พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,524 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 565/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวการร่วมปล้นทรัพย์: การกระทำแจ้งสัญญาณอันตรายถือเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนและร่วมกระทำความผิด
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ร่วมมือกับพวกกระทำความผิดเมื่อทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยได้ร่วมกันกับพวกกระทำความผิดตามฟ้องแม้จำเลยมิได้ลงมือกระทำการปล้น จำเลยเพียงรับหน้าที่คอยแจ้งสัญญานอันตรายให้พวกทราบซึ่งเป็นการกระทำส่วนหนึ่งเพื่อให้การปล้นบรรลุผลสำเร็จเช่นนี้เรียกได้ว่าจำเลยเป็นตัวการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 แล้ว ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาจึงไม่ต่างกับฟ้องและการกระทำดังกล่าวของจำเลยมิใช่มีผิดเพียงฐานสมรู้ เพราะจำเลยมิใช่เพียงแต่ให้ความช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่การกระทำความผิดเท่านั้นแต่ได้ร่วมกับพวกวางแผนกระทำการปล้นและร่วมในการปล้นมาแต่ต้นโดยตลอด
ถึงแม้ในการปล้น จำเลยได้ร่วมรู้ถึงการที่พวกของจำเลยได้เตรียมอาวุธปืนมาด้วยก็ดี แต่การเตรียมอาวุธปืนมาอาจเพียงเพื่อสำหรับใช้ในการปล้นจำเลยอาจไม่ทราบถึงเจตนาของพวกตนที่ถึงกับจะใช้ปืนยิงเจ้าพนักงานด้วยก็ได้ทั้งขณะที่คนร้ายยิงเจ้าพนักงาน จำเลยก็ได้ถูกเจ้าพนักงานคุมตัวไว้ก่อนแล้วเช่นนี้จำเลยยังไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน คงมีความผิดฐานปล้นเท่านั้น
ถึงแม้ในการปล้น จำเลยได้ร่วมรู้ถึงการที่พวกของจำเลยได้เตรียมอาวุธปืนมาด้วยก็ดี แต่การเตรียมอาวุธปืนมาอาจเพียงเพื่อสำหรับใช้ในการปล้นจำเลยอาจไม่ทราบถึงเจตนาของพวกตนที่ถึงกับจะใช้ปืนยิงเจ้าพนักงานด้วยก็ได้ทั้งขณะที่คนร้ายยิงเจ้าพนักงาน จำเลยก็ได้ถูกเจ้าพนักงานคุมตัวไว้ก่อนแล้วเช่นนี้จำเลยยังไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน คงมีความผิดฐานปล้นเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 393/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความคำว่า 'กระบือ' ในฟ้องอาญา: ศาลฎีกาชี้ว่าเป็นสัตว์บ้านตามความเข้าใจของสามัญชน
ฟ้องโจทก์ที่กล่าวหาว่าจำเลยทำการฆ่ากระบือ ถือว่า จำเลยย่อมเข้าใจฟ้องได้ดีว่าเป็นกระบือบ้านและไม่อาจเข้าใจผิดว่า เป็นกระบือป่าไปได้
ส่วน พ.ร.บ. อากรการฆ่าสัตว์ พ.ศ. 2488 มาตรา 4 ที่วิเคราะห์ศัพท์คำว่า "สัตว์" ไว้ให้หมายความว่าโค กระบือ แพะ แกะ และสุกรที่ไม่ใช่สัตว์ป่านั้น ก็เพื่อประโยชน์ที่จะทราบว่า พ.ร.บ. นี้ไม่ประสงค์จะควบคุมไปถึงสัตว์ป่าด้วยเท่านั้น
ส่วน พ.ร.บ. อากรการฆ่าสัตว์ พ.ศ. 2488 มาตรา 4 ที่วิเคราะห์ศัพท์คำว่า "สัตว์" ไว้ให้หมายความว่าโค กระบือ แพะ แกะ และสุกรที่ไม่ใช่สัตว์ป่านั้น ก็เพื่อประโยชน์ที่จะทราบว่า พ.ร.บ. นี้ไม่ประสงค์จะควบคุมไปถึงสัตว์ป่าด้วยเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 393/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความคำว่า 'สัตว์' ใน พ.ร.บ.อากรการฆ่าสัตว์: โค กระบือ ย่อมเข้าใจว่าเป็นสัตว์บ้าน
ฟ้องโจทก์ที่กล่าวหาว่าจำเลยทำการฆ่ากระบือถือว่าจำเลยย่อมเข้าใจฟ้องได้ดีว่าเป็นกระบือบ้านและไม่อาจเข้าใจผิดว่าเป็นกระบือป่าไปได้
