คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 2 (4)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,298 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1018/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเสียหายจากเช็ค: ผู้เสียหายคือผู้ทรงเช็ค ณ วันธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน แม้ผู้ถือเช็คจะเปลี่ยนมือภายหลัง
ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คเกิดขึ้นในวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินผู้ทรงเช็คในวันนั้นจึงเป็นผู้เสียหาย แม้โจทก์ได้จ่ายเงินและรับโอนเช็คผู้ถือมาภายหลังจากที่ความผิดเกิดขึ้นแล้ว โจทก์มิใช่ผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 816/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทนายความรับเงินแทนตัวความ: เงินที่รับโดยไม่ได้รับมอบหมาย ไม่ถือเป็นยักยอกทรัพย์
ทนายความย่อมมีอำนาจว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ แทนตัวความได้ แต่ทนายความไม่มีอำนาจรับเงินซึ่งจะชำระแก่ตัวความ เว้นแต่จะได้รับมอบหมายจากตัวความ
ส.แพ้คดีโจทก์ได้นำเงินที่จะต้องชำระแก่โจทก์ตามคำพิพากษาไปชำระแก่จำเลยซึ่งเป็นทนายความของโจทก์ โดยโจทก์มิได้มอบหมายให้จำเลยมีอำนาจรับไว้ได้ เงินที่จำเลยรับไว้จึงยังมิใช่เป็นเงินของโจทก์ แม้จำเลยจะเบียดบังเอาเงินที่ได้รับไว้นั้นเป็นของตนโดยทุจริต ก็ยังไม่เป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ของโจทก์ โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีสิทธินำคดีมาฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 816/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทนายความรับเงินแทนตัวความ: เงินที่รับโดยไม่ได้รับมอบหมาย ไม่ถือเป็นยักยอกทรัพย์
ทนายความย่อมมีอำนาจว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆแทนตัวความได้ แต่ทนายความไม่มีอำนาจรับเงินซึ่งจะชำระแก่ตัวความ เว้นแต่จะได้รับมอบหมายจากตัวความ
ส.แพ้คดีโจทก์ได้นำเงินที่จะต้องชำระแก่โจทก์ตามคำพิพากษาไปชำระแก่จำเลยซึ่งเป็นทนายความของโจทก์ โดยโจทก์มิได้มอบหมายให้จำเลยมีอำนาจรับไว้ได้ เงินที่จำเลยรับไว้จึงยังมิใช่เป็นเงินของโจทก์แม้จำเลยจะเบียดบังเอาเงินที่ได้รับไว้นั้นเป็นของตนโดยทุจริต ก็ยังไม่เป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ของโจทก์ โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีสิทธินำคดีมาฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีเช็ค เนื่องจากไม่ใช่ผู้เสียหายในขณะเกิดความผิด แม้จะได้รับเช็คภายหลัง
ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คนั้นเกิดขึ้นในวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เมื่อขณะที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินครั้งแรก โจทก์ไม่ได้เป็นผู้ทรงเช็ค โจทก์ก็ไม่เป็นผู้เสียหาย แม้ต่อมาโจทก์จะรับเช็คดังกล่าวมาแล้วนำไปเบิกเงินจากธนาคารและถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินอีก ไม่ว่าจำเลยจะตกลงให้โจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงินอีกหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่ทำให้การกระทำของจำเลยซึ่งเป็นความผิดแล้วกลับเป็นความผิดซ้ำขึ้นมาอีกโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องความผิดเช็ค: ผู้เสียหายคือผู้ทรงเช็ค ณ วันปฏิเสธการจ่ายเงิน แม้จะมีการนำเช็คกลับมาเรียกเก็บอีกครั้งก็ไม่ทำให้เกิดความผิดซ้ำ
ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คนั้นเกิดขึ้นในวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เมื่อขณะที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินครั้งแรก โจทก์ไม่ได้เป็นผู้ทรงเช็ค โจทก์ก็ไม่เป็นผู้เสียหาย แม้ต่อมาโจทก์จะได้รับเช็คดังกล่าวมาแล้วนำไปเบิกเงินจากธนาคารและถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินอีก ไม่ว่าจำเลยจะตกลงให้โจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงินอีกหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่ทำให้การกระทำของจำเลยซึ่งเป็นความผิดแล้วกลับเป็นความผิดซ้ำขึ้นมาอีก โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 334/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องอาญา: ผู้เสียหายต้องเป็นผู้ได้รับความเสียหายโดยตรงจากความเท็จนั้น
