พบผลลัพธ์ทั้งหมด 300 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2075/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกเคหสถาน: เหตุอันสมควรในการติดตามภริยา ไม่เป็นการรบกวนการครอบครอง
การที่จำเลยเข้าไปในตึกที่เกิดเหตุเพื่อไปติดตามภริยาที่เช่าห้องหนึ่งในตึกนั้น ย่อมมีเหตุอันสมควรและหาเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์โดยปกติสูขของผู้เสียหายไม่ จำเลยไม่มีความผิดฐานบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2075/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์เพื่อติดตามภริยา ไม่ถือเป็นการบุกรุก หากมีเหตุอันสมควรและไม่รบกวนการครอบครอง
การที่จำเลยเข้าไปในตึกที่เกิดเหตุเพื่อไปติดตามภริยาที่เช่าห้องหนึ่งในตึกนั้นย่อมมีเหตุอันสมควรและหาเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์โดยปกติสูขของผู้เสียหายไม่จำเลยไม่มีความผิดฐานบุกรุก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2041/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกที่ผู้เสียหายไม่ต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์: การเข้าไปโดยมีเหตุอันสมควรและการโต้เถียงต่อเนื่อง
ผู้เสียหายในความผิดฐานบุกรุกไม่จำต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ จ. อยู่ในบ้านซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินของจำเลยย่อมมีส่วนครอบครองบ้านดังกล่าวจึงเป็นผู้เสียหายและมีสิทธิห้ามจำเลยเข้าไปหรืออยู่ในบ้านนั้นได้ จำเลยกับผู้เสียหายมีเรื่องผิดใจกัน ผู้ใหญ่บ้านเรียกจำเลยเข้าไปในบริเวณบ้านของผู้เสียหายเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ย การที่จำเลยเข้าไปในบริเวณบ้านของผู้เสียหายจึงเป็นการเข้าไปโดยมีเหตุอันสมควร เมื่อการเจรจาไกล่เกลี่ยตกลงกันไม่ได้และเกิดโต้เถียงกัน ผู้เสียหายให้จำเลยออกไป จำเลยยังไม่ยอมออกแต่กลับจะทำร้ายผู้เสียหาย เช่นนี้ การที่จำเลยยังอยู่ที่บริเวณใต้ถุนบ้านของผู้เสียหายภายหลังที่ผู้เสียหายให้จำเลยออกไปเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกับการที่จำเลยโต้เถียงและจะทำร้ายผู้เสียหาย เมื่อมีผู้อื่นมากันและรั้งจำเลยให้ออกไป จำเลยก็ยอมออกไป การกระทำของจำเลยยังไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 364, 365
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2041/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ผู้ครอบครองมีสิทธิห้าม การเข้าไปเพื่อเจรจาไม่ถือเป็นความผิด
ผู้เสียหายในความผิดฐานบุกรุกไม่จำต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์จ.อยู่ในบ้านซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินของจำเลยย่อมมีส่วนครอบครองบ้านดังกล่าวจึงเป็นผู้เสียหายและมีสิทธิห้ามจำเลยเข้าไปหรืออยู่ในบ้านนั้นได้จำเลยกับผู้เสียหายมีเรื่องผิดใจกันผู้ใหญ่บ้านเรียกจำเลยเข้าไปในบริเวณบ้านของผู้เสียหายเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยการที่จำเลยเข้าไปในบริเวณบ้านของผู้เสียหายจึงเป็นการเข้าไปโดยมีเหตุอันสมควรเมื่อการเจรจาไกล่เกลี่ยตกลงกันไม่ได้และเกิดโต้เถียงกันผู้เสียหายให้จำเลยออกไปจำเลยยังไม่ยอมออกแต่กลับจะทำร้ายผู้เสียหายเช่นนี้การที่จำเลยยังอยู่ที่บริเวณใต้ถุนบ้านของผู้เสียหายภายหลังที่ผู้เสียหายให้จำเลยออกไปเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกับการที่จำเลยโต้เถียงและจะทำร้ายผู้เสียหายเมื่อมีผู้อื่นมากันและรั้งจำเลยให้ออกไปจำเลยก็ยอมออกไปการกระทำของจำเลยยังไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา364,365
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1699/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกเคหสถานและการพยายามฆ่าเพื่อขัดขวางการถูกขัดขวางเอาทรัพย์คืน แม้มีเหตุผลในการเข้าไป แต่การกระทำต้องไม่เป็นอันตราย
