พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,873 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 86/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องความผิดฐานประมาทต้องระบุรายละเอียดการกระทำ หากโจทก์ฟ้องเฉพาะเจตนา ศาลลงโทษประมาทไม่ได้
ความผิดฐานพยายามฆ่าคนโดยเจตนากับความผิดฐานประมาททำให้คนรับอันตรายแก่กายถึงสาหัสนั้น ลักษณะการกระทำแตกต่างกัน อันถือว่าเป็นสาระสำคัญ กล่าวคือ ในความผิดที่กระทำโดยประมาทโจทก์จะต้องบรรยายฟ้องให้จำเลยทราบว่า การกระทำของจำเลยเป็นประการใดจึงเรียกว่าจำเลยกระทำโดยประมาท จำเลยจะได้ต่อสู้คดีในฐานประมาทได้ด้วย มิฉะนั้น เมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยพยายามฆ่าโดยเจตนา จะลงโทษฐานประมาททำให้คนรับอันตรายแก่กายถึงสาหัสไม่ได้หากโจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยฐานประมาททำให้คนรับอันตรายแก่กายถึงสาหัสด้วย โจทก์ก็ชอบที่จะบรรยายฟ้องถึงการกระทำของจำเลยเป็นท้องเรื่องมาในฟ้องอันเห็นได้ว่า หากจำเลยไม่เจตนาจำเลยก็ได้กระทำการโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้น จักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์เช่นนี้ ศาลก็ยังอาจจะลงโทษจำเลยฐานทำอันตรายแก่กายถึงสาหัสโดยประมาทได้เพราะเป็นเรื่องอยู่ในฟ้องแล้ว (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 18/2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1293/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยักยอกทรัพย์ทางราชการ: ฟ้องไม่เคลือบคลุมแม้รายละเอียดการรับเงินและยักยอกไม่ชัดเจน
คดีมีความผิดฐานใช้อำนาจและตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริตยักยอกทรัพย์ความว่า จำเลยได้รับเงินผลประโยชน์ไว้ตามหน้าที่ราชการในระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2495 ถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2497 รวมเป็น 219,310 บาท 95 สตางค์ แล้วในระหว่างนั้นเวลากลางวัน จำเลยได้ยักยอกเอาไว้เป็นประโยชน์ตนเองเสีย 2,357 บาท 89 สตางค์ จำเลยจะได้รับเงินกี่คราวและวันไหนบ้างเป็นรายละเอียดปลีกย่อยซึ่งโจทก์อาจไม่อยู่ในวิสัยที่จะจำแนกให้ปรากฏได้ และจำเลยจะยักยอกเอาเงิน 2,357 บาท 89 สตางค์นั้นไปกี่คราว วันไหนบ้าง เป็นรายละเอียดที่โจทก์อาจไม่อยู่ในวิสัยที่จะจำแนกได้เช่นเดียวกัน ดังนี้ ฟ้องของโจทก์หาเคลือบคลุมไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1293/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของฟ้องอาญา: การยักยอกทรัพย์ แม้ขาดรายละเอียดปลีกย่อยก็ไม่ทำให้ฟ้องเคลือบคลุม
คดีความผิดฐานใช้อำนาจและตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริตยักยอกทรัพย์ความว่า จำเลยได้รับเงินผลประโยชน์ไว้ตามหน้าที่ราชการในระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2495 ถึงวันที่ 1 กรกฎาคม2497 รวมเป็น 219,310 บาท 95 สตางค์ แล้วในระหว่างนั้นเวลากลางวันจำเลยได้ยักยอกเอาไว้เป็นประโยชน์ตนเองเสีย 2,357 บาท 89 สตางค์ จำเลยจะได้รับเงินกี่คราวและวันไหนบ้างเป็นรายละเอียดปลีกย่อยซึ่งโจทก์อาจไม่อยู่ในวิสัยที่จะจำแนกให้ปรากฏได้ และจำเลยจะยักยอกเอาเงิน 2,357 บาท 89 สตางค์นั้นไปกี่คราว วันไหนบ้าง เป็นรายละเอียดที่โจทก์อาจไม่อยู่ในวิสัยที่จะจำแนกได้เช่นเดียวกัน ดังนี้ ฟ้องของโจทก์หาเคลือบคลุมไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1219/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบหมายขายของโดยไม่กำหนดราคาไม่เป็นยักยอกเงิน หากชำระราคาตามตกลง
