พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,298 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 355/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมให้ขึ้นค่าเช่าทำให้ขาดคุณสมบัติการเป็นผู้เสียหาย
ผู้เช่าที่สมัครใจยอมให้ผู้ให้เช่าขึ้นค่าเช่ามาเป็นเวลาถึงปีเศษแล้ว ถือว่า ผู้เช่าไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีสิทธิฟ้องผู้ให้เช่าฐานขึ้นค่าเช่าโดยไม่ได้รับอนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 355/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมรับค่าเช่าที่สูงขึ้นเป็นเวลานาน ทำให้ผู้เช่าไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหาย
ผู้เช่าที่สมัครใจยอมให้ผู้ให้เช่าขึ้นค่าเช่ามาเป็นเวลาถึงปีเศษแล้วถือว่า ผู้เช่าไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีสิทธิฟ้องผู้ให้เช่าฐานขึ้นค่าเช่าโดยไม่ได้รับอนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 41/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ห้างหุ้นส่วนสามัญที่เลิกแล้ว ผู้รับโอนหุ้นมีสิทธิฟ้องคดีอาญาได้
ห้างหุ้นส่วนสามัญที่มิได้จดทะเบียน เมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนมีมติให้เลิกความเป็นหุ้นส่วนก็สิ้นสุดลง จะนำมาตรา1249-1040 มาใช้บังคับมิได้ และผู้เป็นหุ้นส่วนย่อมโอนหุ้นของตนได้โดยไม่จำต้องได้รับความยินยอมจากหุ้นส่วนคนอื่นผู้รับโอนหุ้นมาย่อมเป็นผู้เสียหายในทางอาญาได้
คดีอาญาที่อยู่ในชั้นพิจารณาอำนาจฟ้อง แม้ศาลจะเห็นว่าฟ้องบางข้อไม่ผิดตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้าง แต่ยังมีข้อหาฐานอื่นอยู่ด้วย และคดีจะต้องพิจารณาพิพากษาต่อไปศาลไม่ควรด่วนวินิจฉัยว่าจำเลยไม่มีความผิด
ทนายความที่ได้รับมอบอำนาจจากตัวความให้ใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้ย่อมมีอำนาจลงชื่อในอุทธรณ์แทนตัวความได้
(อ้างฎีกา 1243/2492)
คดีอาญาที่อยู่ในชั้นพิจารณาอำนาจฟ้อง แม้ศาลจะเห็นว่าฟ้องบางข้อไม่ผิดตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้าง แต่ยังมีข้อหาฐานอื่นอยู่ด้วย และคดีจะต้องพิจารณาพิพากษาต่อไปศาลไม่ควรด่วนวินิจฉัยว่าจำเลยไม่มีความผิด
ทนายความที่ได้รับมอบอำนาจจากตัวความให้ใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้ย่อมมีอำนาจลงชื่อในอุทธรณ์แทนตัวความได้
(อ้างฎีกา 1243/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 41/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ห้างหุ้นส่วนสามัญที่เลิกแล้ว โอนหุ้นได้โดยไม่ต้องยินยอม ผู้รับโอนมีสิทธิฟ้องคดีอาญาได้
ห้างหุ้นส่วนสามัญที่มิได้จดทะเบียน เมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนมีมติให้เลิก ความเป็นหุ้นส่วนก็สิ้นสุดลง จะนำมาตรา 1249 - 1040 มาใช้บังคับมิได้ และผู้เป็นหุ้นส่วนย่อมโอนหุ้นของตนได้โดยไม่จำต้องได้รับความยินยอมจากหุ้นส่วนคนอื่น ผู้รับโอนหุ้นมาย่อมเป็นผู้เสียหายในทางอาญาได้
คดีอาญาที่อยู่ในชั้นพิจารณาอำนาจฟ้อง แม้ศาลจะเห็นว่าฟ้องบางข้อไม่ผิดตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้าง แต่ยังมีขอ้หาฐานอื่นอยู่ด้วย และคดีจะต้องพิจารณาพิพากษาต่อไป ศาลไม่ควรด่วนวินิจฉัยว่าจำเลยไม่มีความผิด
ทนายความที่ได้รับมอบอำนาจจากตัวความให้ใช้สิทธิอุทธรณ์, ฎีกาได้ ย่อมมีอำนาจลงชื่อในอุทธรณ์แทนตัวความได้
(อ้างฎีกา 1243/2492)