แม้จำเลยจะได้จำนำรถจักรยานของจำเลยไว้กับผู้เสียหายจำเลยก็ไม่มีเหตุอันสมควรที่จะลักลอบเข้าไปเอารถจักรยานดังกล่าวในบ้านของผู้เสียหายในเวลา 5.30 น. จำเลยจึงมีความผิดฐานบุกรุก
จำเลยเข้าไปในบ้านของผู้เสียหายเพื่อเอารถจักรยานของจำเลย เมื่อผู้เสียหายส่องไฟฉายมาที่จำเลย จำเลยก็ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายแล้วจึงเอารถจักรยานไป พฤติการณ์ดังกล่าวยังไม่แน่ชัดว่าจำเลยกระทำไปเพื่อปกปิดความผิดฐานบุกรุก จำเลยอาจยิงผู้เสียหายเพื่อไม่ให้ผู้เสียหายขัดขวางการเข้าไปเอารถจักรยานของจำเลยในบ้านผู้เสียหายก็ได้ แต่โจทก์มิได้บรรยายฟ้องถึงความผิดในส่วนนี้ของจำเลย จึงลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 ประกอบกับมาตรา 80 ไม่ได้
จำเลยเข้าไปในบ้านของผู้เสียหายเพื่อเอารถจักรยานของจำเลย เมื่อผู้เสียหายส่องไฟฉายมาที่จำเลย จำเลยก็ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายแล้วจึงเอารถจักรยานไป พฤติการณ์ดังกล่าวยังไม่แน่ชัดว่าจำเลยกระทำไปเพื่อปกปิดความผิดฐานบุกรุก จำเลยอาจยิงผู้เสียหายเพื่อไม่ให้ผู้เสียหายขัดขวางการเข้าไปเอารถจักรยานของจำเลยในบ้านผู้เสียหายก็ได้ แต่โจทก์มิได้บรรยายฟ้องถึงความผิดในส่วนนี้ของจำเลย จึงลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 ประกอบกับมาตรา 80 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1193/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท-ระงับคดี: การกระทำอนาจารถึงที่สุดแล้วห้ามฟ้องคดีบุกรุกซ้ำซ้อน
จำเลยบุกรุกที่เกิดเหตุในเวลาเดียวกับกระทำอนาจารการกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทดังนี้เมื่อมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในข้อหากระทำอนาจารซึ่งจำเลยถูกฟ้องแล้วสิทธินำคดีอาญามาฟ้องจำเลยในข้อหาบุกรุกก็เป็นอันระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา39(4) ในคดีก่อนพนักงานอัยการซึ่งเป็นโจทก์บรรยายฟ้องไว้และจำเลยให้การรับสารภาพศาลรับฟังข้อเท็จจริงเป็นยุติว่าในวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุเดียวกันกับคดีนี้จำเลยกระทำอนาจารนางสาวสำอางค์โดยใช้กำลังประทุษร้ายกอดรัดตัวนางสาวสำอางค์และใช้กรรไกรจี้บังคับและแทงเฉี่ยวบริเวณหน้าอกของนางสาวสำอางค์ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยทั้งนี้เพื่อให้นางสาวสำอางค์ยอมให้จำเลยกระทำชำเราศาลพิพากษาลงโทษจำเลยฐานกระทำอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา278คดีถึงที่สุดแล้วโจทก์มาฟ้องจำเลยข้อหาพยายามฆ่าโดยใช้กรรไกรแทงนางสาวสำอางค์เป็นคดีนี้จึงเป็นการกระทำครั้งคราวเดียวกันและเป็นกรรมเดียวกันซึ่งจะต้องฟ้องเป็นคดีเดียวดังนี้ฟ้องของโจทก์จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา39(4).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1193/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท-ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39(4) คดีถึงที่สุดแล้ว สิทธิฟ้องระงับ
จำเลยบุกรุกที่เกิดเหตุในเวลาเดียวกับกระทำอนาจารการกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ดังนี้เมื่อมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในข้อหากระทำอนาจารซึ่งจำเลยถูกฟ้องแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องจำเลยในข้อหาบุกรุกก็เป็นอันระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (4)
