คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 158

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,873 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 56/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษความผิดหลายกรรม: การกระทำต่อเนื่องจากเจตนาเดิม ถือเป็นความผิดกรรมเดียว
โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่าจำเลยกระทำผิดหลายกรรมต่างกันโดยมิได้บรรยายว่า กระทำผิดกี่กรรมและเมื่อใดบ้าง ไม่ชัดเจนว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยหลายกรรม เพราะการข่มขืนกระทำชำเรานั้น. แม้จะกระทำหลายครั้ง หากเป็นการกระทำต่อเนื่องกันจากเจตนาเดิม ย่อมเป็นความผิดเพียงกรรมเดียว.ดังนี้ ศาลลงโทษจำเลยได้กรรมเดียว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3875/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ต้องมีรายละเอียดของข้อความเท็จและองค์ประกอบความผิดอาญา
ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 ข้อความอันเป็น เท็จที่แจ้งจะต้องเกี่ยวกับความผิดอาญาด้วย แต่คำฟ้องของโจทก์ระบุเพียงว่า จำเลยแจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่าโจทก์ได้มาขอยืมเครื่องเพชรพลอยต่าง ๆคิดเป็นมูลค่าถึง 166,900 บาท แล้วหายเงียบไปเท่านั้น ไม่ปรากฏว่าข้อความที่จำเลยแจ้งนั้นเกี่ยวกับความผิดอาญาอย่างไร จึงเป็นฟ้องที่ไม่ครบองค์ประกอบความผิด คำฟ้องของโจทก์ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328 มิได้บรรยายว่า ข้อความที่จำเลยนำส่งลงพิมพ์โฆษณามีว่าอย่างไรทั้งมิได้แนบข้อความในหนังสือพิมพ์ที่โจทก์อ้างมาท้ายฟ้องด้วย จึงเป็นคำฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3790/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุสถานที่เกิดเหตุในฟ้องอาญา และการรวมพิจารณาคดีพร้อมการนับโทษ
การระบุถึงสถานที่ที่เกิดการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5) ไม่จำต้องระบุตำบลหรือแขวงของสถานที่เกิดเหตุเสมอไป เพียงแต่กล่าวไว้พอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีก็เป็นการ เพียงพอแล้ว การที่โจทก์บรรยายว่าเหตุเกิดที่ธนาคาร ก. สาขาทรงวาด ถนนทรงวาดเขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร อันเป็นธนาคารตามเช็ครายพิพาทของจำเลย ดังนี้ เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว
คดี 3 สำนวน ศาลชั้นต้นรวมพิจารณาเข้าด้วยกัน แต่เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นได้แยกพิพากษาเป็นรายคดี แม้โจทก์จะมิได้มีคำขอให้นับโทษต่อไว้ท้ายฟ้อง แต่โจทก์ก็ได้ยื่นคำขอให้นับโทษต่อกันทุกสำนวนไว้ก่อน ศาลพิพากษาในสำนวนคดีนี้อันเป็นสำนวนหลักของสำนวนที่มีการรวมพิจารณา และศาลชั้นต้นก็ลงโทษจำเลยทุกสำนวนที่ศาลอุทธรณ์ให้นับโทษจำเลยต่อจากโทษ ในคดีอีก 2 สำนวน จึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3775/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยในความผิดหลายกรรม แม้โจทก์มิได้อ้างมาตรา 91 ในคำฟ้อง
แม้ตามฟ้องของโจทก์มิได้อ้างประมวลกฎหมายอาญามาตรา91 มาในคำขอท้ายฟ้อง แต่ตามคำฟ้องของโจทก์ได้บรรยายว่าจำเลยได้กระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน และทางพิจารณาของศาลข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำความผิดหลายกรรมจริงดังนี้ ศาลย่อมลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปได้เพราะประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 มิใช่บทบัญญัติถึงการกระทำอันเป็นความผิดซึ่งโจทก์จะต้องกล่าวอ้างมาในคำขอท้ายฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (6) และกรณีมิใช่ศาลลงโทษจำเลยเกินคำขอตามมาตรา 192 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3775/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยหลายกรรมต่างกัน ศาลลงโทษทุกกรรมได้ แม้โจทก์มิได้อ้างมาตรา 91
แม้ตามฟ้องของโจทก์มิได้อ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา91 มาในคำขอท้ายฟ้อง แต่ตามคำฟ้องของโจทก์ได้บรรยายว่าจำเลยได้กระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน และทางพิจารณาของศาลข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำความผิดหลายกรรมจริงดังนี้ ศาลย่อมลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปได้เพราะประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 มิใช่บทบัญญัติถึงการกระทำอันเป็นความผิดซึ่งโจทก์จะต้องกล่าวอ้างมาในคำขอท้ายฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(6)และกรณีมิใช่ศาลลงโทษจำเลยเกินคำขอตามมาตรา 192 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3709/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีเช็ค การระบุเวลาปฏิเสธการจ่ายเงินเป็นสาระสำคัญ
ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 นั้น จะเกิดขึ้นเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินจึงถือได้ว่าวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คเป็นเวลาที่เกิดการกระทำผิดซึ่งจะต้องบรรยายฟ้องไว้ เพราะเป็นข้อเท็จจริงและรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาซึ่งเกิดการกระทำผิด มิฉะนั้นจำเลยย่อมไม่อาจเข้าใจข้อหาได้ดี เมื่อโจทก์กล่าวในฟ้องว่าจำเลยออกเช็คเมื่อวันใดมิได้ระบุวันเวลาที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คจึงเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3323/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องไม่สมบูรณ์ฐานพยายามฆ่า – โจทก์ไม่ได้อ้างบทกฎหมายที่ถูกต้อง – ศาลฎีกายกฟ้อง
บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงใส่ย. โดยเจตนาฆ่าเพื่อจะเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่จำเลยกับพวกได้กระทำผิดฐานชิงทรัพย์ ฯลฯ แต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล แต่โจทก์ไม่ได้ระบุอ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 มาในคำขอท้ายฟ้อง กรณีมิ ใช่โจทก์อ้างฐานความผิด หรือบทมาตราผิด แต่โจทก์ไม่ได้ อ้างมาตราในกฎหมายซึ่งบัญญัติว่าการ กระทำเช่นนั้นเป็น ความผิดตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(6)มาในฟ้อง ฟ้องโจทก์ฐานพยายามฆ่าตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 ประกอบด้วย มาตรา 80จึงเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ลงโทษจำเลยสำหรับความผิด ฐานนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3274/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องยักยอกทรัพย์: การบรรยายฟ้องที่ชัดเจนเพียงพอต่อการเข้าใจข้อหา
บรรยายฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้รับฝากเสื้อผ้าของผู้เสียหายไว้หลายรายการ ต่อมาระหว่างวันที่ 14 มีนาคม 2525 ตลอดมาจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2525 จำเลยได้เบียดบังยักยอกเอาเสื้อผ้าที่ได้รับฝากไว้ดังกล่าวรวม 2 รายการราคา 125,000 บาท ของผู้เสียหายไปเป็นประโยชน์ส่วนตนโดยทุจริต ดังนี้ ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3145/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำเงินตราปลอมออกใช้หลังทราบว่าเป็นของปลอม มีรายละเอียดเวลาการกระทำความผิดตามกฎหมาย
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2525 เวลากลางคืนหลังเที่ยง ดังนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(11)เวลาเกิดเหตุตามฟ้องของโจทก์ ก็คือตั้งแต่เวลาพระอาทิตย์ตกของวันที่ 9 มิถุนายน 2525 ถึงเวลา 24.00 นาฬิกา ของวันเดียวกันเป็นระยะเวลานาน 6 ชั่วโมง เข้าใจได้ว่าจำเลยได้รู้อยู่ว่าธนบัตรดังกล่าวเป็นเงินตราซึ่งมีผู้ทำปลอมขึ้นไม่สามารถใช้ได้ ตามกฎหมายแต่จำเลยได้ขืนนำออกใช้เมื่อเวลาระหว่าง พระอาทิตย์ตกของวันที่ 9 มิถุนายน 2525 จนถึงเวลา 24.00 นาฬิกา ของวันเดียวกันอันเป็นระยะเวลาหลังจาก จำเลยได้มาซึ่งเงินตราที่มีผู้ทำปลอมขึ้น ฟ้องโจทก์จึง มีรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาซึ่งเกิดการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3145/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานนำเงินตราปลอมออกใช้ การระบุเวลาเกิดเหตุตามฟ้องต้องชัดเจนและสอดคล้องกับข้อเท็จจริง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2525 เวลากลางคืนหลังเที่ยง ดังนั้น ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(11) เวลาเกิดเหตุตามฟ้องของโจทก์ ก็คือตั้งแต่เวลาพระอาทิตย์ตกของวันที่ 9 มิถุนายน 2525 ถึงเวลา 24.00 นาฬิกา ของวันเดียวกัน เป็นระยะเวลานาน 6 ชั่วโมง เข้าใจได้ว่าจำเลยได้รู้อยู่ว่าธนบัตรดังกล่าวเป็นเงินตราซึ่งมีผู้ทำปลอมขึ้นไม่สามารถใช้ได้ตามกฎหมาย แต่จำเลยได้ขืนนำออกใช้เมื่อเวลาระหว่างพระอาทิตย์ตกของวันที่ 9 มิถุนายน 2525 จนถึงเวลา24.00 นาฬิกาของวันเดียวกัน อันเป็นระยะเวลาหลังจากจำเลยได้มาซึ่งเงินตราที่มีผู้ทำปลอมขึ้น ฟ้องโจทก์จึงมีรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาซึ่งเกิดการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
of 188