้ต้องหาต่อนายสิบและพลตำรวจที่บันทึกขึ้นไว้หาผูกมัดผู้นั้นในชั้นศาลไม่ เพราะตำรวจผู้บันทึกไม่ใช่พนักงานสอบสวน
ฟ้องหาว่า จำเลยเจตนาขนย้ายข้าวภายในเขตจังหวัดเดียวกันแต่เป็นการขนย้ายทางทะเล ดังนี้ ย่อมไม่เป็นผิดตามพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 มาตรา 10,13 เพราะมิได้เป็นการขนย้ายออกนอกเขตที่กำหนดไว้
(อ้างฎีกาที่ 637/2492)
ฟ้องหาว่า จำเลยเจตนาขนย้ายข้าวภายในเขตจังหวัดเดียวกันแต่เป็นการขนย้ายทางทะเล ดังนี้ ย่อมไม่เป็นผิดตามพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 มาตรา 10,13 เพราะมิได้เป็นการขนย้ายออกนอกเขตที่กำหนดไว้
(อ้างฎีกาที่ 637/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 863/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมหนังสือ ผู้ถูกหลอกลวงเป็นผู้เสียหายได้ แม้ไม่ใช่เจ้าของลายมือชื่อ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจลงลายมือชื่อนางพัน ปลอมลงในหนังสือสัญญาขายข้าวเปลือกให้แก่นายเชย โดยอ้างว่าข้าวนั้นเป็นของจำเลยและนางพันเป็นเจ้าของอยู่ด้วยกัน จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่นายเชย โดยได้จ่ายเงินไปตามสัญญา แต่ไม่ได้ข้าว ขอให้ลงโทษฐานปลอมหนังสือดังนี้ ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ แม้โจทก์จะมิได้กล่าวถึงนางพันว่าเป็นผู้เสียหายด้วย แต่โจทก์กล่าวว่าเกิดความเสียหายแก่นายเชยเพราะนายเชยจ่ายเงินไปตามสัญญาแต่ไม่ได้ข้าว และนายเชยเป็นผู้ได้รับความเสียหายจากหนังสือปลอมฉบับนี้ นายเชยจึงเป็นผู้เสียหาย
ความผิดฐานปลอมหนังสือ แม้หนังสือนั้นจะเป็นการปลอมลายมือชื่อบุคคลอื่น หรือปลอมชื่อบุคคลไม่มีตัวตนก็ดี ก็นับว่าเป็นความผิด
ความผิดฐานปลอมหนังสือ แม้หนังสือนั้นจะเป็นการปลอมลายมือชื่อบุคคลอื่น หรือปลอมชื่อบุคคลไม่มีตัวตนก็ดี ก็นับว่าเป็นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 862/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจหน้าที่จำกัดและการพิสูจน์ความเสียหายในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่และรายงานเท็จ
จำเลยเป็นเลขานุการกรมเชื้อเพลิง มีหน้าที่แต่ทำหนังสือราชการ ไม่มีอำนาจและหน้าที่ในการสอบสวนสืบสวนความผิดเรื่องผู้ร้ายลักหรือยักยอกทรัพย์ของกรมเชื้อเพลิง หน้าที่พิเศษที่จำเลยได้รับแต่งตั้งขึ้นเป็นกรรมการสอบสวนหรือสืบสวนเรื่องผู้ร้ายลักหรือยักยอกแผ่นเหล็กของกรมเชื้อเพลิงนั้น จำเลยได้รับแต่งตั้งภายหลังเวลาที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยได้เรียกหรือรับสินบนจาก ส.และง. ซึ่งรับซื้อแผ่นเหล็กของกรมเชื้อเพลิงจึงถือไม่ได้ว่าขณะจำเลยกระทำการตามฟ้องจำเลยมีอำนาจหน้าที่ดังฟ้อง
ความผิดฐานรายงานเท็จ เมื่อไม่ปรากฏว่า การที่จำเลยรายงานเท็จดังฟ้องได้เกิดความเสียหาย หรืออาจจะเสียหายแก่กรมเชื้อเพลิงได้อย่างไร ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
ความผิดฐานรายงานเท็จ เมื่อไม่ปรากฏว่า การที่จำเลยรายงานเท็จดังฟ้องได้เกิดความเสียหาย หรืออาจจะเสียหายแก่กรมเชื้อเพลิงได้อย่างไร ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้