ในคดีก่อนพนักงานอัยการซึ่งเป็นโจทก์บรรยายฟ้องไว้และจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลรับฟังข้อเท็จจริงเป็นยุติว่า ในวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุเดียวกันกับคดีนี้ จำเลยกระทำอนาจารนางสาวสำอางค์ โดยใช้กำลังประทุษร้ายกอดรัดตัวนางสาวสำอางค์และใช้กรรไกรจี้บังคับ และแทงเฉี่ยวบริเวณหน้าอกของนางสาวสำอางค์ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ทั้งนี้เพื่อให้นางสาวสำอางค์ยอมให้จำเลยกระทำชำเรา ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยฐานกระทำอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์มาฟ้องจำเลยข้อหาพยายามฆ่าโดยใช้กรรไกรแทงนางสาวสำอางค์เป็นคดีนี้ จึงเป็นการกระทำครั้งคราวเดียวกันและเป็นกรรมเดียวกัน ซึ่งจะต้องฟ้องเป็นคดีเดียวดังนี้ฟ้องของโจทก์จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (4)
ในคดีก่อนพนักงานอัยการซึ่งเป็นโจทก์บรรยายฟ้องไว้และจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลรับฟังข้อเท็จจริงเป็นยุติว่า ในวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุเดียวกันกับคดีนี้ จำเลยกระทำอนาจารนางสาวสำอางค์ โดยใช้กำลังประทุษร้ายกอดรัดตัวนางสาวสำอางค์และใช้กรรไกรจี้บังคับ และแทงเฉี่ยวบริเวณหน้าอกของนางสาวสำอางค์ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ทั้งนี้เพื่อให้นางสาวสำอางค์ยอมให้จำเลยกระทำชำเรา ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยฐานกระทำอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์มาฟ้องจำเลยข้อหาพยายามฆ่าโดยใช้กรรไกรแทงนางสาวสำอางค์เป็นคดีนี้ จึงเป็นการกระทำครั้งคราวเดียวกันและเป็นกรรมเดียวกัน ซึ่งจะต้องฟ้องเป็นคดีเดียวดังนี้ฟ้องของโจทก์จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 951/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเข้าไปในบ้านโดยได้รับเชิญ ไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก แม้ผู้เชิญจะเป็นเพียงผู้อาศัย
จำเลยได้มาหาจ. ซึ่งอยู่ที่บ้านผู้เสียหายตอนหัวค่ำเพื่อพูดขอยืมเงินแต่จ. บอกให้จำเลยกลับไปก่อนค่อยมาตอนดึกๆการที่จำเลยเข้าไปในบ้านผู้เสียหายตามเวลานัดจึงไม่ใช่เป็นการเข้าไปบ้านผู้เสียหายโดยไม่ได้รับอนุญาตไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 326/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินปฏิรูปที่ดิน: ผู้ได้รับจัดสรรยังไม่ได้ครอบครอง การทำประโยชน์เดิมไม่ถือเป็นการรบกวน
ช.ได้รับจัดสรรที่ดินพิพาทจากสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดฯแต่ยังไม่ได้เข้าครอบครองทำประโยชน์จึงยังไม่ได้สิทธิครอบครองการที่จำเลยเข้าไปครอบครองที่ดินพิพาทย่อมไม่เป็นการขัดขวางรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์โดยปกติสุขของช..
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4473/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน แม้ภริยาอนุญาต แต่ผู้เสียหายมีสิทธิหวงห้ามได้ หากจำเลยมีเจตนาชู้สาว
จำเลยมีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับภริยาผู้เสียหาย ก่อนเกิดเหตุจำเลยเคยเข้าไปนอนกับภริยาผู้เสียหายในบ้านผู้เสียหาย และผู้เสียหายแจ้งความแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้เรียกตัวจำเลยมาตักเตือนให้เลิกเกี่ยวข้องกับภริยาผู้เสียหายและไม่ให้เข้าไปในบ้านผู้เสียหายอีก ซึ่งจำเลยก็ยอมรับที่จะปฏิบัติตาม โดยมีการลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจถึงสองครั้ง การที่จำเลยเข้าไปในบ้านผู้เสียหายในเวลากลางคืน โดยมีเจตนาในทางชู้สาวกับภริยาผู้เสียหายอีก ถือได้ว่าจำเลยเข้าไปในบ้านผู้เสียหายโดยไม่มีเหตุอันสมควรจึงมีความผิดฐานบุกรุก
เมื่อการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 365(3) อันเป็นบทเฉพาะแล้ว ก็ไม่จำต้องยกมาตรา 364 ซึ่งเป็นบททั่วไปขึ้นปรับบทลงโทษอีก
เมื่อการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 365(3) อันเป็นบทเฉพาะแล้ว ก็ไม่จำต้องยกมาตรา 364 ซึ่งเป็นบททั่วไปขึ้นปรับบทลงโทษอีก