คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 2 (4)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,298 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2635/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ผู้อื่นโทรศัพท์ไม่ได้ทำให้ผู้ถูกหมิ่นประมาทมีส่วนก่อให้เกิดการกระทำผิด
การที่โจทก์ร่วมใช้ให้ น. พูดโทรศัพท์กับจำเลย แล้วจำเลยกล่าวถ้วยคำอันเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ร่วมทางโทรศัพท์ขึ้นเองนั้นถือไม่ได้ว่าโจทก์ร่วมมีส่วนก่อให้เกิดการกระทำด้วย โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2635/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ให้ผู้อื่นโทรศัพท์ ไม่ถือเป็นส่วนร่วมในการหมิ่นประมาท
การที่โจทก์ร่วมใช้ให้น.พูดโทรศัพท์กับจำเลยแล้วจำเลยกล่าวถ้วยคำอันเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ร่วมทางโทรศัพท์ขึ้นเองนั้นถือไม่ได้ว่าโจทก์ร่วมมีส่วนก่อให้เกิดการกระทำด้วยโจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2635/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ผู้อื่นโทรศัพท์ ไม่ถือเป็นส่วนก่อให้เกิดความผิดหมิ่นประมาท โจทก์ร่วมเป็นผู้เสียหาย
โจทก์ร่วมใช้ให้น. พูดโทรศัพท์กับจำเลยแล้วจำเลยกล่าวถ้อยคำหมิ่นประมาทโจทก์ร่วมทางโทรศัพท์การกระทำของโจทก์ร่วมไม่ถือว่ามีส่วนก่อให้เกิดการกระทำผิดของจำเลยดังนี้โจทก์ร่วมย่อมเป็นผู้เสียหายตามป.วิ.อ.มาตรา2(4).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2041/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกที่ผู้เสียหายไม่ต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์: การเข้าไปโดยมีเหตุอันสมควรและการโต้เถียงต่อเนื่อง
ผู้เสียหายในความผิดฐานบุกรุกไม่จำต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ จ. อยู่ในบ้านซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินของจำเลยย่อมมีส่วนครอบครองบ้านดังกล่าวจึงเป็นผู้เสียหายและมีสิทธิห้ามจำเลยเข้าไปหรืออยู่ในบ้านนั้นได้ จำเลยกับผู้เสียหายมีเรื่องผิดใจกัน ผู้ใหญ่บ้านเรียกจำเลยเข้าไปในบริเวณบ้านของผู้เสียหายเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ย การที่จำเลยเข้าไปในบริเวณบ้านของผู้เสียหายจึงเป็นการเข้าไปโดยมีเหตุอันสมควร เมื่อการเจรจาไกล่เกลี่ยตกลงกันไม่ได้และเกิดโต้เถียงกัน ผู้เสียหายให้จำเลยออกไป จำเลยยังไม่ยอมออกแต่กลับจะทำร้ายผู้เสียหาย เช่นนี้ การที่จำเลยยังอยู่ที่บริเวณใต้ถุนบ้านของผู้เสียหายภายหลังที่ผู้เสียหายให้จำเลยออกไปเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกับการที่จำเลยโต้เถียงและจะทำร้ายผู้เสียหาย เมื่อมีผู้อื่นมากันและรั้งจำเลยให้ออกไป จำเลยก็ยอมออกไป การกระทำของจำเลยยังไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 364, 365

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2041/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ผู้ครอบครองมีสิทธิห้าม การเข้าไปเพื่อเจรจาไม่ถือเป็นความผิด
ผู้เสียหายในความผิดฐานบุกรุกไม่จำต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์จ.อยู่ในบ้านซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินของจำเลยย่อมมีส่วนครอบครองบ้านดังกล่าวจึงเป็นผู้เสียหายและมีสิทธิห้ามจำเลยเข้าไปหรืออยู่ในบ้านนั้นได้จำเลยกับผู้เสียหายมีเรื่องผิดใจกันผู้ใหญ่บ้านเรียกจำเลยเข้าไปในบริเวณบ้านของผู้เสียหายเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยการที่จำเลยเข้าไปในบริเวณบ้านของผู้เสียหายจึงเป็นการเข้าไปโดยมีเหตุอันสมควรเมื่อการเจรจาไกล่เกลี่ยตกลงกันไม่ได้และเกิดโต้เถียงกันผู้เสียหายให้จำเลยออกไปจำเลยยังไม่ยอมออกแต่กลับจะทำร้ายผู้เสียหายเช่นนี้การที่จำเลยยังอยู่ที่บริเวณใต้ถุนบ้านของผู้เสียหายภายหลังที่ผู้เสียหายให้จำเลยออกไปเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกับการที่จำเลยโต้เถียงและจะทำร้ายผู้เสียหายเมื่อมีผู้อื่นมากันและรั้งจำเลยให้ออกไปจำเลยก็ยอมออกไปการกระทำของจำเลยยังไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา364,365

