พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,524 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 705/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การบรรยายความประมาทที่ชัดเจนเพียงพอต่อการเข้าใจของจำเลย
ฟ้องโจทก์บรรยายว่าจำเลยขับรถโดยประมาทปราศจากความระมัดระวังอันควรเป็นวิสัยปกติชน โดยจำเลยขับรถพ้นจากเส้นทางริมขอบถนนลาดยางพลัดตกลงไปในหลุมซึ่งห่างจากริมขอบถนนแล้วกระดอนหัวเบนกลับไปบนกลางถนนลาดยาง ชนรถยนต์ทางล้อหน้า ของผู้เสียหายขับสวนทางมาก การบรรยายฟ้องเช่นนี้จำเลยควรจะเข้าใจได้ว่าความประมาทของ จำเลยก็คือขับรถออกนอกทางตกลงไปในหลุมแก้วกะดอนขึ้นตรงเข้าชนรถยนต์ของผู้เสียหาย จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม ป.วิ.อาญา ม.158(5).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 705/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของฟ้องอาญา: การบรรยายความประมาทที่จำเลยเข้าใจได้เพียงพอต่อการรับสารภาพ
ฟ้องโจทก์บรรยายว่าจำเลยขับรถโดยประมาทปราศจากความระมัดระวังอันควรเป็นวิสัยปกติชนโดยจำเลยขับรถพ้นจากเส้นทางริมขอบถนนลาดยางพลัดตกลงไปในหลุมซึ่งห่างจากริมขอบถนนแล้วกระดอนเบนหัวกลับไปบนกลางถนนลาดยางชนรถยนต์ทางล้อหน้าของผู้เสียหายขับสวนทางมา การบรรยายฟ้องเช่นนี้จำเลยควรจะเข้าใจได้แล้วว่าความประมาทของจำเลยก็คือขับรถออกนอกทางตกลงไปในหลุมแล้วกระดอนขึ้นตรงเข้าชนรถยนต์ของผู้เสียหายจึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 588/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุม, การรับฟังพยานผู้เชี่ยวชาญ, และประเภทหนังสือสำคัญทางราชการ: ผลต่อความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร
จำเลยตัดฟ้องว่าโจทก์เคลือบคลุม (อ้างว่าข้อ 1.ค.กล่าวว่าจำเลยทั้งสองได้บังอาจสมคบกันใช้อุบายหลอกลวงกล่าวเท็จแก่นายเจริญ ซึ่งแสดงว่าได้ใช้อุบายหลอกลวงกล่าวเท็จทั้งสองคน แต่ในข้อเดียวกันก็กล่าวว่าจำเลยที่ 2 แต่คนเดียวเป็นผู้กล่าวว่ากองทัพอากาศได้ใช้ให้จำเลยมาเก็บเงิน ฟ้องเช่นนี้เป็นสองแง่สองคม ทำให้จำเลยเสียเปรียบและหลงข้อต่อสู้) แต่เมื่ออ่านฟ้องแล้วได้ความว่าโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยทั้ง 2 สมคบกันทำใบเสร็จปลอมขึ้นหรือมิฉะนั้นก็สมคบกันใช้หนังสือปลอม โดยจำเลยที่ 1 ใช้ให้ จำเลยที่ 2 นำใบเสร็จปลอมไปเก็บเงิน จำเลยเข้าใจได้ดีไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบหรือหลงข้อต่อสู้จึงไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
เมื่อพยานมาเบิกความยังศาลโดยถูกโจทก์อ้างในฐานเป็นผู้ชำนาญการตรวจลายมือ (ตามป.วิ.อาญา ม.243 วรรคแรก) ศาลมิได้สั่งให้พยานทำความเห็นเป็นหนังสือ ดังนี้พยานจึงไม่อยู่ในบังคับต้องส่งสำเนาเอกสารการตรวจลายมือให้จำเลยก่อน 3 วันตาม ป.วิ.อาญา ม.243 วรรค 2
เมื่อโจทก์ไม่ได้สืบให้เห็นว่าหนังสือข่าวทหารอากาศเป็นส่วนราชการในกองทัพอากาศอย่างไรรายรับรายจ่ายของหนังสือนี้ก็ไม่ปรากฏว่าใช้จ่ายในเงินของราชการหรือไม่ประการใด ดังนี้แม้กองทัพอากาศจะเป็นเจ้าของและรองเสนาธิการทหารอากาศเป็นบรรณาธิการก็ดี ก็ยังฟังไม่ได้ว่าเป็นหนังสือราชการของกองทัพอากาศ จำเลยปลอมใบเสร็จรับเงินหนังสือข่าวดังกล่าวจึงมีความผิดตาม ม.224 ไม่ใช่ 225.
