คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 2 (4)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,298 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2221/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาฐานแจ้งข้อความเท็จต่อศาล กรณีหลักประกันคดีแพ่งที่ไม่เป็นจริง
จำเลยแพ้คดีแพ่งในชั้นอุทธรณ์ จึงฎีกาและร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกา ศาลมีคำสั่งให้หาหลักประกันในราคา 8 ล้านบาท ถ้าศาลพอใจหลักทรัพย์ก็ให้ทุเลาการบังคับ จำเลยเสนอหลักทรัพย์โดยตีราคามาให้พอแก่ราคาหลักประกันที่ศาลต้องการ แต่หลักทรัพย์นั้นมีใบหุ้นของบริษัทร้างซึ่งจำเลยรู้ดีว่าไม่มีมูลค่าแล้ว และมีโฉนดที่ดินซึ่งจำเลยตีราคามาสูงเกินความจริงไปมากทำให้ศาลหลงเชื่อรับไว้เป็นหลักประกัน และอนุญาตให้ทุเลาการบังคับ ดังนี้ ถือได้ว่าโจทก์ในคดีแพ่งนั้นได้รับความเสียหายจากการกระทำผิดของจำเลยฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137จึงเป็นผู้เสียหาย มีอำนาจฟ้องคดีอาญาในความผิดดังกล่าวนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2221/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาจากการแจ้งข้อมูลเท็จต่อศาลเพื่อทุเลาการบังคับคดี ทำให้เจ้าหนี้เสียหาย
จำเลยแพ้คดีแพ่งในชั้นอุทธรณ์ จึงฎีกาและร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกา ศาลมีคำสั่งให้หาหลักประกันในราคา 8 ล้านบาท ถ้าศาลพอใจหลักทรัพย์ก็ให้ทุเลาการบังคับ จำเลยเสนอหลักทรัพย์โดยตีราคามาให้พอแก่ราคาหลักประกันที่ศาลต้องการ แต่หลักทรัพย์นั้นมีใบหุ้นของบริษัทร้างซึ่งจำเลยรู้ดีว่าไม่มีมูลค่าแล้ว และมีโฉนดที่ดินซึ่งจำเลยตีราคามาสูงเกินความจริงไปมากทำให้ศาลหลงเชื่อรับไว้เป็นหลักประกัน และอนุญาตให้ทุเลาการบังคับ ดังนี้ ถือได้ว่าโจทก์ในคดีแพ่งนั้นได้รับความเสียหายจากการกระทำผิดของจำเลยฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137จึงเป็นผู้เสียหาย มีอำนาจฟ้องคดีอาญาในความผิดดังกล่าวนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1884/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งราคาซื้อขายต่ำกว่าความเป็นจริงเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทำสัญญาขายที่ดินพร้อมด้วยตึกแถวให้จำเลยที่ 1 ห้องละ 80,000 บาท จำเลยที่ 1 มาขอให้โจทก์ทำหนังสือมอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนโอนขายให้จำเลยที่ 2 แล้ว จำเลยที่ 1 นำหนังสือมอบอำนาจนั้นไปแสดงแก่เจ้าพนักงานที่ดิน โดยจำเลยทั้งสองแจ้งความเท็จว่าโจทก์โอนขายให้ในราคา 40,000 บาทความจริงจำเลยที่ 1 ขายให้จำเลยที่ 2 ในราคากว่า 80,000 บาท ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมและค่าอากร อาจทำให้โจทก์เสียหายคืออาจถูกฟ้องฐานแจ้งความเท็จ อาจถูกเรียกค่าธรรมเนียมและค่าอากรแสตมป์ที่ขาดและถูกปรับหลายเท่า และอาจถูกฟ้องฐานหลีกเลี่ยงภาษีอากรด้วย ดังนี้ เห็นได้ว่าโจทก์มอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 เป็นผู้โอนขายแทนเท่านั้น โจทก์ไม่ได้เป็นผู้แจ้งหรือร่วมรู้เห็นในการแจ้งว่าซื้อขายกันเป็นเงินเท่าใด ไม่ต้องรับผิดฐานแจ้งความเท็จนั้น การแจ้งราคาซื้อขายน้อยกว่าความจริง เป็นเหตุให้รัฐบาลขาดรายได้รัฐบาลก็เป็นผู้เสียหาย ไม่ใช่โจทก์ข้อที่ว่าโจทก์อาจถูกเรียกค่าธรรมเนียมและค่าอากรแสตมป์ที่ขาดและจะถูกปรับ ก็ปรากฏตามสัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้มีหน้าที่ชำระ เมื่อตามข้อเท็จจริงเป็นการแจ้งของจำเลยที่ 1 และที่ 2 โดยเฉพาะตัวแล้ว