คดีอาญาที่อยู่ในชั้นพิจารณาอำนาจฟ้อง แม้ศาลจะเห็นว่าฟ้องบางข้อไม่ผิดตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้าง แต่ยังมีขอ้หาฐานอื่นอยู่ด้วย และคดีจะต้องพิจารณาพิพากษาต่อไป ศาลไม่ควรด่วนวินิจฉัยว่าจำเลยไม่มีความผิด
ทนายความที่ได้รับมอบอำนาจจากตัวความให้ใช้สิทธิอุทธรณ์, ฎีกาได้ ย่อมมีอำนาจลงชื่อในอุทธรณ์แทนตัวความได้
(อ้างฎีกา 1243/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1613/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ซื้อสินค้าเกินราคา ไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีสิทธิเป็นโจทก์ร่วม
ผู้ซื้อบุหรี่เกินราคาที่ทางราชการกำหนดไว้ ไม่ใช่ผู้เสียหาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) ไม่มีสิทธิขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการในคดีที่โจทก์ขอให้ลงโทษผู้ขายบุหรี่เกินราคา(อ้างฎีกา 643/2486)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1613/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ซื้อสินค้าเกินราคา ไม่เป็นผู้เสียหาย ไม่มีสิทธิเป็นโจทก์ร่วม
ผู้ซื้อบุหรี่เกินราคาที่ทางราชการกำหนดไว้ ไม่ใช่เสียหาย ตามป.วิ.อาญา 2(4) ไม่มีสิทธิขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับอัยยการในคดีที่ โจทก์ขอให้ลงโทษผู้ขายบุหรี่เกินราคา
(อ้างฎีกาที่ 643/2486)
(อ้างฎีกาที่ 643/2486)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 863/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมหนังสือ ผู้ถูกหลอกลวงเป็นผู้เสียหายได้ แม้ไม่ใช่เจ้าของลายมือชื่อ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจลงลายมือชื่อนางพัน ปลอมลงในหนังสือสัญญาขายข้าวเปลือกให้แก่นายเชย โดยอ้างว่าข้าวนั้นเป็นของจำเลยและนางพันเป็นเจ้าของอยู่ด้วยกัน จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่นายเชย โดยได้จ่ายเงินไปตามสัญญา แต่ไม่ได้ข้าว ขอให้ลงโทษฐานปลอมหนังสือดังนี้ ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ แม้โจทก์จะมิได้กล่าวถึงนางพันว่าเป็นผู้เสียหายด้วย แต่โจทก์กล่าวว่าเกิดความเสียหายแก่นายเชยเพราะนายเชยจ่ายเงินไปตามสัญญาแต่ไม่ได้ข้าว และนายเชยเป็นผู้ได้รับความเสียหายจากหนังสือปลอมฉบับนี้ นายเชยจึงเป็นผู้เสียหาย
ความผิดฐานปลอมหนังสือ แม้หนังสือนั้นจะเป็นการปลอมลายมือชื่อบุคคลอื่น หรือปลอมชื่อบุคคลไม่มีตัวตนก็ดี ก็นับว่าเป็นความผิด
ความผิดฐานปลอมหนังสือ แม้หนังสือนั้นจะเป็นการปลอมลายมือชื่อบุคคลอื่น หรือปลอมชื่อบุคคลไม่มีตัวตนก็ดี ก็นับว่าเป็นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 863/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมหนังสือ ผู้ถูกหลอกลวงเป็นผู้เสียหายได้ แม้ไม่ใช่เจ้าของลายมือชื่อ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจลงลายมือชื่อนางพัน ปลอมลงในหนังสือสัญญาขายข้าวเปลือกให้แก่นายเชย โดยอ้างว่าข้าวนั้นเป็นของจำเลยและนางพันเป็นเจ้าของอยู่ด้วยกัน จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่นายเชย โดยได้จ่ายเงินไปตามสัญญา แต่ไม่ได้ข้าว ขอให้ลงโทษฐานปลอมหนังสือ ดังนี้ ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ แม้โจทก์จะมิได้กล่าวถึงนางพันว่า เป็นผู้เสียหายด้วย แต่โจทก์กล่าวว่า เกิดความเสียหายแก่นายเชยเพราะนายเชยจ่ายเงินไปตามสัญญาแต่ไม่ได้ข้าว และนายเชยเป็นผู้ได้รับความเสียหายจากหนังสือปลอมฉะบับนี้ นายเชยจึงเป็นผู้เสียหาย
ความผิดฐานปลอมหนังสือ แม้หนังสือนั้นจะเป็นการปลอมลายมือชื่อบุคคลอื่น หรือปลอมชื่อบุคคลไม่มีตัวตนก็ดี ก็นับว่าเป็นความผิด.
