คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 267

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 167 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1671/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การช่วยเหลือผู้ถูกจับกุม: มาตรา 189 อาญา ไม่ครอบคลุมการกระทำหลังการจับกุม
ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 บัญญัติถึงการกระทำเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำผิด ไม่ให้ต้องรับโทษหรือไม่ให้ถูกจับกุม เมื่อข้อเท็จจริงฟังว่าผู้ที่จำเลยได้ช่วยเหลือ ได้ถูกจับกุมในข้อหานั้นไปก่อนแล้ว การกระทำของจำเลยจึงไม่ต้องด้วยความผิดตามมาตรานี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1671/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การช่วยเหลือผู้ถูกจับกุม: การกระทำไม่ครบองค์ประกอบความผิดตาม ม.189
ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 บัญญัติถึงการกระทำเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด ไม่ให้ต้องรับโทษหรือไม่ให้ถูกจับกุม. เมื่อข้อเท็จจริงฟังว่าผู้ที่จำเลยได้ช่วยเหลือได้ถูกจับกุมในข้อหานั้นไปก่อนแล้ว การกระทำของจำเลยจึงไม่ต้องด้วยความผิดตามมาตรานี้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 408/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ (มาตรา 157) และความผิดฐานสนับสนุนการกระทำผิด
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 เป็นบทบัญญัติลงโทษเจ้าพนักงานที่ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต เกี่ยวกับการมีหน้าที่เป็นผู้ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด ๆ โดยเฉพาะ การที่แบบพิมพ์ใบสุทธิอยู่ในความดูแลรักษาของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นครูใหญ่ ก็เพียงเพื่อออกเป็นใบสุทธิให้แก่นักเรียนที่ออกไปจากโรงเรียนซึ่งจำเลยมีอำนาจหน้าที่ในการออกใบสุทธินี้ตามระเบียบ ถ้าจำเลยนำไปใช้ในทางที่ไม่ตรงต่อความจริงและผิดระเบียบ ก็เป็นเรื่องผิดหน้าที่ในการใช้ ถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำทุจริตต่อหน้าที่ในการรักษาตามความมุ่งหมายของมาตรานี้
เมื่อคดีได้ความว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าพนักงานออกใบสุทธิในหน้าที่โดยจดเปลี่ยนแปลงข้อความไม่ตรงต่อความจริงและผิดระเบียบ เพื่อให้จำเลยที่ 3 นำไปแสดงต่อผู้บังคับบัญชาในการขอบำเหน็จความชอบนั้น ก็ได้ชื่อว่าจำเลยที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหาย ครบองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
แม้จำเลยที่ 3 จะไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ในการนี้ เมื่อได้ร่วมกับเจ้าพนักงานในการกระทำความผิด ก็ย่อมมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำผิดด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 408/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ-สนับสนุนการกระทำผิด กรณีออกใบสุทธิเท็จเพื่อเอื้อประโยชน์
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 เป็นบทบัญญัติลงโทษเจ้าพนักงานที่ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต เกี่ยวกับการมีหน้าที่เป็นผู้ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ โดยเฉพาะการที่แบบพิมพ์ใบสุทธิอยู่ในความดูแลรักษาของจำเลยที่1 ซึ่งเป็นครูใหญ่ ก็เพียงเพื่อออกเป็นใบสุทธิให้แก่นักเรียนที่ออกไปจากโรงเรียนซึ่งจำเลยมีอำนาจหน้าที่ในการออกใบสุทธินี้ตามระเบียบถ้าจำเลยนำไปใช้ในทางที่ไม่ตรงต่อความจริงและผิดระเบียบ ก็เป็นเรื่องผิดหน้าที่ในการใช้ ถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำทุจริตต่อหน้าที่ในการรักษาตามความมุ่งหมายของมาตรานี้
เมื่อคดีได้ความว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าพนักงานออกใบสุทธิในหน้าที่โดยจดเปลี่ยนแปลงข้อความไม่ตรงต่อความจริงและผิดระเบียบเพื่อให้จำเลยที่ 3 นำไปแสดงต่อผู้บังคับบัญชาในการขอบำเหน็จความชอบนั้น ก็ได้ชื่อว่าจำเลยที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหาย ครบองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
แม้จำเลยที่ 3 จะไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ในการนี้เมื่อได้ร่วมกับเจ้าพนักงานในการกระทำความผิด ก็ย่อมมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำผิดด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 407/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและสนับสนุนการกระทำผิด เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อราชการ
