คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 158

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,873 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1146/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุวันกระทำความผิดในคดีเช็ค: จำเป็นต้องระบุวันที่ชัดเจน ไม่สามารถระบุเพียงเดือนและปี
ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2497 มาตรา 3 นั้น เกิดขึ้นในวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน
โจทก์ฟ้องคดีตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คโดยบรรยายฟ้องว่า "......เมื่อวันที่ .... พฤษภาคม 2523(ไม่ได้ระบุวันที่) โจทก์นำเช็คดังกล่าวไปเบิกเงินจากธนาคาร แต่ธนาคาปฏิเสธการจ่ายเงิน" ถือไม่ได้ว่าเป็นการระบุวันกระทำผิดหรือวันที่ความผิดเกิดขึ้น จึงเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 946/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ้างประกาศคณะปฏิวัติผิดพลาด ศาลฎีกาวินิจฉัยให้ลงโทษตามประกาศที่ถูกต้องได้ แม้มีการอ้างผิดพลาดเล็กน้อย
การกระทำทั้งหลายของจำเลยตามที่โจทก์บรรยายฟ้อง เป็นความผิดตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 295 ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2515 คำขอท้ายฟ้องโจทก์ก็ได้อ้างบทมาตราในกฎหมายซึ่งบัญญัติว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดว่า ข้อ 56 และ 83 แต่แทนที่จะอ้างประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 295 ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2515 กลับอ้างประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 56 ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2515 ซึ่งความจริงประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 56 เป็นกฎหมายลงวันที่ 25 มกราคม 2515 และมีบทมาตราเพียง 6 ข้อเท่านั้น เห็นได้ชัดว่า โจทก์ระบุหมายเลขประกาศของคณะปฏิวัติผิดไป เป็นเรื่องผิดพลาดเล็กน้อย มิใช่เป็นเรื่องโจทก์ไม่ประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 295 เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยกระทำความผิดตามที่โจทก์กล่าวในฟ้อง ศาลก็มีอำนาจลงโทษตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 295 ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2515 ข้อ 56 และ 83 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 825/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชอบของฟ้องยักยอกทรัพย์: การบรรยายรายละเอียดการกระทำความผิดที่เพียงพอต่อการเข้าใจข้อหา
บรรยายฟ้องว่า จำเลยติดต่อขายผ้าของผู้เสียหายให้แก่ผู้อื่นรวม 6 ครั้ง จำเลยเรียกเก็บเงินราคาผ้าแล้วเบียดบังเอาเป็นของตนหรือบุคคลอื่นโดยทุจริต เมื่อได้ความว่าผู้เสียหายมอบใบรับสินค้าให้จำเลยไปเก็บเงินจำเลยเก็บเงินได้กี่ครั้ง จำนวนเท่าใด แล้วเบียดบังเอาไปเมื่อใดจำเลยย่อมรู้ดี แต่โจทก์ไม่อาจจะทราบได้แน่ชัดนอกจากสันนิษฐานเอาว่า จำเลยยักยอกเงินค่าผ้าไปในระหว่างวันที่ลูกค้าได้รับผ้าและวันที่ทราบว่าจำเลยยักยอกเอาเงินค่าผ้าไป ดังนี้ เป็นฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา158

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 351/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานพรากผู้เยาว์, ข่มขืน, และการฟ้องที่ไม่ชัดเจน
จำเลยฉุดคร่าผู้เสียหายจากทางเดินพาเข้าไปในทุ่งนาข่มขืนกระทำชำเราแล้วก็ทิ้งผู้เสียหายไว้ ณ ที่เกิดเหตุ แสดงว่าจำเลยพาไปเพื่อจะกระทำชำเราเท่านั้นหาได้มีเจตนาพาหรือแยกเอาผู้เสียหายไปจากความปกครองดูแลของบิดามารดาผู้เสียหายไม่ จึงไม่เป็นความผิดฐานพรากผู้เยาว์ตาม ป.อ.ม.318 ด้วย
การพรากผู้เยาว์ไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแลผู้กระทำไม่จำต้องมีเจตนาเพื่อการอนาจาร หรือทำให้ผู้เยาว์ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ก็เป็นความผิดได้อยู่ในตัวเอง เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องเฉพาะเรื่องพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร โดยไม่บรรยายให้ปรากฏการกระทำตาม ป.อ. ม.284 และ ม.310 ที่ขอให้ลงโทษมาท้ายฟ้องด้วยจึงไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ. ม.158 ศาลจะปรับบทลงโทษตามมาตราดังกล่าวไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 313/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจสั่งงดไต่สวนมูลฟ้อง, คำฟ้องไม่ชัดเจน, และการไม่มีอำนาจฟ้องในคดีอาญา
การไต่สวนมูลฟ้องเป็นอำนาจของผู้พิพากษานายเดียวตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม ม.22 เมื่อผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนเห็นว่าตามที่โจทก์บรรยายฟ้องไม่อาจลงโทษจำเลยตามบทมาตราที่อ้างได้การไต่สวนมูลฟ้องต่อไปไม่เป็นประโยชน์แก่คดีย่อมมีอำนาจสั่งให้งดการไต่สวนมูลฟ้องได้ แม้ว่ารองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญามีคำสั่งให้นัดไต่สวนมูลฟ้องไว้แล้วก็ตาม
ฟ้องว่าจำเลยสอบสวนพยานและบันทึกเสนอข้อความบิดเบือนความจริง และบันทึกข้อความนอกสำนวน เมื่อมิได้บรรยายว่าความจริงเป็นอย่างไร บิดเบือนอย่างไร ข้อความใดที่ว่านอกสำนวน จึงเป็นคำฟ้องที่ไม่ถูกต้องตาม ป.ว.อ. มาตรา158(5)
การที่จำเลยซึ่งเป็นคณะกรรมการสอบสวนโจทก์กรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยร้ายแรง ไม่รายงานผู้บังคับบัญชาเพื่อสอบสวนเอาผิดแก่ผู้ร่วมกระทำผิดด้วย โจทก์ไม่ใช่ผู้ที่ได้รับความเสียหายโดยตรงโจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายและไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2927/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องผิดพลาดเรื่องปริมาณยาเสพติดและสถานที่เกิดเหตุ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าฝิ่นที่จำเลยมีไว้ในความครอบครองราคา64,500 บาท ฝิ่นราคากรัมละ 10 บาท ที่ว่าฝิ่นหนัก 6.450 กรัมจึงเป็นเพราะพิมพ์ผิดที่ถูกน่าจะเป็น 6,450 กรัม หรือ 6.450 กิโลกรัมจึงจะลงตัวกับราคาข้างต้นดังนี้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ในทางพิจารณาต่างกับฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องระบุสถานที่เกิดเหตุไว้หลายท้องที่ แม้จะฟังว่าของกลางที่ยึดได้จากบ้านจำเลยไม่ใช่ฝิ่นจึงไม่มีความผิดเกิดขึ้นที่แขวงสามเสนนอกตามที่ระบุไว้ก็ตาม แต่สถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง ก็ไม่แตกต่างกับที่ได้ความในทางพิจารณาเพราะซอยคลังมนตรีที่ตำรวจจับจำเลยได้พร้อมฝิ่นและเฮโรอีนของกลาง ก็อยู่ในแขวงลาดยาว ตามฟ้องนั่นเอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2588/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับซื้อหรือช่วยพาถ่านไม้ผิดกฎหมาย โจทก์ต้องพิสูจน์ว่าผู้ได้มาเก็บหาในป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต
บันทึกคำฟ้องประกอบบันทึกหลักฐานการฟ้องคดีด้วยวาจาโจทก์บรรยายข้อเท็จจริงว่าจำเลยรับเอาถ่านไม้ของกลางไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของป่าที่มีผู้ได้มาโดยไม่รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่และไม่ได้เสียค่าภาคหลวง และจำเลยช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งถ่านไม้ดังกล่าว โดยมิได้ระบุว่าผู้ที่ได้ของกลางเป็นผู้เก็บหาของป่าหวงห้าม หรือเป็นผู้ทำอันตรายด้วยประการใด ๆ แก่ของป่าหวงห้ามในป่า อันจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 29 วรรคแรก ฟ้องโจทก์ไม่ครบองค์ความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 29, 70 ลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2027/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องอาญา: การระบุรายละเอียดการกระทำความผิดที่เพียงพอต่อการเข้าใจข้อหา