ความผิดฐานปลอมหนังสือ แม้หนังสือนั้นจะเป็นการปลอมลายมือชื่อบุคคลอื่น หรือปลอมชื่อบุคคลไม่มีตัวตนก็ดี ก็นับว่าเป็นความผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 573/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียกรับเงินเพื่อเอื้อประโยชน์ในการโอนเรือ ถือเป็นการทุจริตและมีความผิดตามกฎหมายอาญา
โจทก์ได้ไปร้องขอให้กรมเจ้าท่าทำการโอนขายเรือของโจทก์ให้แก่ ส. ในชั้นแรกไม่ได้รับอนุญาตให้โอน จำเลยซึ่งเป็นรองอธิบดีกรมเจ้าท่า ได้เรียกร้องให้โจทก์ชำระเงิน 56000 บาท เพื่อเป็นค่าทำถนนในกรมเจ้าท่าเสียก่อนจึงจะอนุญาตให้ทำการโอนได้ โจทก์จึงจำต้องชำระเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่จำเลย แล้วจำเลยจึงได้สั่งอนุญาตให้ทำการโอนเรือในวันนั้นเอง ดังนี้แม้จำเลยจะนำสืบได้ว่าได้เอาเงินจำนวนนี้ไปใช้ลาดยางทำถนนให้แก่กรมเจ้าท่า จำเลยก็ย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้ทำการทุจจริตตามนัยแห่งมาตรา 6 (3) กฎหมายอาญา โจทก์ย่อมเป็นผู้เสียหายจากการกระทำของจำเลยและมีสิทธิที่จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยได้
กรณีเช่นนี้ย่อมแตกต่างกับเรื่องเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ซึ่งเป็นการให้เงินแก่กันโดยสมัครใจ
(อ้างฎีกา 406/2486, 394/131)
กรณีเช่นนี้ย่อมแตกต่างกับเรื่องเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ซึ่งเป็นการให้เงินแก่กันโดยสมัครใจ
(อ้างฎีกา 406/2486, 394/131)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 573/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียกรับเงินเพื่อเอื้อประโยชน์ในการอนุมัติโอนเรือ ถือเป็นการทุจริตและมีความผิดตามกฎหมายอาญา
โจทก์ได้ไปร้องขอให้กรมเจ้าท่าทำการโอนขายเรือของโจทก์ให้แก่ ส. ในชั้นแรกไม่ได้รับอนุญาตให้โอน จำเลยซึ่งเป็นรองอธิบดีกรมเจ้าท่าได้เรียกร้องให้โจทก์ชำระเงิน 56,000 บาท เพื่อเป็นค่าทำถนนในกรมเจ้าท่าเสียก่อนจึงจะอนุญาตให้ทำการโอนได้ โจทก์จึงจำต้องชำระเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่จำเลยแล้วจำเลยจึงได้สั่งอนุญาตให้ทำการโอนเรือในวันนั้นเอง ดังนี้แม้จำเลยจะนำสืบได้ว่าได้เอาเงินจำนวนนี้ไปใช้ลาดยางทำถนนให้แก่กรมเจ้าท่า จำเลยก็ย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้ทำการทุจริตตามนัยแห่งมาตรา 6(3) กฎหมายอาญา โจทก์ย่อมเป็นผู้เสียหายจากการกระทำของจำเลยและมีสิทธิที่จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยได้
กรณีเช่นนี้ย่อมแตกต่างกับเรื่องเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ซึ่งเป็นการให้เงินแก่กันโดยสมัครใจ (อ้างฎีกาที่406/2468,394/131)
กรณีเช่นนี้ย่อมแตกต่างกับเรื่องเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ซึ่งเป็นการให้เงินแก่กันโดยสมัครใจ (อ้างฎีกาที่406/2468,394/131)