โจทก์ก็ไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานร่วมกันแจ้งความเท็จ ศาลย่อมมีอำนาจยกฟ้องได้โดยไม่ต้องไต่สวนมูลฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1884/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีแจ้งความเท็จ กรณีจำเลยแจ้งราคาซื้อขายต่ำกว่าความเป็นจริง โจทก์ผู้มอบอำนาจย่อมไม่มีอำนาจฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทำสัญญาขายที่ดินพร้อมด้วยตึกแถวให้จำเลยที่ 1 ห้องละ 80,000 บาท จำเลยที่ 1 มาขอให้โจทก์ทำหนังสือมอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนโอนขายให้จำเลยที่ 2 แล้ว จำเลยที่ 1 นำหนังสือมอบอำนาจนั้นไปแสดงแก่เจ้าพนักงานที่ดิน โดยจำเลยทั้งสองแจ้งความเท็จว่าโจทก์โอนขายให้ในราคา 40,000 บาทความจริงจำเลยที่ 1ขายให้จำเลยที่ 2 ในราคากว่า 80,000 บาท ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมและค่าอากร อาจทำให้โจทก์เสียหายคืออาจถูกฟ้องฐานแจ้งความเท็จ อาจถูกเรียกค่าธรรมเนียมและค่าอากรแสตมป์ที่ขาดและถูกปรับหลายเท่า และอาจถูกฟ้องฐานหลีกเลี่ยงภาษีอากรด้วย ดังนี้ เห็นได้ว่าโจทก์มอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 เป็นผู้โอนขายแทนเท่านั้น โจทก์ไม่ได้เป็นผู้แจ้งหรือร่วมรู้เห็นในการแจ้งว่าซื้อขายกันเป็นเงินเท่าใด ไม่ต้องรับผิดฐานแจ้งความเท็จนั้นการแจ้งราคาซื้อขายน้อยกว่าความจริง เป็นเหตุให้รัฐบาลขาดรายได้รัฐบาลก็เป็นผู้เสียหาย ไม่ใช่โจทก์ข้อที่ว่าโจทก์อาจถูกเรียกค่าธรรมเนียมและค่าอากรแสตมป์ที่ขาดและจะถูกปรับ ก็ปรากฏตามสัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้มีหน้าที่ชำระเมื่อตามข้อเท็จจริงเป็นการแจ้งของจำเลยที่ 1 และที่ 2โดยเฉพาะตัวแล้ว
โจทก์ก็ไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานร่วมกันแจ้งความเท็จ ศาลย่อมมีอำนาจยกฟ้องได้โดยไม่ต้องไต่สวนมูลฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1511/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องแจ้งความเท็จ: โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
จำเลยเช่ารถยนต์จากโจทก์เพื่อใช้เป็นรถยนต์แท็กซี่ขับรับจ้าง แล้วเบียดบังยักยอกเอารถยนต์คันนั้นไปโดยเจตนา ทุจริต แล้วนำ ความเท็จไปแจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่ารถยนต์คันนั้นถูกคนร้ายชิงไป ดังนี้ โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรงในความผิดฐานแจ้งความเท็จ จึงเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จไม่ได้
ปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับอำนาจฟ้องนี้เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จะไม่มีการอุทธรณ์ในข้อนี้ ศาลอุทธรณ์ก็อาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคท้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1511/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องแจ้งความเท็จ: ผู้เสียหายต้องเป็นผู้ได้รับความเสียหายโดยตรงจากเหตุแจ้งความ
จำเลยเช่ารถยนต์จากโจทก์เพื่อใช้เป็นรถยนต์แท็กซี่ขับรับจ้างแล้วเบียดบังยักยอกเอารถยนต์คันนั้นไปโดยเจตนาทุจริต แล้วนำความเท็จไปแจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่ารถยนต์คันนั้นถูกคนร้ายชิงไป ดังนี้ โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรงในความผิดฐานแจ้งความเท็จ จึงเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จไม่ได้
ปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับอำนาจฟ้องนี้เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จะไม่มีการอุทธรณ์ในข้อนี้ ศาลอุทธรณ์ก็อาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคท้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1360/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเท็จเรื่องภูมิลำเนาไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้ขอเช่า หากการอนุมัติไม่ได้ขึ้นอยู่กับภูมิลำเนา
