พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,873 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1295/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศ: การคุ้มครองงานต่างประเทศต้องแสดงหลักฐานการได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายของประเทศนั้น
คดีความผิดเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศซึ่งโจทก์บรรยายฟ้องว่าบริษัท ท. เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายของเมืองฮ่องกงซึ่งเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษเป็นผู้สร้างสรรค์และเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในภาพยนตร์ตามฟ้อง ซึ่งได้นำภาพยนตร์ดังกล่าวออกโฆษณาเผยแพร่ครั้งแรกในเมืองฮ่องกง แต่โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าภาพยนตร์ดังกล่าวเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามกฎหมายของเมืองฮ่องกงมาด้วย ฟ้องโจทก์จึงขาดข้อความสำคัญที่จะแสดงให้เห็นว่าภาพยนตร์ตามฟ้องมีสิทธิ์ที่จะได้รับความคุ้มครองตาม มาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติ ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่จำเป็นสำหรับการฟ้องคดีอาญา ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1291/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องคดีลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศ: การตีความคำว่า 'ประเทศ' เทียบเท่า 'กฎหมาย'
โจทก์มิได้บรรยายฟ้องโดยใช้ข้อความตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 ว่า กฎหมายของประเทศนั้นได้ให้ความคุ้มครองเช่นเดียวกันแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของภาคีอื่น ๆ แห่งอนุสัญญาดังกล่าว แต่ใช้คำว่า "ประเทศ"แทนคำว่า "กฎหมาย" ก็พอที่จะแปลความได้ว่ารวมถึงกฎหมายของประเทศนั้นด้วย อันหมายถึงประเทศนั้นได้ให้ความคุ้มครองแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของประเทศภาคีอื่นแห่งอนุสัญญาและของประเทศไทยซึ่งเป็นภาคีอยู่ด้วย ฟ้องของโจทก์จึงมีสาระสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าแถบบันทึกภาพตามฟ้องเข้าหลักเกณฑ์ที่อาจได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 42 และเป็นฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1291/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคุ้มครองลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศ: การบรรยายฟ้องตามมาตรา 42 พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ โดยใช้คำว่า 'ประเทศ' แทน 'กฎหมาย' ยังถือว่าชอบด้วยกฎหมาย
แม้โจทก์จะมิได้บรรยายฟ้องโดยใช้ข้อความตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 42 แห่ง พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 ว่า "...และกฎหมายของประเทศนั้นได้ให้ความคุ้มครองเช่นเดียวกันแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของภาคีอื่น ๆ แห่งอนุสัญญาดังกล่าว ..." แต่ใช้คำว่า "ประเทศ"แทนคำว่า "กฎหมาย" ก็พอที่จะแปลความหมายตามฟ้องของโจทก์ได้ว่ารวมถึงกฎหมายของประเทศนั้นด้วย มิใช่กรณีที่โจทก์ไม่ได้กล่าวในฟ้องเสียเลยว่า กฎหมายของประเทศนั้นได้ให้ความคุ้มครองแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของภาคีอื่น ๆ ฟ้องของโจทก์จึงมีสาระสำคัญที่แสดงให้เห็นว่างานตามฟ้องเข้าหลักเกณฑ์ที่อาจได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 42 ดังกล่าว และเป็นฟ้องที่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158 แล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1291/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคุ้มครองลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศ: การบรรยายฟ้องตามมาตรา 42 พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ และการตีความคำว่า 'ประเทศ' แทน 'กฎหมาย'
แม้โจทก์จะมิได้บรรยายฟ้องโดยใช้ข้อความตามที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 42 แห่ง พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 ว่า "...และกฎหมายของประเทศนั้นได้ให้ความคุ้มครองเช่นเดียวกันแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ ของภาคีอื่น ๆ แห่งอนุสัญญาดังกล่าว..." แต่ใช้คำว่า "ประเทศ" แทนคำว่า "กฎหมาย" ก็พอที่จะแปลความหมายตามฟ้องของโจทก์ ได้ว่ารวมถึงกฎหมายของประเทศนั้นด้วย มิใช่กรณีที่โจทก์ไม่ได้ กล่าวในฟ้องเสียเลยว่ากฎหมายของประเทศนั้นได้ให้ความคุ้มครอง แก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของภาคีอื่น ๆ ฟ้องของโจทก์จึงมีสาระสำคัญ ที่แสดงให้เห็นว่างานตามฟ้องเข้าหลักเกณฑ์ที่อาจได้รับความคุ้มครอง ตามมาตรา 42 ดังกล่าว และเป็นฟ้องที่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158 แล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1035/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องอาญา: รายละเอียดการกระทำความผิดไม่จำเป็นต้องระบุในคำฟ้อง เพียงแต่ต้องให้จำเลยเข้าใจข้อหา
คำฟ้องโจทก์ที่บรรยายว่า จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันใช้กำลังประทุษร้าย โดยจับแขนผู้เสียหายไว้ ทำให้ผู้เสียหายอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ แล้วจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายเป็นการบรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยที่ 2 ได้กระทำผิดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยที่ 2เข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ส่วนข้อที่ว่าจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันใช้กำลังประทุษร้ายโดยจำเลยคนใดเป็นผู้จับแขนข้างใด จำเลยร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายอย่างไร จำเลยคนใดทำหน้าที่อะไรนั้นเป็นเพียงรายละเอียดที่โจทก์นำสืบได้ในชั้นพิจารณาไม่จำเป็นต้องบรรยายมาในคำฟ้อง เป็นคำฟ้องที่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1035/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องอาญา: รายละเอียดการกระทำความผิดไม่จำเป็นต้องระบุในคำฟ้อง หากโจทก์บรรยายการกระทำความผิดให้จำเลยเข้าใจได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้กำลังประทุษร้ายโดย จับแขนผู้เสียหายไว้ทำให้ผู้เสียหายอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้แล้วจำเลยทั้งสองร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย เป็นคำฟ้อง ที่บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยที่ 2 ได้กระทำผิด พอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยที่ 2 เข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ส่วนที่ จำเลยทั้งสองร่วมกันประทุษร้ายโดยจำเลยคนใดเป็นผู้จับแขนข้างใดจำเลยร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายอย่างไร จำเลยคนใดทำหน้าที่อะไรนั้น เป็นเพียงรายละเอียดที่นำสืบได้ในชั้นพิจารณา ไม่จำเป็นต้องบรรยายมาในคำฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 627/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความถูกต้องของฟ้องอาญาตามมาตรา 158: การระบุความผิดฐานลักทรัพย์และการรับของโจร
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 โจทก์จะต้องบรรยายฟ้องถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดจากการกระทำนั้น ๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ซึ่งในคดีนี้ฟ้องของโจทก์ที่บรรยายไว้ได้กล่าวอ้างถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกระทำผิด ตามที่บัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 ซึ่งการกระทำทุกอย่างหรืออย่างใดอย่างหนึ่งย่อมเป็นความผิดตามที่กฎหมายบัญญัติไว้เมื่อโจทก์นำสืบได้ข้อเท็จจริงชัดเจนหรือพฤติการณ์แห่งคดีฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทุกอย่าง การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดตามกฎหมายดังกล่าวแล้ว ฟ้องของโจทก์จึงถูกต้องครบถ้วนแล้ว หาได้เคลือบคลุมดังจำเลยกล่าวอ้างไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 627/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชอบด้วยกฎหมายของฟ้องอาญา มาตรา 357: การระบุการกระทำความผิดหลายรูปแบบ
โจทก์กล่าวในฟ้องว่าจำเลยช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่ายช่วยพาเอาไป รับซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด เป็นการกล่าวอ้างถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกระทำผิด ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 ซึ่งการกระทำทุกอย่างหรืออย่างใดอย่างหนึ่งย่อมเป็นความผิดตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ เมื่อโจทก์นำสืบฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทุกอย่าง การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดตามกฎหมายดังกล่าว ฟ้องของโจทก์ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 616/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การบรรยายรายละเอียดการกระทำผิดเพียงพอต่อการเข้าใจข้อหา
โจทก์มิได้อ้างในคำฟ้องว่าเงินที่ผู้เสียหายมอบให้แก่จำเลยเป็นเงินมัดจำซื้อบ้านจำนวนเท่าใด ต่อเติมบ้านจำนวนเท่าใดแต่ฟ้องโจทก์ได้บรรยายถึงการกระทำที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดมีข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีจึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) หากจำเลยเห็นว่าเงินที่โจทก์มอบให้จำเลยเป็นเงินค่าจ้างที่ผู้เสียหายว่าจ้างจำเลยต่อเติมบ้านให้ผู้เสียหาย จึงเป็นเงินของจำเลย การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด ก็เป็นข้อต่อสู้ซึ่งจำเลยสามารถจะนำสืบหักล้างได้ในชั้นพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 447/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องหมิ่นประมาทต้องกล่าวถึงถ้อยคำที่ทำให้เกิดความเสียหายชัดเจน แม้รายละเอียดการกระทำจะนำสืบในชั้นพิจารณาได้
คำฟ้องของโจทก์บรรยายถึงการกระทำของจำเลยว่าจำเลยได้กล่าวและเขียนคำร้องทุกข์ใส่ความโจทก์ต่อหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอว่าโจทก์มีพฤติการณ์ในทำนองชู้สาวกับ ส. อาจารย์ใหญ่ โดยเจตนาจะให้โจทก์ได้รับความเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชังและต้องได้รับโทษทางวินัยเพราะ ส. มีภริยาชอบด้วยกฎหมายอยู่แล้ว คำฟ้องของโจทก์มีความหมายที่เข้าใจได้ว่า โจทก์เป็นคนมีความประพฤติไม่ดี มีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับสามีของหญิงอื่นส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับพฤติการณ์ในทำนองชู้สาวว่ามีอย่างไรนั้น ชอบที่โจทก์จะนำสืบได้ในชั้นพิจารณา จึงเป็นคำฟ้องที่ได้กล่าวถึงถ้อยคำพูดหนังสือ อันเกี่ยวกับข้อหมิ่นประมาทไว้โดยบริบูรณ์ พอที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)