เมื่อพยานมาเบิกความยังศาลโดยถูกโจทก์อ้างในฐานเป็นผู้ชำนาญการตรวจลายมือ (ตามป.วิ.อาญา ม.243 วรรคแรก) ศาลมิได้สั่งให้พยานทำความเห็นเป็นหนังสือ ดังนี้พยานจึงไม่อยู่ในบังคับต้องส่งสำเนาเอกสารการตรวจลายมือให้จำเลยก่อน 3 วันตาม ป.วิ.อาญา ม.243 วรรค 2
เมื่อโจทก์ไม่ได้สืบให้เห็นว่าหนังสือข่าวทหารอากาศเป็นส่วนราชการในกองทัพอากาศอย่างไรรายรับรายจ่ายของหนังสือนี้ก็ไม่ปรากฏว่าใช้จ่ายในเงินของราชการหรือไม่ประการใด ดังนี้แม้กองทัพอากาศจะเป็นเจ้าของและรองเสนาธิการทหารอากาศเป็นบรรณาธิการก็ดี ก็ยังฟังไม่ได้ว่าเป็นหนังสือราชการของกองทัพอากาศ จำเลยปลอมใบเสร็จรับเงินหนังสือข่าวดังกล่าวจึงมีความผิดตาม ม.224 ไม่ใช่ 225.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 588/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุม, พยานผู้เชี่ยวชาญ, และหนังสือสำคัญทางราชการ: การพิจารณาความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร
จำเลยตัดฟ้องว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม (อ้างว่าข้อ 1.ค. กล่าวว่าจำเลยทั้งสองได้บังอาจสมคบกันใช้อุบายหลอกลวงกล่าวเท็จแก่นายเจริญ ซึ่งแสดงว่าได้ใช้อุบายหลอกลวงกล่าวเท็จทั้งสองคนแต่ในข้อเดียวกันก็กล่าวว่าจำเลยที่ 2 แต่คนเดียวเป็นผู้กล่าวว่ากองทัพอากาศได้ใช้ให้จำเลยมาเก็บเงินฟ้องเช่นนี้เป็นสองแง่สองคมทำให้จำเลยเสียเปรียบและหลงข้อต่อสู้) แต่เมื่ออ่านฟ้องแล้วได้ความว่าโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยทั้ง 2 สมคบกันทำใบเสร็จปลอมขึ้นหรือมิฉะนั้นก็สมคบกันใช้หนังสือปลอมโดยจำเลยที่ 1 ใช้ให้จำเลยที่ 2 นำใบเสร็จปลอมไปเก็บเงินจำเลยเข้าใจได้ดีไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบหรือหลงข้อต่อสู้จึงไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
เมื่อพยานมาเบิกความยังศาลโดยถูกโจทก์อ้างในฐานเป็นผู้ชำนาญการตรวจลายมือ (ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 243 วรรคแรก) ศาลมิได้สั่งให้พยานทำความเห็นเป็นหนังสือดังนี้พยานจึงไม่อยู่ในบังคับต้องส่งสำเนาเอกสารการตรวจลายมือให้จำเลยก่อน 3 วันตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 243 วรรคสอง
เมื่อโจทก์ไม่ได้สืบให้เห็นว่าหนังสือข่าวทหารอากาศเป็นส่วนราชการในกองทัพอากาศอย่างไรรายรับรายจ่ายของหนังสือนี้ก็ไม่ปรากฏว่าใช้จ่ายในเงินของราชการหรือไม่ ประการใดดังนี้แม้กองทัพอากาศจะเป็นเจ้าของและรองเสนาธิการทหารอากาศเป็นบรรณาธิการก็ดีก็ยังฟังไม่ได้ว่าเป็นหนังสือราชการของกองทัพอากาศจำเลยปลอมใบเสร็จรับเงินหนังสือข่าวดังกล่าวจึงมีความผิดตาม มาตรา 224 ไม่ใช่ 225
เมื่อพยานมาเบิกความยังศาลโดยถูกโจทก์อ้างในฐานเป็นผู้ชำนาญการตรวจลายมือ (ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 243 วรรคแรก) ศาลมิได้สั่งให้พยานทำความเห็นเป็นหนังสือดังนี้พยานจึงไม่อยู่ในบังคับต้องส่งสำเนาเอกสารการตรวจลายมือให้จำเลยก่อน 3 วันตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 243 วรรคสอง
