คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2530 ม. 32

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1916/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บังคับตามคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ: อำนาจศาล, องค์ประกอบอนุญาโตตุลาการ, ดอกเบี้ย, และอัตราแลกเปลี่ยน
หนังสือมอบอำนาจทำในต่างประเทศ ความสมบูรณ์ของหนังสือมอบอำนาจต้องเป็นไปตามกฎหมายของประเทศที่ทำหนังสือมอบอำนาจนั้น ไม่อยู่บังคับที่ต้องปิดอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากร
การบังคับให้มีสำเนาเอกสารหรือคำแปลเอกสารที่รับรองถูกต้องตามมาตรา 31(2) และ (3) แห่งพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ. 2530มีความมุ่งหมายเพียงเพื่อให้เอกสารดังกล่าวมีความน่าเชื่อถือ แม้ว่าสัญญาอนุญาโตตุลาการจะเป็นสำเนาซึ่งรับรองโดย จ. ซึ่งไม่มีส่วนรับรู้ในการทำสัญญาดังกล่าวและคำแปลเป็นภาษาไทยคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการไม่ได้ระบุว่าใครเป็นผู้แปลและผู้แปลสาบานตนแล้วหรือไม่ อีกทั้งไม่มีเจ้าหน้าที่รับรอง แต่เมื่อผู้คัดค้านมิได้กล่าวอ้างว่าสำเนาสัญญาอนุญาโตตุลาการและคำแปลดังกล่าวไม่ถูกต้องอย่างไร จึงไม่มีผลต่อความน่าเชื่อถือของเอกสารดังกล่าว ความไม่ชอบของเอกสารตามที่ผู้คัดค้านกล่าวอ้างจึงไม่ใช่ข้อสำคัญแห่งคดี
ผู้คัดค้านต่อสู้ว่าสัญญาซื้อขายเครื่องเก็บเงินค่าผ่านทางพิเศษแบบอัตโนมัติและอุปกรณ์กับข้อตกลงเกี่ยวกับการแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการไม่มีผลผูกพันผู้คัดค้าน เพราะการทำสัญญาดังกล่าวผู้ร้องและผู้คัดค้านตกลงกันว่า จะต้องได้รับความเห็นชอบจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทยก่อน แต่ไม่ให้ความเห็นชอบคำคัดค้านดังกล่าวเป็นการยอมรับอยู่ในตัวถึงการมีสัญญาอนุญาโตตุลาการระหว่างผู้ร้องและผู้คัดค้าน การที่ผู้คัดค้านอุทธรณ์ว่า สัญญาอนุญาโตตุลาการไม่ผูกพันผู้คัดค้านเนื่องจากผู้ลงนามในสัญญาไม่มีอำนาจทำการผูกพันผู้คัดค้าน จึงเป็นการอุทธรณ์ที่ต่างจากคำคัดค้าน ถือว่าเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศไม่รับวินิจฉัยให้
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 ที่บัญญัติให้คิดดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดร้อยละ 7.5 ต่อปีนั้นเป็นกรณีการคิดดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดที่เจ้าหนี้ไม่อาจเรียกได้สูงกว่าอัตรานี้โดยอาศัยเหตุอย่างอื่นอันชอบด้วยกฎหมายมิใช่เป็นกรณีกฎหมายห้ามเด็ดขาดไม่ให้เรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี หากมีเหตุอื่นอันชอบด้วยกฎหมายที่เจ้าหนี้สามารถเรียกได้สูงกว่าอัตรานี้ เจ้าหนี้ย่อมสามารถเรียกได้โดยไม่ฝ่าฝืนกฎหมายการชำระหนี้ตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการที่กำหนดให้ผู้คัดค้านใช้ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนซึ่งเท่ากับร้อยละ 18 ต่อปี จึงไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอบังคับให้ผู้คัดค้านชำระหนี้เป็นเงินตราต่างประเทศคือ เงินโครนนอร์เวย์ เท่านั้น การที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้คิดอัตราแลกเปลี่ยนเป็นเงินไทยในวันที่มีคำพิพากษาเป็นเกณฑ์ จึงไม่เป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 196 วรรคสอง ที่กำหนดให้คิดอัตราแลกเปลี่ยน ณ สถานที่ และในเวลาที่ใช้เงิน อีกทั้งยังเป็นการพิพากษาเกินคำขอเพราะโจทก์มิได้มีคำขอดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. 2539 มาตรา 26 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1916/2544 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือมอบอำนาจต่างประเทศ, คำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ, และการบังคับชำระหนี้ตามอัตราแลกเปลี่ยน
หนังสือมอบอำนาจที่ได้ทำในต่างประเทศ ความสมบูรณ์ของหนังสือมอบอำนาจจึงต้องเป็นไปตามกฎหมายของประเทศที่ทำหนังสือมอบอำนาจนั้น จึงไม่อยู่ในบังคับที่ต้องปิดอากรแสตมป์ตาม ป.รัษฎากร
ความมุ่งหมายของการบังคับให้มีสำเนาเอกสารหรือคำแปลเอกสารที่รับรองถูกต้องแห่ง พ.ร.บ. อนุญาโตตุลาการ พ.ศ. 2530 มาตรา 3 (2) และ (3) ก็คือเพื่อให้เอกสารมีความน่าเชื่อถือ ความไม่ชอบของเอกสารที่มิได้ระบุชื่อผู้แปลหรือผู้แปลได้สาบานตนหรือไม่ ตามที่ผู้คัดค้านอ้าง จึงไม่ใช่ข้อสำคัญแห่งคดี
การชำระหนี้ตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการที่กำหนดให้ผู้คัดค้านใช้ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือน ไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน แต่การที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้คิดอัตราแลกเปลี่ยนเป็นเงินไทยในวันที่มีคำพิพากษาเป็นเกณฑ์นั้น ถือว่าไม่ชอบด้วย ป.พ.พ. มาตรา 196 วรรคสอง จึงสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง