พบผลลัพธ์ทั้งหมด 569 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 658/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้เอกสารปลอมที่มีลายเซ็นชื่อผู้อื่น แม้ผู้เสียหายยินยอม ก็ยังถือเป็นเอกสารปลอม แต่ความเสียหายขึ้นอยู่กับผลกระทบต่อศาล
ผู้เสียหายได้รู้เห็นยินยอมให้ผู้อื่นเซ็นชื่อแทนในใบแต่งทนายเมื่อมีผู้นำใบแต่งทนายนั้นไปให้ทนายทำคำร้องยื่นต่อศาลความเสียหายที่จะมีแก่ผู้เสียหายจึงไม่มีผู้เสียหายจึงไม่เป็นผู้เสียหายตามกฎหมาย
เมื่อจำเลยนำคำร้องที่มีลายเซ็นชื่อผู้เสียหายปลอมโดยให้ผู้อื่นเซ็นชื่อแทนมายื่นต่อศาล ย่อมจะเห็นได้ว่าน่าจะเสียหายแก่ศาลในการรับคำร้องนั้นไว้พิจารณา จำเลยจึงมีความผิดฐานใช้เอกสารปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ประกอบด้วยมาตรา 264
เมื่อจำเลยนำคำร้องที่มีลายเซ็นชื่อผู้เสียหายปลอมโดยให้ผู้อื่นเซ็นชื่อแทนมายื่นต่อศาล ย่อมจะเห็นได้ว่าน่าจะเสียหายแก่ศาลในการรับคำร้องนั้นไว้พิจารณา จำเลยจึงมีความผิดฐานใช้เอกสารปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ประกอบด้วยมาตรา 264
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1407/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้พินัยกรรมปลอมเพื่อขอรับมรดก แม้จะถอนคำขอไปแล้ว ก็เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายได้ตามกฎหมายอาญา
นำพินัยกรรมปลอมไปแสดงต่อพนักงานที่ดินอำเภอเพื่อขอรับมรดกและอำเภอได้ประกาศการขอรับมรดกแล้ว แม้ต่อมาจะได้ขอถอนคำขอรับมรดกนั้นเสีย การนำพินัยกรรมปลอมไปแสดงเช่นนั้นก็เป็นการกระทำอันเป็นเหตุที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นแล้ว จึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1407/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้พินัยกรรมปลอมขอรับมรดก แม้ถอนคำขอแล้ว ก็เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268
นำพินัยกรรมปลอมไปแสดงต่อพนักงานที่ดินอำเภอเพื่อขอรับมรดกและอำเภอได้ประกาศการขอรับมรดกแล้ว แม้ต่อมาจะได้ขอถอนคำขอรับมรดกนั้นเสีย การนำพินัยกรรมปลอมไปแสดงเช่นนั้นก็เป็นการกระทำอันเป็นเหตุที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นแล้ว จึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้เอกสารปลอม: ประเด็นสำคัญอยู่ที่จำเลยรู้หรือไม่ว่าเอกสารเป็นปลอม วันเวลาใช้ไม่ใช่สาระสำคัญ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ใช้ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวโดยรู้ว่าเป็นเอกสารปลอม จำเลยรับว่าได้นำไปใช้จริง แต่ไม่รู้ว่าเป็นเอกสารปลอม สารสำคัญของคำฟ้องจึงอยู่ที่ว่า จำเลยรู้หรือไม่ว่าเอกสารนั้นเป็นเอกสารปลอม ส่วนวันเวลาที่จำเลยนำไปใช้ไม่ใช่ข้อสารสำคัญ แม้วันเวลากระทำความผิดตามที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างกับที่กล่าวในฟ้องแต่จำเลยไม่ได้หลงต่อสู้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้นำไปใช้จริง ศาลลงโทษจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 ซึ่งแก้ไขโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2499 มาตรา 13
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานใช้เอกสารปลอม ความสำคัญอยู่ที่การรู้ว่าเป็นเอกสารปลอม ไม่ใช่เวลาที่ใช้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ใช้ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวโดยรู้ว่าเป็นเอกสารปลอม จำเลยรับว่าได้นำไปใช้จริง แต่ไม่รู้ว่าเป็นเอกสารปลอมสารสำคัญของคำฟ้องจึงอยู่ที่ว่า จำเลยรู้หรือไม่ว่าเอกสารนั้นเป็นเอกสารปลอม ส่วนวันเวลาที่จำเลยนำไปใช้ไม่ใช่ข้อสารสำคัญ แม้วันเวลากระทำ ความผิดตามที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างกับที่กล่าวในฟ้องแต่จำเลยไม่ได้หลงต่อสู้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้นำไปใช้จริงศาลลงโทษจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192ซึ่งแก้ไขโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา(ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2499 มาตรา 13