โจทก์จำเลยต่างยื่นคำร้องต่ออำเภอเพื่อขอเช่าที่พิพาทตามคำร้องของจำเลยระบุว่าจำเลยตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านเลขที่ 229 หมู่ที่ 5 ตำบลบัวชุมอำเภอไชยบาดาล จังหวัดลพบุรีโดยเช่าห้องของนายเฉื่อย คำทองแท้ และ จำเลยได้ครอบครองที่พิพาทมาก่อน พ.ศ. 2499 ซึ่งความจริงจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ที่ตำบลสระกรวด อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ นายอำเภออนุมัติให้จำเลยเช่าที่พิพาท แต่การที่นายอำเภอจะพิจารณาให้ผู้ใดเช่าที่ดินโครงการผังเมืองลำนารายณ์ซึ่งรวมถึงที่พิพาทรายนี้ด้วยนั้นนายอำเภอเป็นผู้มีอำนาจให้ผู้หนึ่งผู้ใดเช่าได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าผู้ขอเช่าจะมีภูมิลำเนาอยู่ที่ใด ดังนั้น การที่จำเลยได้รับอนุมัติให้เป็นผู้เช่าและโจทก์ไม่ได้รับอนุมัติให้เช่านั้นจึงไม่ได้เป็นผลมาจากการที่จำเลยระบุในคำร้องว่าจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ที่ใด ความเสียหายของโจทก์มิได้สืบเนื่องมาจากข้อความอันเป็นเท็จนั้น โจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 610/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจร้องทุกข์ของหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจำกัด และอายุความคดีเช็ค
หุ้นส่วนที่ไม่ใช่ผู้จัดการหรือผู้แทนของห้างหุ้นส่วนจำกัดซึ่งเป็นนิติบุคคล ย่อมไม่มีอำนาจร้องทุกข์แทนห้างหุ้นส่วนจำกัดนั้น
ใบมอบอำนาจซึ่งมีข้อความว่ามอบอำนาจให้ฟ้องร้องต่อศาลเกี่ยวกับคดีเรื่องเช็คได้ทุกศาล เป็นการมอบอำนาจให้ดำเนินการแทนเฉพาะการฟ้องร้องคดีต่อศาล ไม่รวมถึงการมอบอำนาจให้ร้องทุกข์ด้วย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ หลังจากวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค 5 เดือนเศษ โดยโจทก์มิได้ร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิด ฟ้องโจทก์ย่อมขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาหลังเจ้าของสิทธิเสียชีวิต: ผู้รับมรดกไม่มีอำนาจฟ้องแทน หากการกระทำผิดเกิดขึ้นก่อนได้รับมรดก
จำเลยกระทำความผิดฐานแจ้งความเท็จเกี่ยวกับโฉนดที่ดินในขณะที่มารดาโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินตามโฉนดนั้นยังมีชีวิตอยู่มารดาโจทก์จึงเป็นผู้เสียหาย แม้โจทก์ซึ่งเป็นบุตรเป็นทายาทผู้รับมรดกที่ดินตามโฉนดนั้นเพิ่งทราบการกระทำของจำเลยหลังจากที่มารดาโจทก์ตายแล้ว โจทก์ก็ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2103-2104/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาแผ่นดิน, การสอบสวน, เจ้าพนักงาน, การเบียดบังเงินของรัฐ, และความผิดฐานทุจริต
คดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์บรรยายฟ้องมาว่าได้สอบสวนแล้วย่อมสันนิษฐานได้ว่าเป็นการสอบสวนที่ชอบด้วยกฎหมาย ถ้าจำเลยไม่คัดค้านโดยเสนอเป็นข้อต่อสู้ไว้ ถือว่าไม่มีข้อโต้เถียงกัน หากตามสำนวนไม่มีข้อเท็จจริงที่แสดงว่าการสอบสวนนั้นไม่ชอบ จำเลยเพิ่งมาคัดค้านขึ้นในชั้นอุทธรณ์ฎีกาแล้ว ย่อมไม่มีเหตุที่จะวินิจฉัยให้
เงินอากรค่าใบอนุญาตฆ่าสัตว์ โค กระบือ ซึ่งเป็นรายได้ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด เมื่อราษฎรนำมาชำระ และจำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่รับมอบไว้แล้ว หากจำเลยเบียดบังเอาเป็นของตนก็เป็นการเบียดบังเอาเงินของรัฐไม่ใช่เบียดบังเอาเงินของราษฎรรัฐบาลเป็นผู้เสียหายโดยตรง พนักงานอัยการจึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้แม้ราษฎรผู้ชำระเงินจะมิได้ร้องทุกข์
ผู้ว่าราชการจังหวัดได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้นายอำเภอในจังหวัดทุกอำเภอเป็นเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับรายได้ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดและให้เจ้าหน้าที่สรรพากรอำเภอทุกคนเป็นผู้ช่วยนายอำเภอของตนเมื่อจำเลยซึ่งเป็นเสมียนแผนกสรรพากรทราบคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดและรับมอบหมายเรื่องนี้มาแล้ว ถือได้ว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ปฏิบัติราชการในเรื่องนี้แล้ว เพราะฐานะของเจ้าพนักงานเกิดจากการรับหน้าที่ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาได้
of 130