พบผลลัพธ์ทั้งหมด 198 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3292/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับใช้กฎหมายเฉพาะ (กฎเสนาบดีว่าด้วยที่กุศลสถาน) เหนือกฎหมายทั่วไป (ประมวลกฎหมายอาญา) ในคดีบุกรุกศาลเจ้า
โจทก์ฟ้องจำเลยฐานบุกรุกเข้าไปอยู่อาศัยในศาลาโรงธรรมบ้านขมิ้นตั้งอยู่ที่ดินของกระทรวงมหาดไทย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362, 364,365 ทางพิจารณาได้ความว่าศาลาโรงธรรมบ้านขมิ้นได้ขึ้นทะเบียนเป็นศาลเจ้าไว้แล้ว จึงต้องบังคับตามกฎเสนาบดีว่าด้วยที่กุศลสถานชนิดศาลเจ้าข้อ 22 ซึ่งเป็นกฎหมายเฉพาะ จะลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญาอันเป็นกฎหมายทั่วไปที่ใช้บังคับภายหลังและมิได้บัญญัติยกเลิกกฎเสนาบดีดังกล่าวหาได้ไม่ ทั้งการที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญาดังกล่าวเป็นการอ้างกฎหมายผิดเป็นคนละเรื่อง มิใช่เป็นการอ้างฐานความผิดหรือบทมาตราผิด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคห้า ศาลจะลงโทษจำเลยตามกฎเสนาบดีว่าด้วยที่กุศลสถานชนิดศาลเจ้าข้อ 22 มิได้ เพราะขัดต่อมาตรา 192 วรรคแรก จึงชอบที่จะพิพากษายกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3292/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับใช้กฎหมายเฉพาะ (กฎเสนาบดีว่าด้วยที่กุศลสถาน) เหนือกฎหมายทั่วไป (ประมวลกฎหมายอาญา) ในคดีบุกรุกศาลเจ้า
โจทก์ฟ้องจำเลยฐานบุกรุกเข้าไปอยู่อาศัยในศาลาโรงธรรมบ้านขมิ้นตั้งอยู่ในที่ดินของกระทรวงมหาดไทย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362,364,365 ทางพิจารณาได้ความว่าศาลาโรงธรรมบ้านขมิ้นได้ขึ้นทะเบียนเป็นศาลเจ้าไว้แล้ว จึงต้องบังคับตามเสนาบดีว่าด้วยที่กุศลสถานชนิดศาลเจ้า ข้อ 22 ซึ่งเป็นกฎหมายเฉพาะ จะลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญาอันเป็นกฎหมายทั่วไปที่ใช้บังคับภายหลังและมิได้บัญญัติยกเลิกกฎเสนาบดีดังกล่าวหาได้ไม่ ทั้งการที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญาดังกล่าว เป็นการอ้างกฎหมายผิดเป็นคนละเรื่อง มิใช่เป็นการอ้างฐานความผิดหรือบทมาตราผิด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา192 วรรคห้า ศาลจะลงโทษจำเลยตามกฎเสนาบดีว่าด้วยที่กุศลสถานชนิดศาลเจ้า ข้อ 22 มิได้ เพราะขัดต่อมาตรา 192 วรรคแรก จึงชอบที่จะพิพากษายกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 473/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกเคหสถาน: เหตุอันควรและความเจตนาเพื่อคืนดีกับภรรยาโดยพฤตินัย
จำเลยเข้าไปในบ้านผู้เสียหายโดยบุตรีผู้เสียหายซึ่งเป็นภรรยาโดยพฤตินัยของจำเลยนัดให้ไปพบ ถือได้ว่าเป็นการเข้าไปโดยมีเหตุอันควร และแม้เมื่อผู้เสียหายได้ไล่จำเลยให้ออกไป แต่จำเลยไม่ยอมออกทั้งนี้ เพื่อขอร้องภรรยาจำเลยให้กลับไปอยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยาดังเดิมดังนี้ เห็นได้ว่าจำเลยไม่มีความผิดฐานบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 473/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเข้าไปในบ้านโดยมีเหตุอันควรและการไม่มีเจตนาบุกรุก แม้ผู้เสียหายไล่ให้ออก
จำเลยเข้าไปในบ้านผู้เสียหายโดยบุตรีผู้เสียหายซึ่งเป็นภรรยาโดยพฤตินัยของจำเลยนัดให้ไปพบ ถือได้ว่าเป็นการเข้าไปโดยมีเหตุอันควร และแม้เมื่อผู้เสียหายได้ไล่จำเลยให้ออกไป แต่จำเลยไม่ยอมออก ทั้งนี้ เพื่อขอร้องภรรยาจำเลยให้กลับไปอยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยาดังเดิม ดังนี้ เห็นได้ว่าจำเลยไม่มีความผิดฐานบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 859/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกเคหสถานและการทำร้ายร่างกาย แม้ฟ้องไม่ตรงมาตรา ศาลลงโทษได้ตามบทที่บรรยายฟ้อง