ส่วน พระราชบัญญัติฆ่าสัตว์ พ.ศ.2488 มาตรา 4 ที่วิเคราะห์ศัพท์คำว่า 'สัตว์' ไว้ให้หมายความว่าโค กระบือแพะแกะ และสุกรที่ไม่ใช่สัตว์ป่านั้นก็เพื่อประโยชน์ที่จะทราบว่า พระราชบัญญัติประสงค์ควบคุมไปถึงสัตว์ป่าด้วยเท่านั้น
ส่วน พระราชบัญญัติฆ่าสัตว์ พ.ศ.2488 มาตรา 4 ที่วิเคราะห์ศัพท์คำว่า 'สัตว์' ไว้ให้หมายความว่าโค กระบือแพะแกะ และสุกรที่ไม่ใช่สัตว์ป่านั้นก็เพื่อประโยชน์ที่จะทราบว่า พระราชบัญญัติประสงค์ควบคุมไปถึงสัตว์ป่าด้วยเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 312/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเล่นพนันสลากกินรวบไม่จำกัดรูปแบบ แม้เป็นการแทงเลขลอยตัวเดียวก็ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเล่นการพนันสลากกินรวบพนันเอาทรัพย์สินกันโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานโดยจำเลยเป็นลูกค้าซื้อสลากกินรวบจากเจ้ามือผู้ขายเช่นนี้ แม้โจทก์จะไม่ได้บรรยายในฟ้องไว้ด้วยว่าเป็นการพนันชนิดแทงเลขท้าย 3 ตัว หรือชนิดเลขลอยตัวเดียวโดยเฉพาะ เมื่อฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยเล่นการพนันโดยแทงสลากกินรวบชนิดเลขลอยตัวเดียว ก็ถือได้ว่าจำเลยเล่นการพนันสลากกินรวบอยู่นั่นเองและไม่ใช่เป็นเรื่องข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดั่งที่กล่าวในฟ้องเพราะการเล่นการพนันสลากกินรวบมิได้จำกัดลงไปโดยเฉพาะว่าจะต้องแทงเลขท้าย 3 ตัว หรือ 2 ตัว หรือตัวเดียวของรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาลแต่ประการเดียว ทั้งนี้ย่อมแล้วแต่เจ้ามือและลูกค้าจะตกลงเล่นการพนันโดยแทงสลากกินรวบกันตามความพอใจ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 312/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเล่นพนันสลากกินรวบ: ความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน แม้ไม่ระบุชนิดการแทง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเล่นการพนันสลากกินรวบ พนันเอาทรัพย์สินกันโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานโดยจำเลยเป็นลูกค้าซื้อสลากกินรวบจากเจ้ามือผู้ขายเช่นนี้ แม้โจทก์จะไม่ได้บรรยายในฟ้องไว้ด้วยว่าเป็นชนิดการพนันชนิดแทงเลขท้าย 3 ตัว หรือเลขลอยตัวเดียวโดยเฉพาะ เมื่อฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยเล่นการพนันโดยแทงสลากกินรวบชนิดเลขลอยตัวเดียว ก็ถือได้ว่าจำเลยเล่นการพนันสลากกินรวบอยู่นั่นเอง และไม่ใช่เป็นเรื่องข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดั่งที่กล่าวในฟ้อง เพราะการเล่นการพนันสลากกินรวบมิได้จำกัดลงไปโดยเฉพาะว่าจะต้องแทงเลขท้าย 3 ตัว หรือ 2 ตัว หรือตัวเดียวของรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาลแต่ประการเดียว ทั้งนี้ย่อมแล้วแต่เจ้ามือและลูกค้าจะตกลงเล่นการพนันโดยแทงสลากกินรวบกันตามความพอใจ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 108/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาไม่สมบูรณ์เมื่อไม่ระบุวันเวลาการกระทำผิดชัดเจน แม้เป็นการประมาณก็ต้องให้จำเลยเข้าใจได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยยักยอกม้าแต่ฟ้องโจทก์มิได้ระบุหรือกำหนดวันเวลาเกี่ยวแก่การกระทำของจำเลยไว้พอที่จำเลยจะเข้าใจได้โดยกล่าวไว้กำกวมว่า 