คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 158 (5)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,524 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 678/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค จำเป็นต้องบรรยายรายละเอียดให้ชัดเจนว่าสินค้าที่ถูกกล่าวหามีสถานะเป็นสินค้าควบคุมจริง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคว่า จำเลยขายข้าวสารเหนียวให้แก่ผู้ไม่มีบัตรปันส่วนโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการจังหวัดสงขลา แต่ในฟ้องไม่ได้บรรยายให้ปรากฏว่าข้าวสารเหนียวเป็นของที่คณะกรรมการประกาศควบคุมและคณะกรรมการได้ตั้งคณะกรรมการจังหวัดสงขลาเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการควบคุมข้าวเหนียวนั้นแทน ฟ้องของโจทก์ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงทั้งสองประการนั้น ทั้งประกาศคณะกรรมการจังหวัดสงขลาจะมีข้อความกล่าวอ้างอาศัยอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายอย่างใด โจทก์มิได้ยื่นสำเนาให้ปรากฏ ดังนี้ถือว่าฟ้องยังไม่พอฟังว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 637/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินไม่ใช่เจ้าพนักงานตามกฎหมายอาญา การลงโทษฐานยักยอกทรัพย์
เจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินไม่ใช่เจ้าพนักงานตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 131
ฟ้องคดีอาญาฐานเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินยักยอกเงินในหน้าที่ ที่ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม และแม้โจทก์จะขอให้ลงโทษตามมาตรา 131 มา แต่ศาลลงโทษตามมาตรา 319(3) ซึ่งมีโทษเบากว่าได้
ศาลชั้นต้นจำคุกจำเลย 5 ปี ศาลอุทธรณ์แก้บทและแก้โทษจำคุกเป็น 4 ปี ดังนี้เป็นแก้ไขมาก ไม่ต้องห้ามฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 637/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินไม่ใช่เจ้าพนักงานตามกฎหมายอาญา, ศาลลงโทษตามบทที่เบากว่าได้
เจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินไม่ใช่เจ้าพนักงานตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 131
ฟ้องคดีอาญาฐานเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินยักยอกเงินในหน้าที่ ที่ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุมและแม้โจทก์จะขอให้ลงโทษตามมาตรา 131 มา แต่ศาลลงโทษตามมาตรา 319(3) ซึ่งมีโทษเบากว่าได้
ศาลชั้นต้นจำคุกจำเลย 5 ปี ศาลอุทธรณ์แก้บทและแก้โทษจำคุกเป็น 4 ปี ดังนี้เป็นแก้ไขมาก ไม่ต้องห้ามฎีกาตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 200

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 564/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีทำร้ายร่างกายสาหัส: ศาลต้องพิจารณาความจริงก่อน หากโจทก์ฟ้องก่อนครบ 20 วัน
การที่โจทก์ฟ้องจำเลยหาว่า ทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสไม่สามารถทำมาหาเลี้ยงชีพได้ตามปกติเกินกว่า 20 วัน.โดยโจทก์ยื่นฟ้องเสียก่อนครบ20 วันนับจากวันเกิดเหตุ ดังนี้ ต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่โจทก์นำสืบก่อนว่าจะถึงสาหัสจริงตามฟ้องหรือไม่ ศาลจะงดสืบพยานโจทก์และลงโทษจำเลยเพียงฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 564/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีทำร้ายร่างกาย: ศาลต้องพิจารณาความรุนแรงบาดเจ็บก่อนลงโทษ แม้ฟ้องก่อนครบ 20 วัน
การที่โจทก์ฟ้องจำเลยหาว่า ทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสไม่สามารถทำมาหาเลี้ยงชีพได้ตามปกติเกินกว่า 20 วันโดยโจทก์ยื่นฟ้องเสียก่อนครบ 20 วัน นับจากวันเกิดเหตุ ดังนี้ ต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่โจทก์นำสืบก่อนว่าจะถึงสาหัสจริงตามฟ้องหรือไม่ ศาลจะงดสืบพยานโจกท์และลงโทษจำเลยเพียงฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 512/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งปริมาณข้าวเปลือกที่ถูกต้องตามประกาศ และความชัดเจนของข้อหาในคำฟ้อง
คำว่า เวลาตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158(5) นั้นหมายความถึงวันเดือนปีด้วย ไม่หมายเฉพาะเวลากลางวันหรือกลางคืน
คำฟ้องที่ไม่กล่าวถึงเวลากลางวันหรือกลางคืนนั้น จะเคลือบคลุมหรือไม่ ต้องพิจารณาเป็นเรื่อง ๆ ไปว่า ฟ้องนั้นกล่าวถึงเวลาพอให้เข้าใจข้อหาได้หรือไม่
ประกาศที่ให้ผู้ครอบคอรงข้าวแต่จำนวนเท่านั้นเกวียนแจ้งปริมาณสถานที่เก็บนั้น ผู้ที่ครอบครองข้าวของผู้อื่นอยู่ด้วยก็ต้องแจ้งปริมาณตามจำนวนที่ครอบครองทั้งหมด จะแก้ตัวว่าแจ้งเฉพาะของตนนั้น ไม่พ้นผิดฐานแจ้งปริมาณเท็จ และข้าวเปลือกของกลางต้องริบทั้งหมด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 512/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งปริมาณข้าวเปลือกที่ถูกต้องตามกฎหมาย และการพิจารณาความเข้าใจข้อหาจากคำฟ้อง
คำว่า เวลาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158(5)นั้นหมายความถึงวันเดือนปีด้วย ไม่หมายเฉพาะเวลากลางวันหรือกลางคืน
คำฟ้องที่ไม่กล่าวถึงเวลากลางวันหรือกลางคืนนั้น จะเคลือบคลุมหรือไม่ต้องพิจารณาเป็นเรื่องๆ ไปว่า ฟ้องนั้นกล่าวถึงเวลาพอให้เข้าใจข้อหาได้ดีหรือไม่
ประกาศที่ให้ผู้ครอบครองข้าวแต่จำนวนเท่านั้นเกวียนแจ้งปริมาณสถานที่เก็บนั้น ผู้ที่ครอบครองข้าวของผู้อื่นอยู่ด้วยก็ต้องแจ้งปริมาณตามจำนวนที่ครอบครองทั้งหมด จะแก้ตัวว่าแจ้งเฉพาะของตนนั้น ไม่พ้นผิดฐานแจ้งปริมาณเท็จและข้าวเปลือกของกลางต้องริบทั้งหมด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีเจ้าพนักงานเรียกสินบน: ผู้ถูกเรียกทรัพย์มีอำนาจฟ้อง และฟ้องไม่เคลือบคลุม
ฟ้องคดีอาญาฐานเจ้าพนักงานเรียกสินบล ที่ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
ผู้ที่ถูกจำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานเรียกเอาทรัพย์ โดยที่ไม่จำต้องเสีย นับว่าเป็นผู้เสียหายที่มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเจ้าพนักงานเรียกสินบน: ผู้ถูกเรียกทรัพย์เป็นผู้เสียหายมีอำนาจฟ้องได้ แม้ไม่เสียทรัพย์จริง
ฟ้องคดีอาญาฐานเจ้าพนักงานเรียกสินบน ที่ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
ผู้ที่ถูกจำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานเรียกเอาทรัพย์ โดยที่ไม่จำจะต้องเสียนับว่าเป็นผู้เสียหายที่มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 398/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษอาญาต้องสอดคล้องกับฟ้อง โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส แต่พยานไม่สนับสนุน ศาลลงโทษฐานทำร้ายร่างกายไม่ถึงบาดเจ็บ
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยใช้กำลังกายกลุ่มรุมกันทำร้าย ชกต่อย ถีบ เตะ ผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัส ทางพิจารณาได้ความเพียงว่า จำเลยทำร้ายร่างกายผู้เสียหายไม่ถึงบาดเจ็บ แล้วในตอนหลังผู้เสียหายถูกคนอื่นซึ่งเป็นพรรคพวกขอบจำเลยทำร้ายบาดเจ็บสาหัส โดยโจทก์มิได้กล่าวในฟ้องว่า จำเลยได้สมคบกับคนอื่นที่ทำร้ายเหล่านั้นด้วย ดังนั้นจะลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสมิได้ จำเลยคงมีความผิดเพียง ฐานทำร้ายร่างกายไม่บาดเจ็บ
of 153