บรรยายฟ้องว่า จำเลยดำรงตำแหน่งผู้จัดการร้านสหกรณ์หัวหินจำกัดได้ครอบครองดูแลกิจการทั้งปวงและตัวเงินสดของร้านจำเลยได้เบียดบังยักยอกทรัพย์ (สินค้าต่าง ๆ) ตามบัญชีทรัพย์ท้ายฟ้องเป็นเงิน50,500.25 บาท และยักยอกเงินสด 111,000 บาท ของร้านไป เป็นของจำเลยโดยทุจริต ดังนี้ ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2002/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องความผิดป่าไม้ ต้องระบุรายละเอียดการได้มาซึ่งของป่าที่เป็นความผิดด้วย
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการได้มาอันเป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ของผู้ได้มาซึ่งไม้หรือของป่าที่เป็นวัตถุแห่งการกระทำผิดตามมาตรา 70 ย่อมเป็นองค์ประกอบความผิดที่โจทก์ต้องบรรยายมาในฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้บังอาจรับถ่านไม้ 6 กระสอบปริมาตร 0.75 ลูกบาศก์เมตร อันเป็นของป่าหวงห้ามโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของป่าที่มีผู้ได้มาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และไม่ได้เสียค่าภาคหลวง และจำเลยช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งถ่านไม้จำนวนดังกล่าว โจทก์มิได้บรรยายว่าผู้ที่ได้ถ่านไม้มาได้เก็บหาของป่าหรือทำอันตรายด้วยประการใด ๆ แก่ของป่าหวงห้ามในป่า อันจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 29 ที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว เมื่อตามฟ้องไม่ปรากฏว่าผู้ได้ถ่านไม้มา.ได้ถ่านไม้นั้นมาโดยการกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 29 ที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว จำเลยซึ่งเป็นผู้รับและช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งถ่านไม้ดังกล่าวก็ไม่มีความผิดฐานเป็นตัวการฟ้องโจทก์บรรยายไม่ครบถ้วน แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็ต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2002/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องความผิดป่าไม้ ต้องระบุการได้มาซึ่งของป่าที่เป็นความผิดด้วย
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการได้มาอันเป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ของผู้ได้มาซึ่งไม้หรือของป่าที่เป็นวัตถุแห่งการกระทำผิดตามมาตรา 70 ย่อมเป็นองค์ประกอบความผิดที่โจทก์ต้องบรรยายมาในฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้บังอาจรับถ่านไม้ 6 กระสอบปริมาตร 0.75 ลูกบาศก์เมตร อันเป็นของป่าหวงห้ามโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของป่าที่มีผู้ได้มาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และไม่ได้เสียค่าภาคหลวง และจำเลยช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งถ่านไม้จำนวนดังกล่าว โจทก์มิได้บรรยายว่าผู้ที่ได้ถ่านไม้มาได้เก็บหาของป่าหรือทำอันตรายด้วยประการใด ๆ แก่ของป่าหวงห้ามในป่า อันจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 29 ที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว เมื่อตามฟ้องไม่ปรากฏว่าผู้ได้ถ่านไม้มาได้ถ่านไม้นั้นมาโดยการกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 29 ที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว จำเลยซึ่งเป็นผู้รับและช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งถ่านไม้ดังกล่าวก็ไม่มีความผิดฐานเป็นตัวการ ฟ้องโจทก์บรรยายไม่ครบถ้วน แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็ต้องยกฟ้อง
of 188