พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,524 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1429/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องยักยอกทรัพย์ที่ขาดความชัดเจนในวันเวลาที่กระทำความผิด ทำให้ฟ้องไม่ชัดเจน
ฟ้องบรรยายว่าได้ฝากทรัพย์ไว้แก่จำเลย ต่อมาเดือน8 ปีนี้ตรงกับเดือนกรกฎาคม 2493 โจทก์ไปขอรับทรัพย์ที่ฝากคืน จำเลยไม่คืนให้โดยเจตนาทุจริตยักยอกเอาทรัพย์ไว้เพื่อประโยชน์ส่วนตนและผู้อื่น ขอให้ลงโทษ ดังนี้มิได้กล่าวว่าจำเลยยักยอกทรัพย์วันใด หรือระหว่างวันเดือนใด จึงได้ชื่อว่าเป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1427/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องยักยอกทรัพย์ไม่ชัดเจนวันเวลาที่กระทำผิด ทำให้ฟ้องเคลือบคลุม
ฟ้องบรรยายว่าได้ฝากทรัพย์ไว้แก่จำเลย ต่อมาเดือน 8 ปีนี้ตรงกับเดือนกรกฎาคม 2493 โจทก์ไปขอรับทรัพย์ที่ฝากคืน จำเลยไม่คืนให้โดยเจตนาทุจริตยักยอกเอาทรัพย์ไว้เพื่อประโยชน์ส่วนตนและผู้อื่น ขอให้ลงโทษ ดังนี้ มิได้กล่าวว่าจำเลยยักยอกทรัพย์วันใด หรือระหว่างวันเดือนใด จึงได้ชื่อว่าเป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1399/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องไม่ชัดเจนต้องระบุรายละเอียดการประมาทและจุดชน เพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อหา
ฟ้องบรรยายว่า จำเลยขับรถยนต์โดยประมาทปราศจากความระมัดระวังอันควรเป็นวิสัยของปรกติชน เป็นเหตุให้ชนรถยนต์ของผู้มีชื่อเสียหาย และทำให้คนที่นั่งมาบนรถถึงบาดเจ็บสาหัสและถึงตาย มิได้บรรยายว่าจำเลยประมาทโดยอาการอย่างไร และที่ว่ารถจำเลยชนรถยนต์ผู้มีชื่อก็ไม่บรรยายว่าชนถูกส่วนไหนอันจะเป็นทางให้เห็นว่าประมาทหรือไม่ ดังนี้ เป็นฟ้องไม่ชัดเจนพอที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี จึงเป็นฟ้องไม่ถูกต้องด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพศาลก็ต้องยกฟ้อง (อ้างฎีกาที่ 241/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1399/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาไม่ชัดเจน จำเลยไม่เข้าใจข้อหา แม้รับสารภาพ ศาลต้องยกฟ้อง
ฟ้องบรรยายว่า จำเลยขับรถยนต์โดยประมาทปราศจากความระมัดระวัง อันควรเป็นวิสัยของปรกติชนเป็นเหตุให้ชนรถยนต์ของผู้มีชื่อเสียหาย และทำให้คนที่นั่งมาบนรถถึงบาดเจ็บสาหัสและถึงตาย มิได้บรรยายว่าจำเลยประมาทโดยอาการอย่างไร และที่ว่ารถจำเลยชนรถยนต์ผู้มีชื่อก็ไม่บรรยายว่าชนถูกส่วนไหนอันจะเป็นทางให้เห็นว่าประมาทหรือไม่ ดังนี้ เป็นฟ้องไม่ชัดเจนพอที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี จึงเป็นฟ้องไม่ถูกต้องด้วย ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 (5) แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพศาลก็ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 868-869/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุเวลาเบิกความเท็จในฟ้อง การฟ้องไม่จำเป็นต้องระบุเวลาช่วงกลางวัน/กลางคืน
ฟ้องหาว่าจำเลยเบิกความเท็จในศาลนั้น โจทก์ระบุเพียงวันเดือนปีที่หาว่าจำเลยเบิกความเท็จ แม้ไม่ได้ระบุว่าเวลากลางวันหรือกลางคืนก็พอเข้าใจได้ว่าหมายถึงเวลากลางวันจึงถือว่าฟ้องเช่นนี้เป็นฟ้องที่สมบูรณ์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 868-869/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีเบิกความเท็จ การระบุเวลา และการเข้าใจข้อหา
