พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,524 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1732/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาความผิดฐานลักทรัพย์จากการตัดกล้วย จำเลยนำไปหรือไม่เป็นสาระสำคัญ
ฟ้องที่บรรยายว่า จำเลยใช้มีดลักตัดกล้วยของเจ้าทรัพย์ไป เจ้าทรัพย์ไปพบจำเลยในขณะทำผิดเป็นฟ้องที่ครบองค์ความผิดฐานลักทรัพย์ ต่างกับฎีกาที่ 233/2486
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1724/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวนและคณะกรรมการสอบสวน ถือเป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จ แม้ฟ้องไม่ระบุคำว่า 'เจ้าพนักงาน'
พนักงานสอบสวน และคณะกรรมการผู้ทำการสอบสวน ซึ่งได้แต่งตั้งขึ้นโดยทางราชการถือว่าเป็นเจ้าพนักงาน
ในเรื่องฟ้องขอให้ลงโทษฐานแจ้งความเท็จ ฟ้องของโจทก์ระบุว่าแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวน แม้ไม่มีคำว่าเจ้าพนักงาน ก็ลงโทษฐานแจ้งความเท็จได้
ในเรื่องฟ้องขอให้ลงโทษฐานแจ้งความเท็จ ฟ้องของโจทก์ระบุว่าแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวน แม้ไม่มีคำว่าเจ้าพนักงาน ก็ลงโทษฐานแจ้งความเท็จได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1643/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องไม่ชัดเจนข้อหาจ้างวานฆ่า ทำให้จำเลยไม่เข้าใจข้อหา ศาลยกฟ้อง
คดีหาว่าจำเลยใช้ผู้อื่นกระทำผิด ในฟ้องโจทก์มิได้กล่าวให้แน่ชัดว่า จำเลยใช้จ้างวานใครกี่คราวและเมื่อใด อันจะให้จำเลย เข้าใจข้อหาได้ดี ดังนี้ ฟ้องของโจทก์จึงเคลือบคลุมตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1643/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาฐานจ้างวานฆ่าปล้นทรัพย์ต้องระบุรายละเอียดการจ้างวานให้ชัดเจน หากฟ้องไม่ชัดเจนถือเป็นฟ้องเคลือบคลุม
คดีหาว่าจำเลยใช้ผู้อื่นกระทำผิด ในฟ้องโจทก์มิได้กล่าวให้แน่ชัดว่า จำเลยใช้จ้างวานใครกี่คราวและเมื่อใด อันจะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ดังนี้ ฟ้องของโจทก์จึงเคลือบคลุมตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 (5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1267/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องที่ไม่สมบูรณ์และการไม่ตรงกันของวันเวลาที่กล่าวอ้างในฟ้องกับพยานหลักฐาน
โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดเมื่อระหว่างเวลาพระอาทิตย์ตกของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2491 ถึงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นของวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2491 ซึ่งเป็นเวลากลางคืนตามกฎหมาย ตามปฏิทินวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2491 ตรงกับวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 3 แต่พะยานเบิกความว่าการกระทำผิดเกิดขึ้นเมื่อวันขึ้น 7 ค่ำ เดือน 3 เวลากลางคืน 2.00 น. เศษ รุ่งเช้าเป็นวันขึ้น 8 ค่ำ ดังนี้ เป็นคนละคืนกับที่กล่าวในฟ้อง ต้องพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปล้นทรัพย์ของเจ้าทรัพย์ไปรวมเป็นเงิน 6045 บาท โดยไม่ปรากฎว่าทรัพย์นั้นเป็นอะไรบ้าง ทั้งบัญชีทรัพย์ก็ไม่มี ดังนี้ จำเลยย่อมเข้าใจข้อหาเกี่ยวกับทรัพย์นั้นไม่ได้ จึงเป็นฟ้องที่เคลือบคลุมไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย.
(อ้างฎีกาที่ 931/2485)
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปล้นทรัพย์ของเจ้าทรัพย์ไปรวมเป็นเงิน 6045 บาท โดยไม่ปรากฎว่าทรัพย์นั้นเป็นอะไรบ้าง ทั้งบัญชีทรัพย์ก็ไม่มี ดังนี้ จำเลยย่อมเข้าใจข้อหาเกี่ยวกับทรัพย์นั้นไม่ได้ จึงเป็นฟ้องที่เคลือบคลุมไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย.
(อ้างฎีกาที่ 931/2485)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1267/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความไม่สมบูรณ์ของฟ้องอาญา: วันเวลาผิดและรายละเอียดทรัพย์ไม่ชัดเจน
โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดเมื่อระหว่างเวลาพระอาทิตย์ตกของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2491 ถึงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นของวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2491 ซึ่งเป็นเวลากลางคืนตามกฎหมาย ตามปฏิทินวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2491ตรงกับวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 3 แต่พยานเบิกความว่าการกระทำผิดเกิดขึ้นเมื่อวันขึ้น 7 ค่ำ เดือน 3 เวลากลางคืน 2.00 น. เศษ รุ่งเช้าเป็นวันขึ้น 8 ค่ำดังนี้ เป็นคนละคืนกับที่กล่าวในฟ้อง ต้องพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปล้นทรัพย์ของเจ้าทรัพย์ไปรวมเป็นเงิน 6,045 บาท โดยไม่ปรากฏว่าทรัพย์นั้นเป็นอะไรบ้าง ทั้งบัญชีทรัพย์ก็ไม่มี ดังนี้ จำเลยย่อมเข้าใจข้อหาเกี่ยวกับทรัพย์นั้นไม่ได้ จึงเป็นฟ้องที่เคลือบคลุมไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย (อ้างฎีกาที่ 931/2485)
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปล้นทรัพย์ของเจ้าทรัพย์ไปรวมเป็นเงิน 6,045 บาท โดยไม่ปรากฏว่าทรัพย์นั้นเป็นอะไรบ้าง ทั้งบัญชีทรัพย์ก็ไม่มี ดังนี้ จำเลยย่อมเข้าใจข้อหาเกี่ยวกับทรัพย์นั้นไม่ได้ จึงเป็นฟ้องที่เคลือบคลุมไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย (อ้างฎีกาที่ 931/2485)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1078/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องกรรโชกต้องระบุตัวผู้เสียหาย การฟ้องเคลือบคลุมทำให้ศาลยกฟ้องได้
ฟ้องหาว่า จำเลยกรรโชกโจทก์จะต้องระบุบุคคลผู้เป็นเจ้าทุกข์หรือผู้เสียหายด้วย เพียงแต่ระบุว่าจำเลยได้ขู่เข็ญขืนใจพวกพ่อค้าหมูในตลาดบางรักหลายสิบคน โดยไม่ระบุบุคคลผู้ถูกขู่เข็ญขืนใจว่าเป็นใครแม้แต่คนเดียว ดังนี้ฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 593/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องปล้นทรัพย์ต้องระบุรายละเอียดทรัพย์สินที่ถูกปล้น หากไม่ชัดเจน ศาลไม่รับฟ้อง
ในการฟ้องฐานปล้นทรัพย์นั้นทรัพย์ที่ถูกปล้นเอาไปเป็นรายละเอียดส่วนสำคัญที่จะต้องกล่าวในฟ้องให้ปรากฎ หากไม่สามารถจะกล่าวถึงรายละเอียดให้ทราบได้ว่าทรัพย์สิ่งใดบ้างที่ถูกปล้นไปอย่างน้อยก็ต้องระบุถึงประเภทลักษณะ และชะนิดของทรัพย์เหล่านั้น เท่าที่จำเลยเข้าใจในเรื่องที่ตนถูกหาได้
โจทก์ฟ้องหาว่าปล้นทรัพย์แต่ไม่ได้กล่าวว่า ทรัพย์ที่ถูกปล้นเป็นทรัพย์อะไรบ้าง และราคาเท่าใด ศาลสั่งให้แก้ฟ้อง โจทก์ก็ไม่จัดการหรือพยายามจัดการขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องตามที่ศาลสั่งนั้นแต่ประการใด ฟ้องของโจทก์จึงถือได้ว่า ไม่ได้กล่าวรายละเอียดถึงสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควร เท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี
โจทก์ฟ้องหาว่าปล้นทรัพย์แต่ไม่ได้กล่าวว่า ทรัพย์ที่ถูกปล้นเป็นทรัพย์อะไรบ้าง และราคาเท่าใด ศาลสั่งให้แก้ฟ้อง โจทก์ก็ไม่จัดการหรือพยายามจัดการขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องตามที่ศาลสั่งนั้นแต่ประการใด ฟ้องของโจทก์จึงถือได้ว่า ไม่ได้กล่าวรายละเอียดถึงสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควร เท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 593/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องปล้นทรัพย์ต้องระบุรายละเอียดทรัพย์สินที่ถูกปล้น หรือประเภทลักษณะชัดเจน หากไม่ทำตามศาลสั่งแก้ฟ้อง ก็ถือเป็นฟ้องไม่ชัดเจน
ในการฟ้องฐานปล้นทรัพย์นั้นทรัพย์ที่ถูกปล้นเอาไปเป็นรายละเอียดส่วนสำคัญที่จะต้องกล่าวในฟ้องให้ปรากฏ หากไม่สามารถจะกล่าวถึงรายละเอียดให้ทราบได้ว่าทรัพย์สิ่งใดบ้างที่ถูกปล้นไปอย่างน้อยก็ต้องระบุถึงประเภทลักษณะ และชนิดของทรัพย์เหล่านั้น เท่าที่จำเลยเข้าใจในเรื่องที่ตนถูกหาได้
โจทก์ฟ้องหาว่าปล้นทรัพย์แต่ไม่ได้กล่าวว่า ทรัพย์ที่ถูกปล้นเป็นทรัพย์อะไรบ้าง และราคาเท่าใด ศาลสั่งให้แก้ฟ้อง โจทก์ก็ไม่จัดการหรือพยายามจัดการขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องตามที่ศาลสั่งนั้นแต่ประการใดฟ้องของโจทก์จึงถือได้ว่า ไม่ได้กล่าวรายละเอียดถึงสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี
โจทก์ฟ้องหาว่าปล้นทรัพย์แต่ไม่ได้กล่าวว่า ทรัพย์ที่ถูกปล้นเป็นทรัพย์อะไรบ้าง และราคาเท่าใด ศาลสั่งให้แก้ฟ้อง โจทก์ก็ไม่จัดการหรือพยายามจัดการขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องตามที่ศาลสั่งนั้นแต่ประการใดฟ้องของโจทก์จึงถือได้ว่า ไม่ได้กล่าวรายละเอียดถึงสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 204/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขู่เข็ญตามกฎหมายอาญา: การกระทำโดยอาการกิริยาถือเป็นขู่เข็ญได้ แต่การบรรยายฟ้องต้องชัดเจน
คำว่าขู่เข็ญตามความในมาตรา 339 ข้อ 1 กฎหมายลักษณะอาญา นั้นอาจมีความหมายไม่เฉพาะแต่ว่าจะต้องกระทำด้วยวาจาอาจหมายตลอดถึงการกระทำโดยกิริยาด้วย
ฟ้องบรรยายแต่เพียงว่าจำเลยชักอาวุธมีดไล่จะแทงนั้นยังไม่พอจะฟังว่าเป็นการขู่เข็ญตามความในมาตรา 339 ข้อ 1
ฟ้องบรรยายแต่เพียงว่าจำเลยชักอาวุธมีดไล่จะแทงนั้นยังไม่พอจะฟังว่าเป็นการขู่เข็ญตามความในมาตรา 339 ข้อ 1