คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 158 (5)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,524 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1260/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องอาญา: การบรรยายการกระทำและรายละเอียดเพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อหา
โจทก์กล่าวฟ้องใจความว่าโคของเจ้าทรัพย์เพริดไปเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2499 ตอนกลางวันครั้นตกเวลากลางคืนในวันเดียวกันนั้นเองปรากฏว่าจำเลยมีโคตัวนั้นไว้ในความครอบครองโดยในระยะเวลาระหว่าง 2 ตอนดังกล่าวนั้นจำเลยจับโคที่เพริดไปนั้นได้เองแล้วกลับยักยอกเอาไว้เสียโดยทุจริตหรือรับของโจรโคตัวนั้นไว้
เช่นนี้เป็นฟ้องที่ไม่เคลือบคลุมเพราะโจทก์บรรยายการกระทำและรายละเอียดชัดเจนพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจได้ดีอยู่แล้ว ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158(5) และความผิดฐานยักยอกของหายในลักษณะเช่นนี้กับความผิดฐานรับของโจรเป็นความผิดที่เกี่ยวพันกันอยู่เช่นเดียวกันกับความผิดฐานลักทรัพย์กับความผิดฐานรับของโจร ซึ่งย่อมฟ้องได้ในลักษณะทำนองเดียวกันนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1260/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องคดีอาญา: ยักยอกทรัพย์/รับของโจร และความเกี่ยวพันของความผิด
โจทก์กล่าวฟ้องใจความว่าโคของเจ้าทรัพย์เพริดไปเมื่อวัน ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2499 ตอนกลางวัน ครั้นตกเวลากลางคืนในวันเดียวกันนั้นเองปรากฎว่าจำเลยมีโคตัวนั้นไว้ในความครอบครองโดยในระยะเวลาระหว่าง 2 ตอนดังกล่าวนั้น จำเลยจับโคที่เพริดไปนั้นได้เองแล้วกลับยักยอกเอาไว้เสียโดยทุจริตหรือรับของโจรโคตัวนั้นไว้
เช่นนี้เป็นฟ้องที่ไม่เคลือบคลุม เพราะโจทก์บรรยายการกระทำและรายละเอียดชัดเจนพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจได้ดีอยู่แล้ว ตาม ป.วิ.อาญา ม.158 (5) และความผิดฐานยักยอกของหายในลักษณะเช่นนี้ กับความผิดฐานรับของโจรเป็นความผิดที่เกี่ยวพันกันอยู่เช่นเดียวกันกับความผิดฐานลักทรัพย์กับความผิดฐานรับของโจร ซึ่งย่อมฟ้องได้ในลักษณะทำนองเดียวกันนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ฟ้องคดีอาญา: การแก้วันเกิดเหตุที่ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบและหลงข้อต่อสู้
การขอแก้วันกระทำผิดในฟ้องเมื่อสืบพยานโจทก์ไปแล้ว 3 ปาก โดยอ้างเหตุผลในคำร้องขอแก้ฟ้องว่าเพราะรายงานการสอบสวนของพนักงานสอบสวนบกพร่องทำให้อัยการโจทก์เข้าใจผิดถือได้ว่ามีเหตุสมควรและเป็นการขอแก้รายละเอียดในฟ้อง
เมื่อไม่เป็นเหตุให้จำเลยหลงข้อต่อสู้คดีแล้วโจทก์ย่อมขอแก้ได้(อ้างฎีกาที่ 390/2484 และที่ 364/2494)
ข้อที่ว่าการขอแก้ฟ้องจะทำให้จำเลยเสียเปรียบหรือไม่นั้นเมื่อปรากฏว่าในชั้นยื่นคำร้องขอให้ขังจำเลยก่อนฟ้องคดีนี้ก็ปรากฏว่าเหตุเกิดในวันที่ตรงกับที่ขอแก้ไขใหม่ ซึ่งจำเลยได้รับสำเนาไปแล้วไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ เพราะโจทก์ยังสืบพยานไม่หมดและจำเลยก็ยังได้นำสืบต่อสู้ตามวันที่โจทก์ขอแก้วันเกิดเหตุนั้นด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอแก้ฟ้องคดีอาญา: แก้ไขวันเกิดเหตุเมื่อสืบพยานแล้ว ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ
การขอแก้วันกระทำผิดในฟ้องเมื่อสืบพยานโจทก์ไปแล้ว 3 ปากโดยอ้างเหตุผลในคำร้องขอแก้ฟ้องว่า เพราะรายงานการสอบสวนของพนักงานบกพร่องทำให้อัยการโจทก์เข้าใจผิด ถือได้ว่ามีเหตุสมควรและเป็นการขอแก้รายละเอียดในฟ้อง เมื่อไม่เป็นเหตุให้จำเลยหลงข้อต่อสู้คดีแล้ว โจทก์ย่อมขอแก้ได้
(อ้างฎีกาที่ 390/2484 และที่ 364/2494)
ข้อที่ว่าการขอแก้ฟ้องจะทำให้จำเลยเสียเปรียบหรือไม่นั้น เมื่อปรากฎว่าในชั้นยื่นคำร้องขอให้ขังจำเลยก่อนฟ้องคดีนี้กับปรากฎว่าเหตุเกิดในวันที่ตรงกับที่ขอแก้ไขใหม่ซึ่งจำเลยได้รับสำเนาไปแล้ว ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ เพราะโจทก์ยังสืบพยานไม่หมด และจำเลยก็ยังได้นำสืบต่อสู้ตามวันที่โจทก์ขอแก้วันเกิดเหตุนั้นด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 993/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขัดขวางเจ้าพนักงานช่วยเหลือผู้ถูกควบคุมหลบหนี: การบรรยายฟ้องที่เพียงพอ
ข้อหาฐานขัดขวางเจ้าพนักงานตามกฎหมายลักษณะอาญา ม. 119 เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเข้าแก้ไขขัดขวางและผลักไสอันเป็นการให้อุปการะแก่นายปั่นให้หนีไปได้จากการควบคุมของนายพูนซึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้ควบคุมอยู่โดยชอบด้วยกฎหมายเช่นนี้เป็นการบรรยายความพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว เป็นฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 993/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดขวางเจ้าพนักงาน: การบรรยายฟ้องต้องชัดเจนเพียงพอให้จำเลยเข้าใจข้อหา
ข้อหาฐานขัดขวางเจ้าพนักงานตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.119 เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเข้าแก้ไขขัดขวางและผลักไสอันเป็นการให้อุปการะแก่นายปั่นให้หนีไปได้จากการควบคุมของนายพูนซึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้ควบคุมอยู่โดยชอบด้วยกฎหมายเช่นนี้เป็นการบรรยายความพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว เป็นฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 852/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การเชื่อมโยงเหตุการณ์และรายละเอียดที่ทำให้จำเลยเข้าใจข้อหา
โจทย์บรรยายฟ้องว่าเมื่อวันที่ 30 มี.ค.98 เวลากลางวัน มีผู้ร้ายลักกระบือ 1 ตัว ราคา 800 บาท ของโจทก์ซึ่งเลี้ยงไว้ตามทำเลไปรุ่งขึ้นเวลากลางวันจำเลยสมคบกับพวกฆ่ากระบือของโจทก์เอาเนื้อจำหน่ายอยู่ที่บ้านพันเหมือน เขตจังหวัดอุดรธานี ทั้งนี้โดยจำเลยสมคบกันลักกระบือของโจทก์ไปฆ่า มิฉะนั้นจำเลยก็สมคบกันรับกระบือของโจทก์รายนี้ไว้โดยรู้ว่าได้มาโดยทำผิดกฏหมายและระบุสถานที่เกิดเหตุเช่นนี้ เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ไม่เคลือบคลุมเพราะปรากฎว่าโจทก็ได้บรรยายการกระทำทั้งหลายเริ่มจากกระบือหายไปจากทำเลเลี้ยง แล้วจำเลยได้ฆ่ากระบือของโจทก์ในวันรุ่งขึ้น เกี่ยวโยงกันตามลำดับ ขอให้ศาลเลือกวินิจฉัยว่าเป็นความผิดฐานไร ดังนี้เป็นอันแสดงข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควรที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว การพิจารณาฟ้องต้องอ่านข้อความทั้งหมดประกอบกัน มิใช่จับเอาเฉพาะตอนหนึ่งตอนใดเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 852/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การเชื่อมโยงเหตุการณ์และรายละเอียดที่ทำให้จำเลยเข้าใจข้อหา
โจทก์บรรยายฟ้องว่าเมื่อวันที่ 30 มี.ค.98 เวลากลางวันมีผู้ร้ายลักกระบือ 1 ตัว ราคา 800 บาทของโจทก์ซึ่งเลี้ยงไว้ตามทำเลไปรุ่งขึ้นเวลากลางวันจำเลยสมคบกับพวกฆ่ากระบือของโจทก์เอาเนื้อจำหน่ายอยู่ที่บ้านพันเหมือน เขตจังหวัดอุดรธานี ทั้งนี้โดยจำเลยสมคบกันลักกระบือของโจทก์ไปฆ่า มิฉะนั้นจำเลยก็สมคบกันรับกระบือของโจทก์รายนี้ไว้โดยรู้ว่าได้มาโดยทำผิดกฎหมายและระบุสถานที่เกิดเหตุเช่นนี้ เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ ไม่เคลือบคลุม เพราะปรากฏว่าโจทก์ได้บรรยายการกระทำทั้งหลายเริ่มจากกระบือหายไปจากทำเลเลี้ยงแล้วจำเลยได้ฆ่ากระบือของโจทก์ในวันรุ่งขึ้นเกี่ยวโยงกันตามลำดับขอให้ศาลเลือกวินิจฉัยว่าเป็นความผิดฐานไรดังนี้เป็นอันแสดงข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้นๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควรที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว การพิจารณาฟ้องต้องอ่านข้อความทั้งหมดประกอบกัน มิใช่จับเอาเฉพาะตอนหนึ่งตอนใดเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 779/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การระบุเวลาที่กระทำผิดและการเข้าใจข้อหาของจำเลย
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยฝ่าฝืนไม่ไปรับการตรวจคัดเลือกเพื่อเข้ารับราชการทหารในวันที่ 8 เมษายน 2498 แม้จะไม่ได้กล่าวว่าเวลากระทำผิดเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืนก็ตาม เมื่อเป็นที่เข้าใจทั่วไปแล้วว่าการตรวจคัดเลือก ตามปกติเป็นเวลากลางวัน และในฟ้องกล่าวว่าจำเลยทราบกำหนดแล้ว ประกอบกับจำเลยรับสารภาพ ดังนี้ ย่อมแสดงว่าจำเลยเข้าใจข้อหาดีแล้วมิได้หลงข้อต่อสู้ ฟ้องโจทก์ที่เกี่ยวกับวันเวลาจึงสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5) แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 779/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การระบุเวลาทำผิดที่ไม่จำเป็นต้องละเอียด หากจำเลยเข้าใจข้อหา
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยฝ่าฝืนไม่ไปรับการตรวจคัดเลือก เพื่อเข้ารับราชการทหารในวันที่ 8 เมษายน 2498 แม้จะไม่ได้กล่าวว่าเวลากระทำผิดเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืนก็ตาม เมื่อเป็นที่เข้าใจทั่วไปแล้วว่าการตรวจคัดเลือก ตามปกติเป็นเวลากลางวัน และในฟ้องกล่าวว่าจำเลยทราบกำหนดแล้วประกอบกับจำเลยรับสารภาพ ดังนี้ ย่อมแสดงว่าจำเลยเข้าใจข้อหาดีแล้ว มิได้หลงข้อต่อสู้ ฟ้องโจทก์ที่เกี่ยวกับวันเวลาจึงสมบูรณ์ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 158(5) แล้ว.
of 153