'จำเลยได้รับมอบหมายม้าจากนางจิบ ให้เป็นผู้นำม้าตัวนี้ไปเลี้ยงรักษาฯ'แล้ว 'จำเลยนี้ได้บังอาจทุจริตเบียดบังยักยอกฯ'การมอบม้าได้มอบเมื่อไรในวันหรือหลังจากวันซื้อก็ไม่แน่นอนยิ่งข้อเท็จจริงตอนกล่าวหาจำเลยทำการยักยอกด้วยแล้ว ไม่ได้ความเลยว่าวันเวลาใดแม้แต่จะเป็นการกะประมาณเพียงที่จะให้เข้าใจจึงเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 108/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องไม่สมบูรณ์ – วันเวลาการกระทำความผิดไม่ชัดเจน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยยักยอกม้า แต่ฟ้องโจทก์มิได้ระบุหรือกำหนดวันเวลาเกี่ยวแก่การกระทำของจำเลยไว้พอที่จำเลยจะเข้าใจได้ โดยกล่าวไว้กำกวมว่า "จำเลยได้รับมอบหมายม้าจากนางจิบ ให้เป็นผู้นำม้าตัวนี้ไปเลี้ยงรักษาฯ" แล้ว "จำเลยนี้ได้บังอาจทุจริตเบียดบังยักยอกฯ" การมอบม้าได้มอบเมื่อไรในวันหรือหลังจากวันซื้อก็ไม่แน่นอน ยิ่งข้อเท็จจริงตอนกล่าวหาจำเลยทำการยักยอกด้วยแล้ว ไม่ได้ความเลยว่าวันเวลาใด แม้แต่จะเป็นการกะประมาณเพียงที่จะให้เข้าใจ จึงเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตาม ป.วิ.อาญามาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1529/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฉ้อโกงต้องแสดงความเท็จหรือปกปิดความจริง การรับสัญญาขายฝากไว้เพื่อเก็บรักษาไม่ถือเป็นเจตนาฉ้อโกง
ฟ้องโจทก์ที่บรรยายว่า จำเลยมาพูดหลอกลวงโจทก์โดยเจตนาทุจริตขอเอาหนังสือสัญญาขายฝากไปโดยหลอกลวงว่าจะเอาไปรักษาไว้ให้เพื่อความปลอดภัยในการสูญหาย เมื่อถึงกำหนดไถ่ถอนจะคืนให้และจะมาบอกให้ไปไถ่นั้น ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งความตามใน ม.341 แห่งประมวลกฎหมายอาญา เพราะถ้อยคำของจำเลยดังที่โจทก์ระบุมาในฟ้องนั้นเป็นแต่เพียงมีความหมายว่าจะเอาไปเก็บไว้ให้เท่านั้น ถึงแม้จะเป็นความจริงดังโจทก์กล่าวหา ก็เอาผิดแก่จำเลยตามฟ้องไม่ได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2502)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1529/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลอกลวงเพื่อเอาทรัพย์ การแสดงเจตนาที่ไม่ชัดเจนไม่ถึงขั้นหลอกลวง
ฟ้องโจทก์ที่บรรยายว่า จำเลยมาพูดหลอกลวงโจทก์โดยเจตนาทุจริตขอเอาหนังสือสัญญาขายฝากไปโดยหลอกลวงว่าจะเอาไปรักษาไว้ให้เพื่อความปลอดภัยในการสูญหาย เมื่อถึงกำหนดไถ่ถอนจะคืนให้และจะมาบอกให้ไปไถ่นั้น ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งตามความใน มาตรา341 แห่งประมวลกฎหมายอาญา เพราะถ้อยคำของจำเลยดังที่โจทก์ระบุมาในฟ้องนั้นเป็นแต่เพียงมีความหมายว่าจะเอาไปเก็บไว้ให้เท่านั้น ถึงแม้จะเป็นความจริงดังโจทก์กล่าวหา ก็เอาผิดแก่จำเลยตามโจทก์ฟ้องไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1199/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องครอบครองปรปักษ์ในที่ดินสาธารณะ การระบุสถานที่ในฟ้อง
บรรยายฟ้องว่า จำเลยเข้าทำรั้วกั้นอาณาเขตปลูกเรือนในที่ดินสาธารณะตำบลกระบี่ใหญ่ เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ และจำเลยให้การว่า จำเลยซื้อที่นี้มาจากนางเฟื่อง ดังนี้ ถือได้ว่า ฟ้องได้ระบุสถานที่พอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม