คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 158

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,873 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 629/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทนายความลงลายมือชื่อคำร้องขอเป็นโจทก์ร่วมแทนตัวความ และการพิพากษาค่าทรัพย์สินที่เสียหาย
ทนายความที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำเนินกระบวนพิจารณาย่อมมีอำนาจลงลายมือชื่อในคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการแทนตัวความได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 344/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีเบิกความเท็จ แม้ไม่ได้ระบุรายละเอียดคดี แต่ระบุหมายเลขคดีแล้ว
การบรรยายฟ้องที่กล่าวหาว่ากระทำผิดฐานเบิกความเท็จโดยกล่าวว่าจำเลยได้สาบานตนนำความซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นความเท็จมาเบิกความในการพิจารณาของศาลในข้อสำคัญซึ่งเป็นการครบองค์ความผิดฐานเบิกความเท็จแล้ว และได้บรรยายข้อความที่จำเลยเบิกความซึ่งอ้างว่าเป็นความเท็จตลอดจนยืนยันว่าความจริงเป็นอย่างไรแม้ฟ้องจะไม่ได้ระบุว่าคดีที่จำเลยเบิกความเท็จเป็นเรื่องอะไรแต่ได้ระบุหมายเลขคดี(ที่จำเลยได้เบิกความอันเป็นเท็จ)ไว้แล้วดังนี้เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 344/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีเบิกความเท็จ การระบุหมายเลขคดีเพียงอย่างเดียวเพียงพอต่อการให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้
การบรรยายฟ้องที่กล่าวหาว่ากระทำผิดฐานเบิกความเท็จโดยกล่าวว่าจำเลยได้สาบานตนนำความซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นความเท็จมาเบิกความในการพิจารณาของศาลในข้อสำคัญ ซึ่งเป็นการครบองค์ควมผิดฐานเบิกความเท็จแล้ว และได้บรรยายข้อความที่จำเลยเบิกความซึ่งอ้างว่าเป็นความเท็จตลอดจนยืนยันว่าความจริงเป็นอย่างไร แม้ฟ้องจะไม่ได้ระบุว่าคดีที่จำเลยเบิกความเท็จเป็นเรื่องอะไร แต่ได้ระบุหมายเลขคดี(ที่จำเลยได้เบิกความอันเป็นเท็จ) ไว้แล้ว ดังนี้ เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 158

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 282/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของอาคารมีความรับผิดชอบต่อการก่อสร้างโดยจ้างผู้อื่น แม้ไม่ได้ลงมือเอง การปลูกสร้างอาคารโดยไม่ขออนุญาตเป็นความผิด
ห้องแถวที่ปลูกสร้างลงบนสะพานเป็นเรือนโรงที่อยู่อาศัยจึงเป็นอาคารตาม พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคาร เมื่อปลูกสร้างขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ก็เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอยู่ในตัว ถึงแม้จะถือว่าสพานไม่เป็นอาคารตาม พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคารก็ตาม
ในคดีที่โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยเจ้าของอาคารปลูกสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคาร เมื่อคำฟ้องโจทก์ระบุว่าจำเลยบังอาจทำการปลูกสร้าง แต่ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยจ้างคนงานปลูกสร้างโดยเจ้าของอาคารมิได้ลงมือด้วย ก็เป็นที่เข้าใจว่าเจ้าของเป็นผู้ปลูกสร้างอาคาร ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณา จึงไม่ต่างกับฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 282/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของอาคารมีความรับผิดชอบต่อการก่อสร้างโดยจ้างผู้อื่น แม้จะไม่ได้ลงมือเอง ถือเป็นผู้ปลูกสร้างอาคารตามกฎหมาย
ห้องแถวที่ปลูกสร้างลงบนสะพานเป็นเรือนโรงที่อยู่อาศัยจึงเป็นอาคารตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารเมื่อปลูกสร้างขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ก็เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารอยู่ในตัว ถึงแม้จะถือว่าสะพานไม่เป็นอาคารตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารก็ตาม
ในคดีที่โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยเจ้าของอาคารปลูกสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารเมื่อคำฟ้องโจทก์ระบุว่าจำเลยบังอาจทำการปลูกสร้าง แต่ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยจ้างคนงานปลูกสร้างโดยเจ้าของอาคารมิได้ลงมือด้วยก็เป็นที่เข้าใจว่าเจ้าของเป็นผู้ปลูกสร้างอาคาร ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณา จึงไม่ต่างกับฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1999/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานทุจริต ยักยอกเงินและปลอมแปลงบัญชี: เปลี่ยนบทลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา
คำบรรยายฟ้องคดีอาญาฐานเจ้าพนักงานทุจริตต่อหน้าที่ยักยอกเงินที่ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะได้บรรยายความถึงหน้าที่และการกระทำผิดไว้โดยละเอียดพอที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดี
จำเลยรับราชการตำแหน่งตรวจคนเข้าเมืองมีหน้าที่รับเงินค่าล่วงเวลาในการไปตรวจควบคุมและรอคอยพาหนะ รับเงินแล้วยักยอกเอาเป็นประโยชน์ส่วนตนเสีย โดยมิได้ปฏิบัติตามคำสั่งกระทรวงการคลังที่ให้นำส่ง ผิดตาม มาตรา 131ไม่ใช่ มาตรา 319(3)
การที่จำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีตำแหน่งหน้าที่ทำหนังสือราชการและจดทะเบียนบัญชี จำเลยบังอาจจดแจ้งข้อความลงในทะเบียนบัญชีเองอันเป็นเท็จ ผิดตาม มาตรา 230 ไม่ใช่มาตรา 225,229

