พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,524 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 219/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีวิวาททำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย: ข้อจำกัดในการลงโทษตามมาตรา 251 หากฟ้องตามมาตรา 253
ฟ้องว่าจำเลย 2 คนฝ่ายหนึ่งสมคบกัน และผู้ตายอีกฝ่ายหนึ่งสมัครใจใช้กำลังวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน ขอให้ลงโทษตามมาตรา 251,253ดังนี้ เป็นการฟ้องตามมาตรา 253 บทเดียว จะลงโทษจำเลยตามมาตรา 251ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 189/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขคำฟ้องในคดีหลบหนีการคุมขัง: เวลาและสถานที่เกิดเหตุเป็นรายละเอียด
เวลาและสถานที่เกิดเหตุถือว่าเป็นรายละเอียดตาม ป.ม.วิ.อาญา มาตรา 158 (5) และ 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 189/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องคดีอาญา: เวลาและสถานที่เกิดเหตุเป็นรายละเอียดที่แก้ไขได้
เวลาและสถานที่เกิดเหตุถือว่าเป็นรายละเอียดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) และ 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หมิ่นประมาทต้องระบุข้อความเสียหายชัดเจน และการกล่าวต้องต่อหน้าหรือต่อคนอื่น
ฟ้องหาว่าหมิ่นประมาทโดยกล่าวว่า จำเลยมีจดหมายอันมีข้อความหมิ่นประมาทถึงและว่าจำเลยส่งสำเนาโฆษณาไปยังอีกคนหนึ่งด้วย ดังนี้ ยังไม่เป็นการกล่าวต่อหน้าหรือกล่าวแก่คนสองคน ไม่ต้องด้วยความผิดฐานหมิ่นประมาท
ฟ้องความผิดฐานหมิ่นประมาทนั้น เพียงแต่อ้างหนังสือที่ว่าหมิ่นประมาทมาท้ายฟ้องไม่พอจะต้องระบุในฟ้องให้ชัดเจนด้วยว่า ข้อความตอนไหนเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์
ฟ้องความผิดฐานหมิ่นประมาทนั้น เพียงแต่อ้างหนังสือที่ว่าหมิ่นประมาทมาท้ายฟ้องไม่พอจะต้องระบุในฟ้องให้ชัดเจนด้วยว่า ข้อความตอนไหนเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หมิ่นประมาทต้องระบุข้อความเสียหายชัดเจน และการกล่าวต้องถึงผู้อื่น
ฟ้องหาว่าหมิ่นประมาทโดยกล่าวว่า จำเลยมีจดหมายอันมีข้อความหมิ่นประมาทถึง และว่า จำเลยส่งสำเนาโฆษณาไปยังอีกคนหนึ่งด้วยดังนี้ยังไม่เป็นการกล่าวต่อหน้าหรือกล่าวแก่คนสองคน ไม่ต้องด้วยความผิดฐานหมิ่นประมาท
ฟ้องความผิดฐานหมิ่นประมาทนั้นเพียงแต่อ้างหนังสือที่ว่าหมิ่นประมาทมาท้ายฟ้องไม่พอ จะต้องระบุในฟ้องให้ชัดเจนด้วยว่า ข้อความตอนไหนเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์
ฟ้องความผิดฐานหมิ่นประมาทนั้นเพียงแต่อ้างหนังสือที่ว่าหมิ่นประมาทมาท้ายฟ้องไม่พอ จะต้องระบุในฟ้องให้ชัดเจนด้วยว่า ข้อความตอนไหนเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 739/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุวันเวลาในฟ้องอาญา แม้พยานเบิกความชัดเจน แต่ฟ้องไม่ชัดเจน ศาลยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยลักทรัพย์ระหว่าง 2 วัน เวลาไม่ปรากฎแม้พะยานให้การในชั้นสวบสวนและในชั้นศาล ถึงวันเวลากระทำผิดชัดเจน ก็คงถือว่าฟ้องของโจทก์ระบุรายละเอียดพอควรแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 739/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของวันเวลาในฟ้องคดีลักทรัพย์ การระบุวันเวลาที่ไม่สอดคล้องกันอาจทำให้ศาลยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยลักทรัพย์ระหว่าง 2 วัน เวลาไม่ปรากฏแม้พยานให้การในชั้นสอบสวนและในชั้นศาล ถึงวันเวลากระทำผิดชัดเจน ก็คงถือว่าฟ้องของโจทก์ระบุรายละเอียดพอควรแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 570/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความถูกต้องของฟ้องอาญา: การล่อลวงเด็กเพื่ออนาจาร จำเลยที่ 2 มีส่วนร่วม
ฟ้องโจทก์มีใจความว่าจำเลยที่ 1 ใช้อุบายทุจริตล่อลวงเด็กหญิง ท. ให้ไปเซ็นชื่อรับเงินออมสิน แล้วจะให้รางวัลเป็นเงิน 8 บาท และจำเลยที่ 2 ได้บังอาจติดต่อและพูดล่อลวงเด็กหญิง ท. ให้ไปกับจำเลยที่ 1 อันเป็นอุปการะแก่การที่จำเลยที่ 1 จะได้พาเด็กหญิง ท. ไปเสียจากนาง ท.เพื่อการอนาจารดังกล่าวข้างต้นด้วยจนเด็กหญิงท. หลงเชื่อและยอมให้จำเลยที่ 1 พาไป เป็นที่เข้าใจแล้วว่า จำเลยที่ 2 ได้พูดจาล่อลวงเด็กหญิง ท. ให้หลงเชื่อว่าจำเลยที่ 1 จะพาเด็กหญิงท. ไปเซ็นชื่อรับเงินและให้รางวัล ถือได้ว่าโจทก์ได้กล่าวข้อเท็จจริงและรายละเอียดพอสมควรที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดี ทั้งจำเลยให้การรับสารภาพตามข้อหาโดยไม่ปรากฏว่าจำเลยไม่เข้าใจข้อหาหรือให้การรับสารภาพโดยเข้าใจผิดฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 เป็นฟ้องที่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 570/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความถูกต้องของฟ้องอาญา: การบรรยายฟ้องความผิดฐานพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี
คำบรรยายฟ้องความผิด ฐานพาหญิงไปเพื่อการอนาจารที่ถือว่าจำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 490/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร: ฟ้องไม่เคลือบคลุม แม้สำเนาฟ้องมีข้อผิดพลาดเล็กน้อย
โจทก์บรรยายฟ้องว่า มีคนร้ายลักทรัพย์ไป จับของกลางได้ที่จำเลย โดยจำเลยลักทรัพย์รายนี้หรือรับไว้จากผู้ร้ายขอให้ลงโทษตาม ม.293,321 ดังนี้ไม่ขัดกัน และไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
สำเนาฟ้องระบุเดือนที่เกิดเหตุผิดไปจากต้นฉะบับโดยความพลั้งเผลอของโจทก์ เมื่อจำเลยไม่หลงต่อสู้ และทางพิจารณาก็นำสืบกันตามวันเดือนโจทก์ฟ้อง ดังนี้ยกฟ้องโจทก์ไม่ได้
สำเนาฟ้องระบุเดือนที่เกิดเหตุผิดไปจากต้นฉะบับโดยความพลั้งเผลอของโจทก์ เมื่อจำเลยไม่หลงต่อสู้ และทางพิจารณาก็นำสืบกันตามวันเดือนโจทก์ฟ้อง ดังนี้ยกฟ้องโจทก์ไม่ได้