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 เป็นบทบัญญัติลงโทษเจ้าพนักงานที่ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตเกี่ยวกับการมีหน้าที่เป็นผู้ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ โดยเฉพาะการที่แบบพิมพ์ใบสุทธิอยู่ในความดูแลรักษาของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นครูใหญ่ ก็เพียงเพื่อออกเป็นใบสุทธิให้แก่นักเรียนที่ออกไปจากโรงเรียนซึ่งจำเลยมีอำนาจหน้าที่ในการออกใบสุทธินี้ตามระเบียบ ถ้าจำเลยนำไปใช้ในทางที่ไม่ตรงต่อความจริงและผิดระเบียบ ก็เป็นเรื่องผิดหน้าที่ในการใช้ ถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำทุจริตต่อหน้าที่ในการรักษาตามความมุ่งหมายของมาตรานี้
เมื่อคดีได้ความว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าพนักงานออกใบสุทธิในหน้าที่โดยจดเปลี่ยนแปลงข้อความ ไม่ตรงต่อความจริงและผิดระเบียบเพื่อให้จำเลยที่ 3 นำไปแสดงต่อผู้บังคับบัญชาในการขอบำเหน็จความชอบนั้น ก็ได้ชื่อว่าจำเลยที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหาย ครบองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
แม้จำเลยที่ 3 จะไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ในการนี้ เมื่อได้ร่วมกับเจ้าพนักงานในการกระทำความผิดก็ย่อมมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำผิดด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 407/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และสนับสนุนการกระทำความผิด กรณีออกใบสุทธิเท็จ
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 เป็นบทบัญญัติลงโทษเจ้าพนักงานที่ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตเกี่ยวกับการมีหน้าที่เป็นผู้ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด ๆ โดยเฉพาะ การที่แบบพิมพ์ใบสุทธิอยู่ในความดูแลรักษาของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นครูใหญ่ ก็เพียงเพื่อออกเป็นใบสุทธิให้แก่นักเรียนที่ออกไปจากโรงเรียนซึ่งจำเลยมีอำนาจหน้าที่ในการออกใบสุทธินี้ตามระเบียบ ถ้าจำเลยนำไปใช้ในทางที่ไม่ตรงต่อความจริงและผิดระเบียบ ก็เป็นเรื่องผิดหน้าที่ในการใช้ ถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำทุจริตต่อหน้าที่ในการรักษาตามความมุ่งหมายของมาตรานี้
เมื่อคดีได้ความว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าพนักงานออกใบสุทธิในหน้าที่โดยจดเปลี่ยนแปลงข้อความ ไม่ตรงต่อความจริงและผิดระเบียบเพื่อให้จำเลยที่ 3 นำไปแสดงต่อผู้บังคับบัญชาในการขอบำเหน็จความชอบนั้น ก็ได้ชื่อว่าจำเลยที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหาย ครบองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
แม้จำเลยที่ 3 จะไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ในการนี้ เมื่อได้ร่วมกับเจ้าพนักงานในการกระทำความผิด ก็ย่อมมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำผิดด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 986-987/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องกล่าวหาความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารและเบิกความเท็จ ศาลพิจารณาบทฟ้องและข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ฟัง
การบรรยายฟ้องว่า จำเลยเบิกความเท็จต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรีนั้น ไม่ใช่ข้อกล่าวหาว่าจำเลยแจ้งความเท็จแก่เจ้าพนักงาน และแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จตามมาตรา 137,267
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 180 แต่ให้ลงโทษกระทงหนักสำนวนละ 2 ปี มิได้กำหนดโทษตามมาตรา180 ไว้เท่าใด โดยเฉพาะกระทงความผิดตามมาตรา 180 นี้ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน มิได้แก้บท และลงโทษจำคุกเพียง 1 ปี เป็นการแก้ไข จำเลยจะฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงเฉพาะกระทำความผิดตามมาตรา 180 นี้ไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองสมคบกันปลอมสัญญากู้และจำเลยทั้งสองได้ใช้กลฉ้อฉลทำสัญญาประนีประนอมยอมความตามสัญญากู้ด้วยการสมคบกัน เช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าได้ฟ้องกล่าวหาถึงจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180 ด้วย และเมื่อศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาว่า จำเลยได้ร่วมกระทำในการนำสัญญากู้ซึ่งเป็นเอกสารเท็จมาแสดงเป็นพยานหลักฐานในคดี ฉะนั้น ใครจะเป็นผู้นำสัญญากู้มายื่นจึงไม่ใช่ข้อสำคัญที่จำเลยจะอ้างขึ้นเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิดตามมาตรา 180 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 561/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความผิดเบิกความเท็จ ปลอมเอกสาร และการตีความอัตราโทษจำคุกขั้นต่ำในประมวลกฎหมายอาญา