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1999/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานทุจริต ยักยอกเงิน และปลอมแปลงบัญชีรับจ่าย
คำบรรยายฟ้องคดีอาญาฐานเจ้าพนักงานทุจริตต่อหน้าที่ยักยอกเงินที่ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะได้บรรยายความถึงหน้าที่และการกระทำผิดไว้โดยละเอียดพอที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดี
จำเลยรับราชการตำแหน่งตรวจคนเข้าเมือง มีหน้าที่รับเงินค่าล่วงเวลาในการไปตรวจควบคุม และ รอคอยพาหนะ รับเงินแล้วยักยอกเอาเป็นประโยชน์ส่วนตน เสียโดยมิได้ปฏิบัติตามคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ให้นำส่ง ผิดตาม ม. 131 ไม่ใช่ ม. 319 (3)
การที่จำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีตำแหน่งที่ทำหนังสือราชการและจดทะเบียนบัญชี จำเลยบังอาจจดแจ้งข้อความลงในทะเบียน บัญชีเองอันเป็นเท็จ ผิดตาม ม.230 ไม่ใช่ ม.225, 229

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1990/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน โดยพิจารณาจากบาดแผล และการระบุบทกฎหมายในฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องอ้างว่า จำเลยทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน ในท้องถนนหลวงถึงบาดเจ็บ ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญา ม. 254 เมื่อทางพิจารณาได้ความว่า บาดแผลที่จำเลยกระทำร้ายคู่วิวาทอีกฝ่ายหนึ่งไม่ถึงบาดเจ็บ เมื่อโจทก์ไม่ได้ขอให้ลงโทษจำเลยตาม ม.335 (6) มาด้วย จะลงโทษตามมาตรานี้ไม่ได้ เพราะเป็นความผิดคนละประเภทและบทบัญญัติความผิดก็คนละหมวดหมู่กัน ถือได้ว่าโจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ
รายงานชันสูตรบาดแผลท้ายฟ้องย่อมเป็นส่วนหนึ่งของฟ้อง เมื่อจำเลยรับสารภาพว่าได้กระทำผิดดังฟ้องโจทก์ทุกข้อหา แต่รายงานชันสูตรบาดแผลผู้ถูกทำร้ายเพียงฟกช้ำเท่านั้น ยังไม่ถึงเกณฑ์บาดเจ็บ จะลงโทษตาม ม.254 ไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1990/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินบาดแผลเพื่อลงโทษอาญา: ความผิดฐานทำร้ายร่างกาย vs. วิวาท และการมิได้ขอลงโทษตามบทบัญญัติที่ต่างกัน
โจทก์บรรยายฟ้องอ้างว่าจำเลยทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันในท้องถนนหลวงถึงบาดเจ็บ ขอให้ลงโทษตาม กฎหมายลักษณะอาญามาตรา 254 เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าบาดแผลที่จำเลยกระทำร้ายคู่วิวาทอีกฝ่ายหนึ่งไม่ถึงบาดเจ็บ เมื่อโจทก์ไม่ได้ขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 335(6) มาด้วยจะลงโทษตามมาตรานี้ไม่ได้ เพราะเป็นความผิดคนละประเภทและบทบัญญัติความผิดก็คนละหมวดหมู่กัน ถือได้ว่าโจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ
รายงานชันสูตรบาดแผลท้ายฟ้องย่อมเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องเมื่อจำเลยรับสารภาพว่าได้กระทำผิดดังฟ้องโจทก์ทุกข้อหา แต่รายงานชันสูตรบาดแผลผู้ถูกทำร้ายเพียงฟกช้ำเท่านั้น ยังไม่ถึงเกณฑ์บาดเจ็บจะลงโทษตาม มาตรา 254 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1864-1865/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องหมิ่นประมาทต้องระบุพฤติการณ์ประกอบ หากฟ้องไม่ชัดเจน ศาลมีอำนาจยกฟ้อง และห้ามฟ้องซ้ำ
การฟ้องว่าจำเลยหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ โดยโจทก์บรรยายฟ้องกล่าวถ้อยคำที่ไม่เป็นคำใส่ความอยู่ในตัว โจทก์จะต้องบรรยายถึงพฤติการณ์ประกอบมาเพื่อให้เห็นว่าเป็นคำใส่ความอย่างไร และความจริงเป็นอย่างใด เมื่อฟ้องไม่บรรยายเช่นนี้ศาลมีอำนาจยกฟ้องโดยถือว่าฟ้องขาดองค์สำคัญแห่งความผิด
เมื่อศาลสั่งยกฟ้องโดยเหตุผลว่าฟ้องของโจทก์ไม่มีมูลความผิด โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาไป จะมาฟ้องใหม่ไม่ได้เพราะไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้ฟ้องคดีกรรมเดียวได้หลายครั้ง
of 188