เจ้ามรดกทำพินัยกรรมตั้งผู้จัดการมรดกในรูปคณะกรรมการจัดการมรดกโดยระบุชื่อบุคคลพวกหนึ่งและระบุตำแหน่งอีกพวกหนึ่งรวมทั้งหมด 11 ท่าน โดยมีตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดสมุทรสงครามรวมอยู่ด้วย และมีข้อกำหนดไว้ว่าให้คณะกรรมการตั้งแต่ 5 ท่านขึ้นไปเป็นองค์ประชุมจัดการทรัพย์มรดกได้ พินัยกรรมมิได้ระบุชื่อโจทก์หรือตั้งโจทก์ให้เป็นคณะกรรมการจัดการมรดก โจทก์ในฐานะส่วนตัวจึงไม่ใช่เป็นผู้จัดการมรดก ตามคำฟ้องของโจทก์อ่านเข้าใจได้ว่าโจทก์ในฐานะส่วนตัวได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม มิได้อ้างว่าโจทก์เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดสมุทรสงคราม หรือฟ้องในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดสมุทรสงคราม โจทก์ในฐานะส่วนตัวไม่ได้รับความเสียหาย จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 334/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องในคดีเบิกความเท็จ: ผู้เสียหายต้องเป็นผู้ได้รับความเสียหายโดยตรงจากเหตุการณ์
เจ้ามรดกทำพินัยกรรมตั้งผู้จัดการมรดกในรูปคณะกรรมการจัดการมรดกโดยระบุชื่อบุคคลพวกหนึ่ง และระบุตำแหน่งอีกพวกหนึ่งรวมทั้งหมด 11 ท่าน โดยมีตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดสมุทรสงครามรวมอยู่ด้วย และมีข้อกำหนดไว้ว่าให้คณะกรรมการตั้งแต่ 5 ท่านขึ้นไปเป็นองค์ประชุมจัดการทรัพย์มรดกได้ พินัยกรรมมิได้ระบุชื่อโจทก์หรือตั้งโจทก์ให้เป็นคณะกรรมการจัดการมรดก
โจทก์ในฐานะส่วนตัวจึงไม่ใช่เป็นผู้จัดการมรดก ตามคำฟ้องของโจทก์อ่านเข้าใจได้ว่าโจทก์ในฐานะส่วนตัวได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม มิได้อ้างว่าโจทก์เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดสมุทรสงคราม หรือฟ้องในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดสมุทรสงคราม โจทก์ในฐานะส่วนตัวไม่ได้รับความเสียหาย จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 180/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความคดีแพ่งจากการกระทำละเมิดที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา
การที่จำเลยขุดและล้อมรั้วปิดกั้นทางสาธารณะซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของนาโจทก์ตามสำนวนคดีอาญา เฉพาะแต่รัฐเท่านั้นที่ฟ้องจำเลยได้ โจทก์มิใช่ผู้เสียหายในความผิดดังกล่าว การที่โจทก์จะฟ้องคดีแพ่งเรียกค่าสินไหมทดแทนได้เพียงไรหรือไม่ขึ้นอยู่กับโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษจากการที่จำเลยขุดและล้อมรั้วปิดกั้นทางสาธารณะเพียงไรหรือไม่การฟ้องคดีแพ่งจึงมิได้อาศัยผลแห่งคดีอาญาดังกล่าว จึงมิใช่คดีแพ่งที่เกี่ยวกับคดีอาญา ไม่อยู่ในบังคับแห่งอายุความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 51 วรรคสาม และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 168 เมื่อโจทก์ฟ้องคดีแพ่งเกินหนึ่งปีนับแต่วันทำละเมิด คดีของโจทก์จึงขาดอายุความตามมาตรา 448 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 180/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความคดีแพ่งจากการกระทำละเมิดที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา การฟ้องเกินกำหนดทำให้ขาดอายุความ
การที่จำเลยขุดและล้อมรั้วปิดกั้นทางสาธารณะซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของนาโจทก์ตามสำนวนคดีอาญา เฉพาะแต่รัฐเท่านั้นที่ฟ้องจำเลยได้ โจทก์มิใช่ผู้เสียหายในความผิดดังกล่าว การที่โจทก์จะฟ้องคดีแพ่งเรียกค่าสินไหมทดแทนได้เพียงไรหรือไม่ขึ้นอยู่กับโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ จากการที่จำเลยขุดและล้อมรั้วปิดกั้นทางสาธารณะเพียงไรหรือไม่ การฟ้องคดีแพ่งจึงมิได้อาศัยผลแห่งคดีอาญาดังกล่าว จึงมิใช่คดีแพ่งที่เกี่ยวกับคดีอาญา ไม่อยู่ในบังคับแห่งอายุความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 51 วรรคสาม และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 168 เมื่อโจทก์ฟ้องคดีแพ่งเกินหนึ่งปีนับแต่วันทำละเมิด คดีของโจทก์จึงขาดอายุความตามมาตรา 448 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2652/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินพิพาท: ผู้ขายยังคงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจร้องทุกข์ได้ แม้จะทำสัญญาจะซื้อขาย
ห. เป็นเจ้าของนาพิพาทซึ่งเป็นที่ดินมี น.ส.3 ได้ทำสัญญากันเองขายให้ ส. ส. ชำระราคาบางส่วน ที่เหลือจะชำระในวันโอนทางทะเบียน ดังนี้ การซื้อขายนาพิพาทระหว่างห.กับส. มีข้อตกลงจะโอนทางทะเบียน แม้จะมีการตกลงให้ผู้ซื้อเข้าครอบครองได้ระหว่างยังไม่ได้โอนนาพิพาท ก็เป็นแต่เพียงสัญญาจะซื้อขาย และเป็นการมอบที่ดินให้เข้าครอบครองแทนกันไปก่อน สิทธิครอบครองยังคงอยู่กับ ห.เจ้าของนาพิพาทส. จะเข้าไปไถนา ปรากฏว่าจำเลยเข้าไปไถหว่านอยู่แล้วไม่ยอมให้ส.เข้าทำห. จึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยในข้อหาบุกรุกได้
of 130