คำว่า ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 181(1) นี้ หมายถึงว่า อัตราโทษชั้นต่ำของความผิดนั้น จะต้องมีระวางโทษจำคุก 3 ปี เป็นอย่างน้อยที่สุด
การเบิกความเท็จในการพิจารณาคดีอาญาไม่ใช่เรื่องแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความ แต่เป็นเรื่องเบิกความซึ่งศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจจดข้อความตอนใดหรือไม่จดก็ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ การจดจึงเป็นเรื่องของศาล ไม่ใช่เรื่องของพยานที่จะแจ้งให้ศาลจดข้อความอันเป็นเท็จ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 267
จำเลยไม่ใช่นายช่วง แต่มาอ้างต่อศาลว่าเป็นนายช่วง และข้อเท็จจริงที่จำเลยเบิกความว่าได้รู้เห็นเหตุการณ์ จำเลยก็มิได้รู้เห็นจริง กับจำเลยได้ลงนามปลอมว่า นายช่วง ในคำเบิกความที่ศาลจดไว้อีกด้วย ความผิดฐานเบิกความเท็จสำเร็จได้โดยไม่ต้องอาศัยการลงนามปลอม การลงนามปลอมของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 264 อีกด้วย แต่จำเลยหามีความผิดฐานปลอมเอกสารราชการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 อีกมาตราหนึ่งไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 561/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จ-ปลอมเอกสาร: ศาลฎีกาชี้ขาดองค์ประกอบความผิดและบทลงโทษ
คำว่า ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 181(1) นี้หมายถึงว่าอัตราโทษขั้นต่ำของความผิดนั้นจะต้องมีระวางโทษจำคุก 3 ปีเป็นอย่างน้อยที่สุด
การเบิกความเท็จในการพิจารณาคดีอาญา ไม่ใช่เรื่องแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความแต่เป็นเรื่องเบิกความซึ่งศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจจดข้อความตอนใดหรือไม่จดก็ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความการจดจึงเป็นเรื่องของศาล ไม่ใช่เรื่องของพยานที่จะแจ้งให้ศาลจดข้อความอันเป็นเท็จ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา267
จำเลยไม่ใช่นายช่วง แต่มาอ้างต่อศาลว่าเป็นนายช่วงและข้อเท็จจริงที่จำเลยเบิกความว่าได้รู้เห็นเหตุการณ์จำเลยก็มิได้รู้เห็นจริง กับจำเลยได้ลงนามปลอมว่า นายช่วง ในคำเบิกความที่ศาลจดไว้อีกด้วยความผิดฐานเบิกความเท็จสำเร็จได้โดยไม่ต้องอาศัยการลงนามปลอมการลงนามปลอมของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 อีกด้วยแต่จำเลยหามีความผิดฐานปลอมเอกสารราชการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 อีกมาตราหนึ่งไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 44/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความเท็จต่อศาลและการแจ้งข้อมูลเท็จต่อเจ้าพนักงานที่ดิน ไม่ถือว่ากระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 267
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2500 ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกระทำผิดในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2500 ถือว่าเป็นการแตกต่างในข้อสารสำคัญเท่ากับจำเลยไม่ได้กระทำผิดตามวันที่โจทก์ฟ้อง ต้องยกฟ้อง จำเลยจะหลงข้อต่อสู้หรือไม่ ไม่สำคัญ
จำเลยเบิกความเท็จ และนำสืบแสดงหลักฐานเท็จต่อศาลในคดีแพ่ง ว่าก่อนตายผู้ตายไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ โดยจำเลยรู้ดีอยู่แล้วว่าผู้ตายได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้โจทก์และจำเลย ศาลหลงเชื่อจึงสั่งให้ตั้งให้จำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย แล้วจำเลยได้นำสำเนาคำสั่งศาลนั้นไปแสดงต่อเจ้าพนักงานที่ดิน ๆ ก็บันทึกข้อความคำสั่งศาลไว้ว่าเป็นมรดกไม่มีพินัยกรรม และโอนโฉนดใส่ชื่อจำเลยในฐานะเป็นผู้จัดการมรดก ดังนี้ จะถือว่าจำเลยแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 267 ไม่ได้
of 17