ผู้เสียหายมอบวิทยุให้จำเลยนำไปขายโดยไม่ได้จำกัดว่า จะต้องขายราคาเท่าใด เป็นแต่ว่าจำเลยจะต้องชำระราคาเครื่องวิทยุ 2,500 บาทแก่ ผู้เสียหาย ดังนี้แสดงว่า จำเลยจะขายวิทยุในราคาเท่าใดก็แล้วแต่จำเลยเงินที่ขายได้ย่อมตกเป็นของจำเลย ๆ มีความผูกพันที่จะต้องรับผิดใช้ราคา เครื่องวิทยุ 2,500 บาท แก่ผู้เสียหายเท่านั้น มิใช่เรื่องจำเลยได้รับมอบหมายราคาเครื่องวิทยุไว้แทนผู้เสียหายกรณีไม่เป็นความผิดฐานยักยอกเงิน
(อ้างฎีกาที่ 205/2488)
(อ้างฎีกาที่ 205/2488)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1219/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบหมายขายของโดยไม่กำหนดราคา ไม่ถือเป็นการยักยอกเงิน หากชำระราคาสินค้าให้ผู้มอบหมายแล้ว
ผู้เสียหายมอบวิทยุให้จำเลยนำไปขายโดยไม่ได้จำกัดว่า จะต้องขายราคาเท่าใด เป็นแต่ว่าจำเลยจะต้องชำระราคาเครื่องวิทยุ 2,500 บาทแก่ผู้เสียหาย ดังนี้แสดงว่า จำเลยจะขายวิทยุในราคาเท่าใดก็แล้วแต่จำเลยเงินที่ขายได้ย่อมตกเป็นของจำเลย จำเลยมีความผูกพันที่จะต้องรับผิดใช้ราคาเครื่องวิทยุ 2,500 บาท แก่ผู้เสียหายเท่านั้นมิใช่เรื่องจำเลยได้รับมอบหมายราคาเครื่องวิทยุไว้แทนผู้เสียหายกรณีไม่เป็นความผิดฐานยักยอกเงิน(อ้างฎีกาที่205/2488)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1162/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การกล่าวถึงผู้กระทำผิดโดยรวมถึงจำเลย
ฟ้องของโจทก์ตอนแรกบรรยายว่าได้มีผู้บังอาจปลอมใบเสร็จรับเงินและฟ้องตอนหลังกล่าวว่า จำเลยบังอาจสมคบกันปลอมใบเสร็จรับเงินนั้นเป็นการกล่าวว่ามีผู้ปลอมใบเสร็จรับเงินซึ่งหมายรวมถึงตัวจำเลยเป็นผู้ปลอมด้วย ข้อเท็จจริงในฟ้องจึงหาขัดกันไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1162/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญา: ความสมบูรณ์ของฟ้องที่บรรยายลักษณะการกระทำผิดที่เปลี่ยนแปลงไป
ฟ้องของโจทก์ตอนแรกบรรยายว่าได้มีผู้บังอาจปลอมใบเสร็จรับเงินและฟ้องตอนหลังกล่าวว่า จำเลยบังอาจสมคบกันปลอมใบเสร็จรับเงินนั้นเป็นการกล่าวว่ามีผู้ปลอมใบเสร็จรับเงินซึ่งหมายรวมถึงตัวจำเลยเป็นผู้ปลอมด้วย ข้อเท็จจริงในฟ้องจึงหาขัดกันไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1161/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของฟ้องคดีอาญา: การระบุชื่อผู้จ้างวานไม่จำเป็นหากเป็นเพียงเหตุประกอบ
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้ยิงผู้เสียหาย โดยผู้อื่นใช้ จ้าง วาน ให้ยิง ดังนี้ เป็นเพียงข้อประกอบให้รู้ถึงสาเหตุที่ว่าจำเลยยิง ชื่อของผู้จ้างวาน และวันเดือนปีที่ใช้ จ้าง วาน จึงไม่ใช่ข้อสำคัญจะต้องระบุในฟ้อง ฟ้องของโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1161/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีอาญา: การระบุชื่อผู้จ้างวานไม่เป็นสาระสำคัญ
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้ยิงผู้เสียหาย โดยผู้อื่นใช้ จ้าง วาน ให้ยิง ดังนี้ เป็นเพียงข้อประกอบให้รู้ ถึงสาเหตุที่ว่าจำเลยยิง ชื่อของผู้จ้างวาน และวันเดือนปีที่ใช้จ้างวาน จึงไม่ใช่ข้อสำคัญจะต้องระบุในฟ้อง ฟ้องของโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1146/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องคดีไม้หวงห้าม ไม่ต้องระบุวิธีการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกา หากมีข้อเท็จจริงเพียงพอ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ บรรยายฟ้องว่า ไม้เหียงเป็นไม้หวงห้าม พงศ. 2494 โดยไม่ได้บรรยายว่า พระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2494 ได้ประกาศตามความใน มาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ดังนี้ ก็ถือว่า เป็นฟ้องสมบูรณ์ลงโทษจำเลยได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 13/2502)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 13/2502)