คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 158

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,873 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 988/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องอาญาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา: การบรรยายองค์ประกอบความผิดต้องชัดแจ้งให้จำเลยเข้าใจ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานหมิ่นประมาทโดยโฆษณาด้วยเอกสารหนังสือพิมพ์ โดยกล่าวในฟ้องว่า จำเลยที่ 2 เป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ข่าวภาพ จำเลยสมคบร่วมกันกระทำความผิดหมิ่นประมาทโจทก์ โดยจำเลยที่ 1 เป็นผู้ให้ข่าว และกล่าวข้อความหมิ่นประมาทโจทก์แก่ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ข่าวภาพ โดยจำเลยที่ 1 ตั้งใจก่อให้เกิดการลงพิมพ์โฆษณาหมิ่นประมาทโจทก์ โดยให้ผู้สื่อข่าวนำข้อความที่หมิ่นประมาทโจทก์นั้น ไปลงพิมพ์โฆษณาในหนังสือพิมพ์ข่าวภาพ และหนังสือพิมพ์ข่าวภาพได้ลงพิมพ์โฆษณาข้อความหมิ่นประมาทโจทก์แล้ว ดังนี้ ถือว่าฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 924/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษคดีที่ศาลรอการลงโทษ โดยจำเลยรับสารภาพตามฟ้อง ศาลย่อมพิพากษาตามคำรับ
โจทก์บรรยายฟ้องว่าขอให้ลงโทษจำเลยในคดีที่ศาลได้รอการลงโทษไว้ โดยนับโทษติดต่อกันไปตามลำดับ ดังนี้โจทก์ไม่จำต้องอ้างคดีดังกล่าวไว้ในบัญชีพยาน เมื่อจำเลยรับตามที่โจทก์ฟ้อง ศาลย่อมพิพากษาตามคำรับของจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 924/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษต่อเนื่องจากคดีที่ศาลรอการลงโทษ โดยจำเลยรับตามฟ้อง โจทก์ไม่ต้องอ้างในบัญชีพยาน
โจทก์บรรยายฟ้องว่าขอให้ลงโทษจำเลยในคดีที่ศาลได้รอการลงโทษไว้ โดยนับโทษติดต่อกันไปตามลำดับดังนี้ โจทก์ไม่จำต้องอ้างคดีดังกล่าวไว้ในบัญชีพยาน เมื่อจำเลยรับตามที่โจทก์ฟ้อง ศาลย่อมพิพากษาตามคำรับของจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 892/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานลักโคต้องระบุชัดว่าเป็นของเกษตรกร การบรรยายฟ้องไม่ชัดเจน ศาลอุทธรณ์ลงโทษได้
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยลักโคซึ่งเป็นสัตว์พาหนะ และเป็นเครื่องมือประกอบกสิกรรมของเจ้าทรัพย์ไป เพียงเท่านั้น ยังไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (12) เพราะขาดองค์ความผิดว่าเป็นโคของผู้มีอาชีพกสิกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 892/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานลักทรัพย์โค: การบรรยายฟ้องต้องระบุชัดว่าเป็นโคของผู้มีอาชีพกสิกรรม
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยลักโคซึ่งเป็นสัตว์พาหนะและเป็นเครื่องมือประกอบกสิกรรมของเจ้าทรัพย์ไป เพียงเท่านั้นยังไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(12)เพราะขาดองค์ความผิดว่าเป็นโคของผู้มีอาชีพกสิกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 562/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จต่อศาล แม้ไม่ระบุความสำคัญของความเท็จ ฟ้องสมบูรณ์หากเป็นประเด็นสำคัญในคดี
ความผิดฐานเบิกความเท็จ โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำเลยสาบานตัวเบิกความต่อศาลว่าโจทก์เป็นคนร้ายปล้นกระบือตามฟ้องของพนักงานอัยการโดย จำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จแม้โจทก์จะมิได้บรรยายว่าความเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดี ก็ย่อมเข้าใจอยู่ในตัวแล้วว่าความเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดีทีเดียว เพราะการเป็นคนร้ายตามฟ้องของพนักงานอัยการหรือไม่ เป็นประเด็นโดยตรงของคดีที่กล่าวหากันดังนี้ ฟ้องของโจทก์สมบูรณ์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 562/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จต่อศาล ความเท็จเป็นข้อสำคัญในคดี ฟ้องสมบูรณ์
ความผิดฐานเบิกความเท็จ โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำเลยสาบาลตัวเบิกความต่อศาลว่าโจทก์เป็นคนร้ายปล้นกระบือตามฟ้องของพนักงานอัยการ โดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ แม้โจทก์จะมิได้บรรยายว่าความเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดี ก็ย่อมเข้าใจอยู่ในตัวแล้วว่าความเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดีทีเดียว เพราะการเป็นคนร้ายตามฟ้องของพนักงานอัยการหรือไม่ เป็นประเด็นโดยตรงของคดีที่กล่าวหากัน ดังนี้ ฟ้องของโจทก์สมบูรณ์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีไม้แปรรูปโดยไม่ระบุว่าเป็นไม้หวงห้าม ฟ้องสมบูรณ์ตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีไม้ประดู่แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 48,73,74 และ พ.ร.บ.ป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 มาตรา 17 ดังนี้ถือว่า เป็นฟ้องสมบูรณ์ไม่ต้องระบุว่าเป็นไม้แปรรูปประเภทหวงห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องร้องคดีไม้แปรรูปโดยไม่ระบุว่าเป็นไม้หวงห้าม ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าฟ้องสมบูรณ์ตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีไม้ประดู่แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484มาตรา 48, 73,74 และพระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 มาตรา 17 ดังนี้ ถือว่า เป็นฟ้องสมบูรณ์ไม่ต้องระบุว่าเป็นไม้แปรรูปประเภทหวงห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องไม่สมบูรณ์ขาดรายละเอียดบาดเจ็บสาหัส ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 ข้อ 5
ฟ้องโจทก์กล่าวว่า จำเลยได้รับบาดเจ็บสาหัสดังปรากฏตามรายงานชันสูตรบาดแผลท้ายฟ้องนี้ หาได้บรรยายว่าบาดเจ็บสาหัสอย่างไรและรายงานชันสูตรบาดแผลท้ายฟ้องก็ไม่เข้าเกณฑ์อันตรายสาหัสตามมาตรา 297 ที่ว่ารักษาเกินกว่ายี่สิบวันดังนี้ เป็นฟ้องไม่สมบูรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158ข้อ 5
of 188