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1915/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้เสียหายจากการใช้เช็ค - โจทก์ร่วมย่อมมีสิทธิร้องทุกข์ได้ แม้เงินถูกนำฝากบัญชีห้างหุ้นส่วน
วัสดุก่อสร้างที่จำเลยซื้อและออกเช็คพิพาทให้โจทก์ร่วมเพื่อชำระราคานั้นเป็นของส่วนตัวของโจทก์ร่วมมิได้เกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจำกัดพ.ที่โจทก์ร่วมเป็นผู้จัดการดังนั้นเมื่อเช็คพิพาทถึงกำหนดและถูกปฏิเสธการจ่ายเงินโจทก์ร่วมย่อมเป็นผู้เสียหายและชอบที่จะร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีได้ส่วนการที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์ร่วมเรียกเก็บเงินเองและนำสืบในชั้นพิจารณาว่าเรียกเก็บเงินเพื่อฝากเข้าบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัดพ.นั้นก็มิได้แตกต่างกันแต่อย่างใดเพราะการที่โจทก์ร่วมจะนำเงินตามเช็คที่เรียกเก็บเข้าฝากในบัญชีของห้างหุ้นส่วนจำกัดพ.ก็เป็นสิทธิของโจทก์ร่วมที่จะทำได้หาทำให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดพ.กลายเป็นผู้เสียหายไปไม่. การบันทึกคำร้องทุกข์ของผู้เสียหายเจ้าหน้าที่ผู้รับแจ้งจะจดลงไว้อย่างไรและที่ใดก็เป็นเรื่องระเบียบภายในของพนักงานสอบสวนซึ่งไม่มีผลกระทบต่ออำนาจในการสอบสวนและดำเนินคดีและในปัญหาที่ว่าเขตรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละแห่งจะมีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่เพียงใดนั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1741/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดสถานะผู้ทรงเช็คและการมีอำนาจฟ้องคดีเช็คเมื่อมีการชำระหนี้ตามสัญญาขายลดเช็ค
เดิมโจทก์เป็นผู้เสียหายตามเช็คพิพาททั้งสองฉบับที่นำมาฟ้อง ต่อมาก่อนฟ้องคดีนี้โจทก์ได้รับชำระหนี้ตามสัญญาขายลดเช็คจากผู้ที่นำเช็คพิพาททั้งสองฉบับมาขายลดกับโจทก์แล้ว โจทก์ย่อมมีหน้าที่คืนเช็คพิพาททั้งสองฉบับที่ได้รับชำระหนี้แล้วตามสัญญาขายลดเช็คให้แก่ผู้ขายลดเช็คไป ดังนี้ แม้โจทก์ยังยึดถือเช็คพิพาททั้งสองฉบับนี้อยู่ แต่เมื่อโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องเงินตามเช็คแล้ว โจทก์จึงไม่ใช่ผู้ทรงเช็คตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 และมาตรา 918 และย่อมไม่เป็นผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้องคดีอาญาฐานความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (4) และมาตรา 28

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้โอนสลักหลังเช็คไม่เป็นผู้เสียหาย การฟ้องคดีอาญาเช็คต้องเป็นของผู้ทรงเช็คที่แท้จริง
เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือโจทก์ร่วมสลักหลังมอบให้น.นำไปเข้าบัญชีของน.เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินต้องถือว่าน.เป็นผู้ทรงเช็คและเป็นผู้เสียหายที่จะดำเนินคดีกับจำเลยในข้อหาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯโจทก์ร่วมไม่ใช่ผู้เสียหายฉะนั้นการที่โจทก์ร่วมมอบอำนาจให้น.ไปร้องทุกข์แทนการร้องทุกข์ย่อมไม่ชอบ.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้โอนเช็คหลังสลักหลังไม่ใช่ผู้เสียหายในคดีเช็คพิพาท ผู้รับโอนเช็คเป็นผู้เสียหาย
เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือโจทก์ร่วมสลักหลังมอบให้น. นำไปเข้าบัญชีของน. เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินต้องถือว่าน. เป็นผู้ทรงเช็คและเป็นผู้เสียหายที่จะดำเนินคดีกับจำเลยในข้อหาตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯโจทก์ร่วมไม่ใช่ผู้เสียหายฉะนั้นการที่โจทก์ร่วมมอบอำนาจให้น.ไปร้องทุกข์แทนการร้องทุกข์ย่อมไม่ชอบ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1035/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้ทรงเช็ค - การฟ้องคดีอาญาเช็ค - ผู้รับเช็คโดยชอบ
จำเลยออกเช็คพิพาทให้ส.เพื่อชำระหนี้ต่อมาส.นำเช็คดังกล่าวไปแลกเงินสดจากโจทก์เมื่อเช็คถึงกำหนดโจทก์นำเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินดังนี้ถือว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบในวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินซึ่งเป็นวันที่มีการกระทำผิดของจำเลยโจทก์จึงอยู่ในฐานะเป็นผู้เสียหายที่จะดำเนินคดีแก่จำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯได้.(ที่มา-ส่งเสิรม).
of 130