จำเลยมีปืนเข้าไปในห้องนอนผู้เสียหายเวลา 2 น.ขู่ไม่ให้ร้องจำเลยใช้กระบอกไฟฉายตีผู้เสียหายบาดเจ็บ ดังนี้ไม่เป็นการรบกวนการครอบครอง แต่เป็นการเข้าไปในเคหสถานโดยไม่มีเหตุอันควร เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา364,365 แม้ไม่อ้าง มาตรา364 แต่บรรยายข้อเท็จจริงในฟ้องเข้า มาตรา364 ศาลลงโทษตาม มาตรา364, 365 ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา192วรรค 4เป็นกรรมเดียวกับ ม.295 ลงโทษตาม ม.365 ซึ่งเป็นบทหนัก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1905/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวความผิดหลายบท: บุกรุกเพื่อกระทำอนาจาร องค์ประกอบความผิดเชื่อมโยงกัน
จำเลยบุกรุกเข้าไปกระทำอนาจารผู้เสียหายซึ่งนอนอยู่ในมุ้งภายในบ้านของ ล. ผู้เสียหายรู้สึกตัวตื่นขึ้นบัดมือจำเลยแล้วเรียกให้คนช่วย จำเลยจึงหลบหนีไป ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฏหมายหลายบท ไม่ใช่หลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1905/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: บุกรุกเพื่อกระทำอนาจาร – ศาลยืนตามบทพิพากษาเดิม
จำเลยบุกรุกเข้าไปกระทำอนาจารผู้เสียหายซึ่งนอนอยู่ในมุ้งภายในบ้านของ ล.ผู้เสียหายรู้สึกตัวตื่นขึ้นปัดมือจำเลยแล้วเรียกให้คนช่วย จำเลยจึงหลบหนีไป ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ไม่ใช่หลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขต ‘เคหสถาน’ และการพยายามลักทรัพย์: การกระทำภายในพื้นที่เลี้ยงสัตว์ไม่ถือเป็นบุกรุกเคหสถาน
สถานที่เกิดเหตุเป็นคอกสุกรและห้องพักคนงานซึ่งมีรั้วสังกะสีล้อมรอบทุกด้าน. คอกสุกรสร้างขึ้นเป็นวัตถุประสงค์อันสำคัญของผู้เสียหายสำหรับเก็บรักษาสุกรโดยเฉพาะ. ส่วนห้องพักคนงานและห้องแถวเป็นวัตถุประสงค์อันดับรองที่สร้างขึ้นให้คนงานพักอาศัยชั่วคราวเพื่อดูแลสุกร. คอกสุกรแม้จะอยู่ติดกับห้องแถว ก็ไม่ใช่บริเวณของห้องแถวซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนดังกล่าว. คอกสุกรจึงไม่ใช่เคหสถานตามความหมายของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(4). การที่จำเลยเข้าไปยืนอยู่ริมคอกสุกรภายในรั้วสังกะสี จึงไม่มีความผิดฐานบุกรุกเข้าไปในเคหสถานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364. จำเลยได้เตรียมค้อน มีด และเชือกของกลางกลับมาที่เกิดเหตุ ได้ขุดรูใต้รั้วสังกะสีเพื่อทำเป็นช่องทางพาสุกรไป. จำเลยเข้าไปอยู่ภายในรั้วสังกะสี ยืนอยู่ริมคอกสุกรภายในรั้ว ห่างประมาณ 1 เมตร. โดยที่คอกสุกรตามสภาพมิได้ทำไว้กันขโมย แต่ทำไว้เพื่อมิให้สุกรออกไป. จำเลยพร้อมที่จะลักเอาสุกรตัวใดตัวหนึ่งได้โดยสะดวกโดยใช้เครื่องมือดังกล่าวมัดหรือฆ่า แล้วพาไปทางรูใต้สังกะสีที่ขุดไว้. การกระทำของจำเลยถือว่าเข้าขั้นลงมือกระทำความผิด เป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์แล้ว.แต่ไม่ผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา335(8).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2520 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพยายามลักทรัพย์ในพื้นที่คอกสุกร ไม่ถือเป็นเคหสถานตามกฎหมาย
สถานที่เกิดเหตุเป็นคอกสุกรและห้องพักคนงานซึ่งมีรั้วสังกะสีล้อมทุกด้าน คอกสุกรสร้างขึ้นเป็นวัตถุประสงค์อันสำคัญของผู้เสียหายสำหรับเก็บรักษาสุกรโดยเฉพาะ ส่วนที่ห้องพักคนงานและฟ้องแถวเป็นวัตถุประสงค์อันดับรองที่สร้างขึ้นให้คนงานพักอาศัยชั่วคราวเพื่อดูแลสุกร คอกสุกรแม้จะติดอยู่กับห้องแถว ก็ไม่ใช่บริเวณของห้องแถวซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนดังกล่าว คอกสุกรจึงไม่ใช่เคหสถานตามความหมายของประมวลกฎหมายอาญามาตรา 1(4) การที่จำเลยเข้าไปยื่นอยู่ริมคอกสุกรภายในรั้วสังกะสี จึงไม่มีความผิดฐานบุกรุกเข้าไปในเคหสถานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364
