พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,298 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 344/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจร้องทุกข์ของผู้เสียหาย: กรณีมอบหมายให้ผู้อื่นลงสัญญา และการเป็นผู้เสียหายหลายคน
บริษัทส่งเสริมอุตสาหกรรมไทยได้จ้างเหมาสำนักงานกลาง บริษัทจังหวัด ให้ขนน้ำตาลที่จังหวัดลำปางส่งโกดังของบริษัท กรรมการผู้จัดการสำนักงานกลาง บริษัทจังหวีด ซึ่งเป็นองค์การค้าสังกัดกระทรวงพาณิชย์ ได้ลงชื่อมอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 ลงชื่อในสัญญาจ้างเหมาในฐานะเป็นคู่สัญญาแทนสำนักงานกลางบริษัทจังหวัด ย่อมเป็นผู้เสียหายด้วยคนหนึ่ง จึงมีอำนาจร้องทุกข์ขอให้เจ้าพนักงานนำคดีขึ้นว่ากล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 344/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจร้องทุกข์ในคดีทุจริต: องค์การค้ามอบอำนาจให้ผู้อื่นทำสัญญา กรรมการผู้จัดการมีสิทธิร้องทุกข์
บริษัทส่งเสริมอุตสาหกรรมไทยได้จ้างเหมาสำนักงานกลางบริษัทจังหวัดให้ขนน้ำตาลที่จังหวัดลำปางมาส่งโกดังของบริษัทกรรมการผู้จัดการสำนักงานกลางบริษัทจังหวัดซึ่งเป็นองค์การค้าสังกัดกระทรวงพาณิชย์ได้ลงชื่อมอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 ลงชื่อในสัญญาจ้างเหมาในฐานะเป็นคู่สัญญาแทน สำนักงานกลางบริษัทจังหวัด และจำเลยที่ 1 ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้อำนวยการขนส่งน้ำตาลรายนี้ เมื่อเกิดมีการทุจริตยักยอกน้ำตาลที่รับจัดการขนส่งขึ้นกรรมการผู้จัดการสำนักงานกลางบริษัทจังหวัด ย่อมเป็นผู้เสียหายด้วยคนหนึ่งจึงมีอำนาจร้องทุกข์ขอให้เจ้าพนักงานนำคดีขึ้นว่ากล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1982/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร้องทุกข์ของผู้เยาว์: ผู้เยาว์อายุ 18 ปี สามารถร้องทุกข์ได้โดยไม่ต้องมีผู้แทนลงชื่อ
โจทก์ฟ้องจำเลยหาว่ากระทำผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 243 ได้กล่าวยืนยันมาด้วยว่า ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานเอาคดีขึ้นว่า กล่าวแล้ว จำเลยมิได้คัดค้านประการใด คงให้การปฏิเสธว่ามิได้กระทำผิดตามฟ้องเท่านั้น ดังนี้ ปัญหาข้อที่ว่า การร้องทุกข์ถูกต้องตามแบบระเบียบหรือไม่ อันเป็นปัญหาข้อกฎหมายนั้น ไม่มีประเด็นที่คู่ความยกขึ้น กล่าวเลย ศาลจึงไม่จำต้องวินิจฉัยถึง
ผู้เยาว์อายุ 18 ปี ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน โดยไม่ต้องให้ผู้แทนโดยชอบธรรม ลงลายมือชื่อในการร้องทุกข์ด้วย ก็ใช้ได้
(อ้างฎีกาที่ 214/2494)
ผู้เยาว์อายุ 18 ปี ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน โดยไม่ต้องให้ผู้แทนโดยชอบธรรม ลงลายมือชื่อในการร้องทุกข์ด้วย ก็ใช้ได้
(อ้างฎีกาที่ 214/2494)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1982/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร้องทุกข์คดีข่มขืนของผู้เยาว์อายุ 18 ปี ไม่ต้องมีผู้แทนโดยชอบธรรมลงลายมือชื่อ
โจทก์ฟ้องจำเลยหาว่ากระทำผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 243 ได้กล่าวยืนยันมาด้วยว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานเอาคดีขึ้นว่ากล่าวแล้ว จำเลยมิได้คัดค้านประการใด คงให้การปฏิเสธว่ามิได้กระทำผิดตามฟ้องเท่านั้น ดังนี้ ปัญหาข้อที่ว่าการร้องทุกข์ถูกต้องตามแบบระเบียบหรือไม่ อันเป็นปัญหาข้อกฎหมายนั้น ไม่มีประเด็นที่คู่ความยกขึ้นกล่าวเลย ศาลจึงไม่จำต้องวินิจฉัยถึง
ผู้เยาว์อายุ 18 ปี ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน โดยไม่ต้องให้ผู้แทนโดยชอบธรรมลงลายมือชื่อในการร้องทุกข์ด้วยก็ใช้ได้ (อ้างฎีกาที่ 214/2494)
ผู้เยาว์อายุ 18 ปี ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน โดยไม่ต้องให้ผู้แทนโดยชอบธรรมลงลายมือชื่อในการร้องทุกข์ด้วยก็ใช้ได้ (อ้างฎีกาที่ 214/2494)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1938/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยักยอกทรัพย์โดยรับมอบหมายโดยปริยาย: ผู้เสียหายมีสิทธิร้องทุกข์
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยยักยอกทรัพย์ โดยบรรยายฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้เก็บรักษาทรัพย์ของเจ้าทรัพย์ ซึ่งตกจากรถยนต์และถึงแก่ความตาย เพื่อนำไปมอบให้สามีของเจ้าทรัพย์แล้วจำเลยบังอาจมีเจตนาทุจริตเบียดบังเอาทรัพย์ที่เก็บรักษาไว้นั้นเป็นอาณาประโยชน์ของจำเลยเสีย ดังนี้ แม้จะไม่มีคำว่าจำเลยได้รับมอบหมายทรัพย์ ก็พอถือได้ว่าเป็นการรับมอบหมายโดยปริยาย ต้องตามตัวบทในมาตรา 314 แห่งกฎหมายลักษณะอาญาแล้ว และในกรณีเช่นนี้สามีย่อมเป็นผู้เสียหาย มีสิทธิร้องทุกข์ขอให้เจ้าพนักงานนำคดีขึ้นว่ากล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1938/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยักยอกทรัพย์โดยรับมอบหมายโดยปริยาย และสิทธิในการร้องทุกข์ของผู้รับมรดก
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยยักยอกทรัพย์โดยบรรยายฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้รักษาทรัพย์ของเจ้าทรัพย์ ซึ่งตกจากรถยนต์และถึงแก่ความตาย เพื่อนำไปมอบให้สามีของเจ้าทรัพย์แล้วจำเลยบังอาจมีเจตนาทุจริตเบียดบังเอาทรัพย์ที่เก็บรักษาไว้นั้นเป็นอาณาประโยชน์ของจำเลยเสีย ดังนี้ แม้จะไม่มีคำว่าจำเลยได้รับมอบหมายทรัพย์ ก็พอถือได้ว่าเป็นการรับมอบหมายโดยปริยาย ต้องตามตัวบทในมาตรา 314 แห่ง ก.ม.ลักษณะอาญาแล้ว และในกรณีเช่นนี้สามีย่อมเป็นผู้เสียหาย มีสิทธิร้องทุกข์ขอให้เจ้าพนักงานนำคดีขึ้นว่ากล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1907/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์: แผ่นดินเป็นผู้เสียหาย อัยการฟ้องได้และมีอำนาจเรียกคืนทรัพย์
ปลัดอำเภอรับมอบเงินในนามคณะกรมการอำเภอ จากจังหวัดแล้วยักยอกเสียนั้น ย่อมถือว่าแผ่นดินเป็นผู้เสียหายไม่จำเป็นต้องมีการร้องทุกข์ อัยการก็ฟ้องได้
ความผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131 นั้น เป็นความผิดฐานเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ อัยการโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 43
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือนตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131 แต่ให้ยกคำขอที่ขอให้คืนราคาทรัพย์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะให้คืนราคาทรัพย์ ดังนี้ จำเลยไม่มีสิทธิฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
การที่พยานโจทก์บางคนยังไม่ได้ให้การชั้นสอบสวนแต่ได้มีการสอบสวนจำเลยและพยานอื่นแล้วนั้น เรียกไม่ได้ ว่ามิได้ มีการสอบสวนตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 120
ความผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131 นั้น เป็นความผิดฐานเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ อัยการโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 43
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือนตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131 แต่ให้ยกคำขอที่ขอให้คืนราคาทรัพย์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะให้คืนราคาทรัพย์ ดังนี้ จำเลยไม่มีสิทธิฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
การที่พยานโจทก์บางคนยังไม่ได้ให้การชั้นสอบสวนแต่ได้มีการสอบสวนจำเลยและพยานอื่นแล้วนั้น เรียกไม่ได้ ว่ามิได้ มีการสอบสวนตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 120
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1907/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์: อัยการมีอำนาจฟ้องขอคืนทรัพย์ได้ แม้ไม่มีผู้ร้องทุกข์
ปลัดอำเภอรับมอบเงินในนามคณะกรรมการอำเภอ จากจังหวัดแล้วยักยอกเสียนั้น ย่อมถือว่าแผ่นดินเป็นผู้เสียหาย ไม่จำเป็นต้องมีการร้องทุกข์อัยการก็ฟ้องได้
ความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 131 นั้น เป็นความผิดฐานเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ อัยการโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ได้ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 43
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือนตาม ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา 131 แต่ให้ยกคำขอที่ขอให้คืนราคาทรัพย์ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะให้คืนราคาทรัพย์ ดังนี้ จำเลยไม่มีสิทธิฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
การที่พยานโจทก์บางคนยังไม่ได้ให้การชั้นสอบสวนจำเลยและพยานอื่นแล้วนั้น เรียกไม่ได้ว่ามิได้มีการสอบสวนตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 120
ความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 131 นั้น เป็นความผิดฐานเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ อัยการโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ได้ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 43
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือนตาม ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา 131 แต่ให้ยกคำขอที่ขอให้คืนราคาทรัพย์ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะให้คืนราคาทรัพย์ ดังนี้ จำเลยไม่มีสิทธิฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
การที่พยานโจทก์บางคนยังไม่ได้ให้การชั้นสอบสวนจำเลยและพยานอื่นแล้วนั้น เรียกไม่ได้ว่ามิได้มีการสอบสวนตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 120
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1815/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาททำร้ายร่างกาย: คู่กรณีไม่มีสิทธิฟ้องร้องลงโทษซึ่งกันและกัน
ผู้ที่วิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันนั้น ไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมาย ฉะนั้นจึงต่างไม่มีสิทธิฟ้องร้องขอให้ศาลลงโทษอีกฝ่ายหนึ่งได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1815/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาททำร้ายร่างกาย: โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องร้อง
ผู้ที่วิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันนั้น ไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมาย ฉะนั้นจึงต่างไม่มีสิทธิฟ้องร้องขอให้ศาลลงโทษอีกฝ่ายหนึ่งได้