ฟ้องหาว่าจำเลยเบิกความเท็จในศาลนั้น โจทก์ระบุเพียงวันเดือนปีที่หาว่าจำเลยเบิกความเท็จ แม้ไม่ได้ระบุว่าเวลากลางวันหรือกลางคืน ก็พอเข้าใจได้ว่าหมายถึงเวลากลางวัน จึงถือว่าฟ้องเช่นนี้เป็นฟ้องที่สมบูรณ์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 741/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบิกความเท็จในสัญญาซื้อขายและการกันไม่ให้ทายาทฟ้องแบ่งมรดก
ฟ้องบรรยายมีใจความว่าโจทก์ได้ทำหนังสือสัญญาจะขายนาให้จำเลยโดยโจทก์จำเลยคบคิดกันจะกันไม่ให้ทายาทอื่นฟ้องแบ่งเอานารายนี้จากโจทก์ต่อมาจำเลยกลับฟ้องโจทก์ ให้โอนนาให้จำเลยตามสัญญาที่ทำขึ้นแล้วจำเลยอ้างหนังสือนั้นเป็นพยานและเบิกความเท็จว่าได้จ่ายเงินให้โจทก์หมดแล้วไม่ได้หักไว้ 2,000 บาทตามที่เป็นจริง ดังนี้ยังไม่เป็นฟ้องอันจะเป็นผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 155 หรือ 304
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 741/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องฉ้อโกงและเบิกความเท็จ: การบรรยายฟ้องต้องชัดเจนถึงเจตนาทุจริตและข้อเท็จจริงที่สำคัญ
ฟ้องบรรยายมีใจความว่าโจทก์ได้ทำหนังสือสัญญาจะขายนาให้จำเลย โดยโจทก์จำเลยคบคิดกันจะกันไม่ให้ทายาทอื่นฟ้องแบ่งเอานารายนี้จากโจทก์ต่อมาจำเลยกลับฟ้องโจทก์ ให้โอนนาให้จำเลยตามสัญญาที่ทำขึ้น แล้วจำเลยอ้างหนังสือนั้นเป็นพยานและเบิกความเท็จว่าได้จ่ายเงินให้โจทก์หมดแล้ว ไม่ได้หักไว้ 2000 บาทตามที่เป็นจริง ดังนี้ ยังไม่เป็นฟ้องอันจะเป็นผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 155 หรือ 304
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1892/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญามาตรา 136 ต้องระบุตัวบุคคลที่ถูกบังคับให้ส่งทรัพย์ชัดเจน เพื่อให้จำเลยสามารถต่อสู้คดีได้อย่างถูกต้อง
ฟ้องหาว่า จำเลยกระทำผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา136 ซึ่งมีสาระสำคัญว่าจำเลยกระทำการบังคับบุคคลคนหนึ่งให้ส่งทรัพย์ให้แก่จำเลยนั้น ฟ้องจะต้องระบุถึงบุคคลนั้น พอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี จะระบุในฟ้องแต่เพียงว่าจำเลยบังคับผู้มีชื่อให้ส่งทรัพย์ให้แก่จำเลยเท่านั้นไม่ระบุชื่อ จำเลยย่อมไม่สามารถจะรู้ได้ว่าจำเลยต้องหาว่ากระทำการบังคับใคร ทำให้จำเลยมืดมนไม่รู้ที่จะแก้ข้อหาส่วนนี้อย่างไรได้จึงเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1892/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความไม่ชัดเจนของบุคคลถูกบังคับในฟ้องอาญา ทำให้จำเลยไม่สามารถต่อสู้คดีได้อย่างถูกต้อง
ฟ้องหาว่าจำเลยกระทำผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 136 ซึ่งมีสาระสำคัญว่าจำเลยกระทำการบังคับบุคคลคนหนึ่งให้ส่งทรัพย์ให้แก่จำเลยนั้น ฟ้องจะต้องระบุถึงบุคคลนั้น พอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี จะระบุในฟ้องแต่เพียงว่าจำเลยบังคับผู้มีชื่อให้ส่งทรัพย์ให้แก่จำเลยเท่านั้น(ไม่ระบุ) จำเลยย่อมไม่สามารถจะรู้ได้ว่าจำเลยต้องหาว่ากระทำการบังคับใคร ทำให้จำเลยมืดมนต์ไม่รู้ที่จะแก้ข้อหาส่วนนี้อย่างไรได้ จึงเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158(5)