จำเลยได้เตรียมค้อน มีด และเชือกของกลางกลับมาที่เกิดเหตุ ได้ขุดรูใต้รั้วสังกะสีเพื่อทำเป็นช่องทางพาสุกรไป จำเลยเข้าไปอยู่ภายในรั้วสังกะสี ยืนอยู่ริมคอกสุกรภายในรั้ว ห่างประมาณ 1 เมตร โดยที่คอกสุกรตามสภาพมิได้ทำไว้กันขโมย แต่ทำไว้เพื่อมิให้สุกรออกไป จำเลยพร้อมที่จะลักเอาสุกรตัวใดตัวหนึ่งได้โดยสะดวกโดยใช้เครื่องมือดังกล่าวมัดหรือฆ่า แล้วพาไปทางรูใต้สังกะสีที่ขุดไว้ การกระทำของจำเลยถือว่าเข้าขั้นลงมือกระทำความผิด เป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์แล้ว แต่ไม่ผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถานตามประมวลกฎหมาย มาตรา 335 (8)
จำเลยได้เตรียมค้อน มีด และเชือกของกลางกลับมาที่เกิดเหตุ ได้ขุดรูใต้รั้วสังกะสีเพื่อทำเป็นช่องทางพาสุกรไป จำเลยเข้าไปอยู่ภายในรั้วสังกะสี ยืนอยู่ริมคอกสุกรภายในรั้ว ห่างประมาณ 1 เมตร โดยที่คอกสุกรตามสภาพมิได้ทำไว้กันขโมย แต่ทำไว้เพื่อมิให้สุกรออกไป จำเลยพร้อมที่จะลักเอาสุกรตัวใดตัวหนึ่งได้โดยสะดวกโดยใช้เครื่องมือดังกล่าวมัดหรือฆ่า แล้วพาไปทางรูใต้สังกะสีที่ขุดไว้ การกระทำของจำเลยถือว่าเข้าขั้นลงมือกระทำความผิด เป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์แล้ว แต่ไม่ผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถานตามประมวลกฎหมาย มาตรา 335 (8)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขต 'เคหสถาน' และการพยายามลักทรัพย์ในสถานที่เลี้ยงสัตว์
สถานที่เกิดเหตุเป็นคอกสุกรและห้องพักคนงานซึ่งมีรั้วสังกะสีล้อมรอบทุกด้านคอกสุกรสร้างขึ้นเป็นวัตถุประสงค์อันสำคัญของผู้เสียหายสำหรับเก็บรักษาสุกรโดยเฉพาะส่วนห้องพักคนงานและห้องแถวเป็นวัตถุประสงค์อันดับรองที่สร้างขึ้นให้คนงานพักอาศัยชั่วคราวเพื่อดูแลสุกร คอกสุกรแม้จะอยู่ติดกับห้องแถว ก็ไม่ใช่บริเวณของห้องแถวซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนดังกล่าว คอกสุกรจึงไม่ใช่เคหสถานตามความหมายของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(4) การที่จำเลยเข้าไปยืนอยู่ริมคอกสุกรภายในรั้วสังกะสี จึงไม่มีความผิดฐานบุกรุกเข้าไปในเคหสถานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364
จำเลยได้เตรียมค้อน มีด และเชือกของกลางกลับมาที่เกิดเหตุ ได้ขุดรูใต้รั้วสังกะสีเพื่อทำเป็นช่องทางพาสุกรไป จำเลยเข้าไปอยู่ภายในรั้วสังกะสี ยืนอยู่ริมคอกสุกรภายในรั้ว ห่างประมาณ 1 เมตร โดยที่คอกสุกรตามสภาพมิได้ทำไว้กันขโมย แต่ทำไว้เพื่อมิให้สุกรออกไป จำเลยพร้อมที่จะลักเอาสุกรตัวใดตัวหนึ่งได้โดยสะดวกโดยใช้เครื่องมือดังกล่าวมัดหรือฆ่า แล้วพาไปทางรูใต้สังกะสีที่ขุดไว้ การกระทำของจำเลยถือว่าเข้าขั้นลงมือกระทำความผิด เป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์แล้วแต่ไม่ผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(8)
จำเลยได้เตรียมค้อน มีด และเชือกของกลางกลับมาที่เกิดเหตุ ได้ขุดรูใต้รั้วสังกะสีเพื่อทำเป็นช่องทางพาสุกรไป จำเลยเข้าไปอยู่ภายในรั้วสังกะสี ยืนอยู่ริมคอกสุกรภายในรั้ว ห่างประมาณ 1 เมตร โดยที่คอกสุกรตามสภาพมิได้ทำไว้กันขโมย แต่ทำไว้เพื่อมิให้สุกรออกไป จำเลยพร้อมที่จะลักเอาสุกรตัวใดตัวหนึ่งได้โดยสะดวกโดยใช้เครื่องมือดังกล่าวมัดหรือฆ่า แล้วพาไปทางรูใต้สังกะสีที่ขุดไว้ การกระทำของจำเลยถือว่าเข้าขั้นลงมือกระทำความผิด เป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์แล้วแต่ไม่ผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(8)