เมื่อโจทก์ไม่ได้สืบให้เห็นว่าหนังสือข่าวทหารอากาศเป็นส่วนราชการในกองทัพอากาศอย่างไรรายรับรายจ่ายของหนังสือนี้ก็ไม่ปรากฏว่าใช้จ่ายในเงินของราชการหรือไม่ ประการใดดังนี้แม้กองทัพอากาศจะเป็นเจ้าของและรองเสนาธิการทหารอากาศเป็นบรรณาธิการก็ดีก็ยังฟังไม่ได้ว่าเป็นหนังสือราชการของกองทัพอากาศจำเลยปลอมใบเสร็จรับเงินหนังสือข่าวดังกล่าวจึงมีความผิดตาม มาตรา 224 ไม่ใช่ 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1719/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีพนัน: การกำหนดเวลาในฟ้อง, การลงโทษฐานตัวการ, และขอบเขตการพิจารณาคดี
เกี่ยวกับการกระทำผิดในคดีอาญาเล่นการพนันสลากกินรวบโจทก์บรรยายฟ้องว่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2496 ตลอดจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2496 เวลากลางวันและกลางคืนแม้จะกล่าวเป็นเป็นเวลานานถึง 9 เดือนก็ตาม จำเลยก็พอเข้าใจข้อกล่าวหาได้ดีแล้ว นอกจากนั้นโจทก์ยังได้ยืนยันกล่าวว่าจำเลยได้ขายสลากประจำวันที่ 30 กันยายน 2496 อีกด้วย ดังนี้ฟ้องของโจทก์ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
และในฟ้องของโจทก์ก็แสดงว่าจำเลยทุกคนเป็นตัวการกระทำผิดในคดีนี้ เมื่อข้อเท็จจริงโจทก์สืบได้สม แม้โจทก์มิได้อ้าง ก.ม.อาญา ม.63 ศาลก็มีอำนาจลงโทษจำเลยทั้งหมดฐานเป็นตัวการได้ ไม่เป็นการพิจารณาเกินคำขอ
และในฟ้องของโจทก์ก็แสดงว่าจำเลยทุกคนเป็นตัวการกระทำผิดในคดีนี้ เมื่อข้อเท็จจริงโจทก์สืบได้สม แม้โจทก์มิได้อ้าง ก.ม.อาญา ม.63 ศาลก็มีอำนาจลงโทษจำเลยทั้งหมดฐานเป็นตัวการได้ ไม่เป็นการพิจารณาเกินคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1719/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีพนัน: การกำหนดเวลาในฟ้อง, ตัวการ, และการลงโทษ
เกี่ยวกับการกระทำผิดในคดีอาญาเล่นการพนันสลากกินรวบโจทก์บรรยายฟ้องว่าตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.2496 ตลอดจนถึงวันที่30 กันยายน 2496 เวลากลางวันและกลางคืนแม้จะกล่าวเป็นเวลานานถึง 9 เดือนก็ตาม จำเลยก็พอเข้าใจข้อกล่าวหาได้ดีแล้ว นอกจากนั้นโจทก์ยังได้ยืนยันกล่าวว่าจำเลยได้ขายสลากประจำวันที่ 30 กันยายน 2496 อีกด้วย ดังนี้ฟ้องของโจทก์ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
และในฟ้องของโจทก์ก็แสดงว่าจำเลยทุกคนเป็นตัวการกระทำผิดในคดีนี้ เมื่อข้อเท็จจริงโจทก์สืบได้สม แม้โจทก์มิได้อ้าง กฎหมายอาญา มาตรา 63 ศาลก็มีอำนาจลงโทษจำเลยทั้งหมดฐานเป็นตัวการได้ ไม่เป็นการพิจารณาเกินคำขอ
และในฟ้องของโจทก์ก็แสดงว่าจำเลยทุกคนเป็นตัวการกระทำผิดในคดีนี้ เมื่อข้อเท็จจริงโจทก์สืบได้สม แม้โจทก์มิได้อ้าง กฎหมายอาญา มาตรา 63 ศาลก็มีอำนาจลงโทษจำเลยทั้งหมดฐานเป็นตัวการได้ ไม่เป็นการพิจารณาเกินคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1719/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีพนัน: ข้อจำกัดด้านเวลาฟ้อง, ตัวการร่วม, และการลงโทษตามพยานหลักฐาน
เกี่ยวกับการกระทำผิดในคดีอาญาเล่นการพนันสลากกินรวบโจทก์บรรยายฟ้องว่าตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.2496 ตลอดจนถึงวันที่30 กันยายน 2496 เวลากลางวันและกลางคืนแม้จะกล่าวเป็นเวลานานถึง 9 เดือนก็ตาม จำเลยก็พอเข้าใจข้อกล่าวหาได้ดีแล้ว นอกจากนั้นโจทก์ยังได้ยืนยันกล่าวว่าจำเลยได้ขายสลากประจำวันที่ 30 กันยายน 2496 อีกด้วย ดังนี้ฟ้องของโจทก์ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
และในฟ้องของโจทก์ก็แสดงว่าจำเลยทุกคนเป็นตัวการกระทำผิดในคดีนี้ เมื่อข้อเท็จจริงโจทก์สืบได้สม แม้โจทก์มิได้อ้าง กฎหมายอาญา มาตรา 63 ศาลก็มีอำนาจลงโทษจำเลยทั้งหมดฐานเป็นตัวการได้ ไม่เป็นการพิจารณาเกินคำขอ
และในฟ้องของโจทก์ก็แสดงว่าจำเลยทุกคนเป็นตัวการกระทำผิดในคดีนี้ เมื่อข้อเท็จจริงโจทก์สืบได้สม แม้โจทก์มิได้อ้าง กฎหมายอาญา มาตรา 63 ศาลก็มีอำนาจลงโทษจำเลยทั้งหมดฐานเป็นตัวการได้ ไม่เป็นการพิจารณาเกินคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1572/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุวันเวลาการกระทำความผิดในฟ้องอาญา เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ จำเป็นต้องชัดเจน
ในคดีเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ฟ้องของโจทก์ไม่ได้กล่าวระบุวันเวลาที่จำเลยคิดทุจริตยักยอกเอาทรัพย์ไป คงกล่าวแต่วันเวลาที่จำเลยได้รับมอบหมายทรัพย์เท่านั้น ทั้งไม่อาจเข้าใจได้ว่าจำเลยยักยอกทรัพย์ที่ได้รับมอบหมายไปวันใด ดังนี้ฟ้องของโจทก์ย่อมไม่สมบูรณ์ตาม กฎหมาย (อ้างฎีกาที่ 117/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1572/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ไม่สมบูรณ์ หากไม่ระบุวันเวลาการกระทำผิด
ในคดีเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ฟ้องของโจทก์ไม่ได้กล่าวระบุวันเวลาที่จำเลยคิดทุจริตยักยอกเอาทรัพย์ไป คงกล่าวแต่วันเวลาที่จำเลยได้รับมอบหมายทรัพย์เท่านั้น ทั้งไม่อาจเข้าใจได้ว่าจำเลยยักยอกทรัพย์ที่ได้รับมอบหมายไปวันใด ดังนี้ฟ้องของโจทก์ย่อมไม่สมบูรณ์ตาม กฎหมาย (อ้างฎีกาที่ 117/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1572/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ไม่สมบูรณ์ หากไม่ระบุวันเวลาที่กระทำผิด
ในคดีเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ฟ้องของโจทก์ไม่ได้กล่าวระบุวันเวลาที่จำเลยคิดทุจริตยักยอกเอาทรัพย์ไปคงกล่าวแต่วันเวลาที่จำเลยได้รับมอบหมายทรัพย์เท่านั้น ทั้งไม่อาจเข้าใจได้ว่าจำเลยยักยอกทรัพย์ที่ได้รับมอบหมายไปวันใด ดังนี้ฟ้องของโจทก์+ไม่สมบูรณ์ตาม ก.ม.
(อ้างฎีกาที่ 117/2492)
(อ้างฎีกาที่ 117/2492)