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1104/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขสลากการกุศลเพื่อหวังรางวัล ถือเป็นเอกสารปลอมตามกฎหมายอาญา
จำเลยนำเอาสลากการกุศลที่มีการขูดลบแก้ตัวเลขไปขอรับรางวัลโดยรู้ว่าเป็นสลากปลอมจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268, 265
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1104/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สลากปลอมขอรับรางวัล แสดงเจตนาทุจริต แม้ครอบครองสลากก่อนออกรางวัล
จำเลยนำเอาสลากการกุศลที่มีการขูดลบแก้ตัวเลขไปขอรับรางวัลโดยรู้ว่าเป็นสลากปลอมจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268,265
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 879/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารระงับสิทธิ: การปลอมแปลงเอกสารสิทธิเพื่อสละสิทธิในการรับบำเหน็จทดแทน
เอกสารที่จำเลยปลอมและใช้มีข้อความว่า ส.ไม่ได้สมรสตามกฎหมายกับ ฉ. ส.ไม่ขอเกี่ยวข้องคัดค้านหรือขัดข้องประการใดในการที่ทางราชการจะจ่ายเงินบำเหน็จทดแทนของ ฉ. ให้แก่บุตรของ ฉ.นั้น ข้อความดังกล่าวเป็นการทำให้สิทธิของ ส.ที่จะรับบำเหน็จทดแทนในฐานะเป็นสามีโดยชอบด้วยกฎหมายของ ฉ.ต้องระงับไป เอกสารนั้นจึงเป็นหลักฐานแห่งการระงับสิทธิของ ส.จึงเป็นเอกสารสิทธิ ไม่ใช่เอกสารธรรมดา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 879/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารระงับสิทธิ: การปลอมเอกสารเพื่อสละสิทธิรับบำเหน็จทดแทน ถือเป็นเอกสารสิทธิ
เอกสารที่จำเลยปลอมและใช้มีข้อความว่า ส. ไม่ได้สมรสตามกฎหมายกับ ฉ. ส. ไม่ขอเกี่ยวข้องคัดค้านหรือขัดข้องประการใดในการที่ทางราชการจะจ่ายเงินบำเหน็จทดแทนของ ฉ. ให้แก่บุตรของ ฉ. นั้น ข้อความดังกล่าวเป็นการทำให้สิทธิของ ส. ที่จะรับบำเหน็จทดแทนในฐานะเป็นสามีโดยชอบด้วยกฎหมายของ ฉ. ต้องระงับไป เอกสารนั้นจึงเป็นหลักฐานแห่งการระงับสิทธิของ ส. จึงเป็นเอกสารสิทธิ ไม่ใช่เอกสารธรรมดา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1126/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารสิทธิเป็นความผิดกระทงเดียว เมื่อศาลยกฟ้องฐานปลอมเอกสาร ความผิดฐานใช้จึงระงับตามกฎหมาย
ในการพิจารณาคดีแพ่ง จำเลยได้อ้างสัญญากู้ยืมเงินเป็นพยาน โจทก์จึงฟ้องคดีอาญาหาว่าจำเลยปลอมสัญญากู้ยืมดังกล่าวก่อน แล้วต่อมาโจทก์ได้ฟ้องจำเลยฐานใช้และอ้างเอกสารที่หาว่าปลอมนั้นด้วย เช่นนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 และ 268 เห็นได้ชัดว่าในเรื่องมีผู้ทำปลอมเอกสารขึ้นแล้วผู้ทำนำเอกสารปลอมนั้นไปใช้หรืออ้างเองกฎหมายให้ลงโทษในการใช้หรืออ้างเอกสารปลอมแต่อย่างเดียว ถือว่าเป็นความผิดกระทงเดียวเมื่อโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยเพียงทำเอกสารสิทธิปลอมก่อนและฟังไม่ได้ว่าเป็นเอกสารปลอม คดีถึงที่สุดเสร็จเด็ดขาดแล้ว ก็ต้องถือว่าความผิดในข้อหาใช้หรืออ้างเอกสารปลอมคดีถึงที่สุดเสร็จเด็ดขาดไปแล้วด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4) โจทก์จะขอให้ดำเนินคดีและสืบพยานต่อไปหาได้ไม่