พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,524 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องระบุการฆ่ากระบือโดยไม่ได้รับอนุญาต ย่อมหมายถึงสัตว์ที่นำมาเลี้ยงในชุมชน ไม่เคลือบคลุม
คำฟ้องที่บรรยายว่า จำเลยกับพวกได้ร่วมกันฆ่ากระบือโดยมิได้รับอนุญาตและมิได้เสียอากรฆ่าสัตว์ตามพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์และจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2502 มาตรา 6,18 นั้น ย่อมเป็นการแสดงว่ามุ่งหมายถึงสัตว์ซึ่งมิใช่สัตว์ป่าอยู่ในตัวไม่จำเป็นต้องกล่าวว่าเป็นสัตว์บ้านหรือสัตว์เลี้ยงแต่อย่างใดจึงถือว่าฟ้องของโจทก์ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความคำฟ้องคดีฆ่าสัตว์ การระบุประเภทสัตว์ที่ไม่ใช่สัตว์ป่าในคำฟ้อง
คำฟ้องที่บรรยายว่า จำเลยกับพวกได้ร่วมกันฆ่ากระบือโดยมิได้รับอนุญาตและมิได้เสียอากรฆ่าสัตว์ตามพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์และจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2502 มาตรา 6,18 นั้น. ย่อมเป็นการแสดงว่ามุ่งหมายถึงสัตว์ซึ่งมิใช่สัตว์ป่าอยู่ในตัว.ไม่จำเป็นต้องกล่าวว่าเป็นสัตว์บ้านหรือสัตว์เลี้ยงแต่อย่างใด. จึงถือว่าฟ้องของโจทก์ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 35/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานเบียดบังเงิน: หน้าที่รับเงินต้องระบุชัดในฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่เกี่ยวกับการเงินและพัสดุทั่วไป การเบิกเงินทุกประเภท โดยมีหน้าที่ตรวจฎีกา หลักฐานใบสำคัญจ่าย ทำทะเบียนบัญชีงบเดือน รักษาเอกสารการรับจ่ายเงิน จำเลยปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เบียดบังเอาเงินที่รับไว้ไปเป็นประโยชน์ของตนเสีย เมื่อโจทก์ไม่ระบุว่าจำเลยมีหน้าที่รับเงินด้วย ต้องถือว่าการที่จำเลยรับเงินเป็นการนอกเหนือหน้าที่ จะลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 34/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่เจ้าพนักงาน – การรับเงิน – ความผิดมาตรา 157 ต้องระบุหน้าที่รับเงินชัดเจน
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่เกี่ยวกับการเงินและพัสดุทั่วไป การเบิกเงินทุกประเภท โดยมีหน้าที่ตรวจฎีกาหลักฐานใบสำคัญเบิกจ่าย ทำทะเบียนบัญชีงบเดือน รักษาเอกสารการรับจ่ายเงินจำเลยปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตเบียดบังเอาเงินที่รับไว้ไปเป็นประโยชน์ของตนเสีย เมื่อโจทก์ไม่ระบุว่าจำเลยมีหน้าที่รับเงินด้วยต้องถือว่าการที่จำเลยรับเงินเป็นการนอกเหนือหน้าที่ จะลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 34/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานเบียดบังเงิน แม้ไม่มีหน้าที่รับเงินโดยตรง ก็ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่เกี่ยวกับการเงินและพัสดุทั่วไป การเบิกเงินทุกประเภท โดยมีหน้าที่ตรวจฎีกา หลักฐานใบสำคัญเบิกจ่าย ทำทะเบียนบัญชีงบเดือน รักษาเอกสารการรับจ่ายเงิน จำเลยปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เบียดบังเอาเงินที่รับไว้ไปเป็นประโยชน์ของตนเสีย เมื่อโจทก์ไม่ระบุว่าจำเลยมีหน้าที่รับเงินด้วย ต้องถือว่าการที่จำเลยรับเงินเป็นการนอกเหนือหน้าที่ จะลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1638/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาไม่ชัดเจนวันกระทำผิด ทำให้ฟ้องไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย
ฟ้องที่มิได้บรรยายให้ชัดแจ้ง ไม่เป็นการแน่นอนว่าโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยเบียดบังทรัพย์ของโจทก์ไว้เป็นประโยชน์ของจำเลยเมื่อวัน เดือนใด ฯลฯ ไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1638/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาเบียดบังทรัพย์ไม่สมบูรณ์ เหตุไม่ระบุวันกระทำผิดชัดเจน
ฟ้องที่มิได้บรรยายให้ชัดแจ้ง ไม่เป็นการแน่นอนว่าโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยเบียดบังทรัพย์ของโจทก์ไว้เป็นประโยชน์ของจำเลยเมื่อวันเดือนใด ฯลฯ ไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1420/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาเกี่ยวกับไม้ต้องระบุรายละเอียดการเคลื่อนย้ายให้ชัดเจนตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ฯ มิฉะนั้นฟ้องไม่ชอบ
ฟ้องไม่ได้บรรยายข้อเท็จจริงตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ มาตรา 38 ข้อ 1 หรือข้อ 2 ที่ว่า นำไม้หรือของป่าที่ทำออกตามใบอนุญาตไปถึงที่อันระบุไว้ในใบอนุญาตแล้วหรือ ....ฯลฯ ซึ่งขาดองค์ความผิด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) ลงโทษฐานนำของป่าเคลื่อนที่โดยไม่มีใบเบิกทางตามมาตรา 39,71 ไม่ได้(อ้างนัยฎีกาที่ 341/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1420/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีป่าไม้ต้องระบุรายละเอียดการเคลื่อนย้ายไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ เพื่อให้มีองค์ความผิดตามกฎหมาย
ฟ้องไม่ได้บรรยายข้อเท็จจริงตามพระราชบัญญัติป่าไม้ ฯ มาตรา 38 ข้อ 1 หรือข้อ 2 ที่ว่า นำไม้หรือของป่าที่ทำออกตามใบอนุญาตไปถึงที่อันระบุไว้ในใบอนุญาตแล้ว หรือ.... ฯลฯ ซึ่งขาดองค์ความผิด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5) ลงโทษฐานนำของป่าเคลื่อนที่โดยไม่มีใบเบิกทางตามมาตรา 39,71 ไม่ได้(อ้างนัยฎีกาที่ 341/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1360/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาต้องระบุรายละเอียดทรัพย์สินที่ถูกปล้น เพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ชัดเจน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกสมคบกันปล้นทรัพย์ของนายชายและนางแอ๋ไปรวมราคา 3,344 บาท ตามบัญชีท้ายฟ้อง และบัญชีท้ายฟ้องระบุเพียงว่าทรัพย์ของนายชายราคา 1,344 บาท ทรัพย์ของนางแอ๋ราคา 2,000 บาท เมื่อโจทก์ไม่ได้ระบุว่าจำเลยปล้นทรัพย์อะไรไปบ้าง ฟ้องโจทก์จึงไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีตามมาตรา 158(5) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาจึงเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 25/2509)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 25/2509)