คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 158 (5)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,524 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1875/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องคดีเช็คต้องระบุหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย มิฉะนั้นฟ้องไม่ชอบ
ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ.2534มาตรา4นั้นการออกเช็คที่จะเป็นความผิดจะต้องเป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายด้วยหนี้ตามเช็คจะมีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายหรือไม่เป็นข้อเท็จจริงประการหนึ่งซึ่งเป็นองค์ประกอบของความผิดการที่โจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่าจำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้โดยมิได้บรรยายให้เห็นว่าเป็นหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายด้วยนั้นเป็นการบรรยายฟ้องที่ขาดองค์ประกอบของความผิดตามบทบัญญัติดังกล่าวคำฟ้องของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา158(5)และปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นอ้างศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยคดีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา195วรรคสองประกอบด้วยมาตรา225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1875/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีเช็คต้องแสดงเจตนาชำระหนี้จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย มิฉะนั้นฟ้องไม่ชอบ
ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534มาตรา 4 นั้น การออกเช็คที่จะเป็นความผิดจะต้องเป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายด้วย หนี้ตามเช็คจะมีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายหรือไม่ เป็นข้อเท็จจริงประการหนึ่งซึ่งเป็นองค์ประกอบของความผิด การที่โจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่าจำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้ โดยมิได้บรรยายให้เห็นว่าเป็นหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายด้วยนั้น เป็นการบรรยายฟ้องที่ขาดองค์ประกอบของความผิดตามบทบัญญัติดังกล่าว คำฟ้องของโจทก์จึงไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ.มาตรา158 (5) และปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นอ้าง ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยคดีได้ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 195วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 713/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องต้องระบุองค์ประกอบความผิดครบถ้วน การออกเช็คชำระหนี้ต้องมีหนี้จริงและบังคับได้
องค์ประกอบของความผิดทุกข้อที่กฎหมายบัญญัติไว้สำหรับความผิดแต่ละฐานเป็นสาระสำคัญที่โจทก์ต้องบรรยายในคำฟ้อง จึงจะขอให้ลงโทษจำเลยได้ คำฟ้องที่ขาดองค์ประกอบของความผิดเป็นคำฟ้องที่มิได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด จึงเป็นคำฟ้องที่ไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ.มาตรา 158 (5)
ปัญหาว่าคำฟ้องได้บรรยายครบองค์ประกอบของความผิดหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นมาต่อสู้ในศาลชั้นต้น จำเลยก็มีสิทธิที่จะยกขึ้นมาว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์ได้
การออกเช็คเพื่อชำระหนี้อันจะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 มาตรา 4 จะต้องเป็นการชำระหนี้ที่มีอยู่แล้วในขณะออกเช็ค และหนี้นั้นจะต้องเป็นหนี้ที่บังคับกันได้ตามกฎหมาย โจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่าจำเลยออกเช็คให้แก่โจทก์เพื่อชำระหนี้ โดยมิได้บรรยายให้เห็นว่าหนี้นั้นเป็นหนี้ที่มีอยู่จริงหรือไม่ หากเป็นหนี้ที่มิได้มีอยู่จริงขณะออกเช็คหรือเป็นหนี้ที่ไม่อาจบังคับได้ตามกฎหมาย การออกเช็คเพื่อชำระหนี้เช่นนั้นก็ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ. ดังกล่าว คำฟ้องของโจทก์จึงเป็นคำฟ้องที่ไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 713/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องอาญาที่ขาดองค์ประกอบความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค ถือเป็นคำฟ้องที่ไม่ชอบ
องค์ประกอบของความผิดทุกข้อที่กฎหมายบัญญัติไว้สำหรับความผิดแต่ละฐานเป็นสาระสำคัญที่โจทก์ต้องบรรยายในคำฟ้องจึงจะขอให้ลงโทษจำเลยได้คำฟ้องที่ขาดองค์ประกอบของความผิดเป็นคำฟ้องที่มิได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดจึงเป็นคำฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา158(5) ปัญหาว่าคำฟ้องได้บรรยายครบองค์ประกอบของความผิดหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นมาต่อสู้ในศาลชั้นต้นจำเลยก็มีสิทธิที่จะยกขึ้นมาว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์ได้ การออกเช็คเพื่อชำระหนี้อันจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ.2534มาตรา4จะต้องเป็นการชำระหนี้ที่มีอยู่แล้วในขณะออกเช็คและหนี้นั้นจะต้องเป็นหนี้ที่บังคับกันได้ตามกฎหมายโจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่าจำเลยออกเช็คให้แก่โจทก์เพื่อชำระหนี้โดยมิได้บรรยายให้เห็นว่าหนี้นั้นเป็นหนี้ที่มีอยู่จริงหรือไม่หากเป็นหนี้ที่มิได้มีอยู่จริงขณะออกเช็คหรือเป็นหนี้ที่ไม่อาจบังคับได้ตามกฎหมายการออกเช็คเพื่อชำระหนี้เช่นนั้นก็ไม่เป็นความผิดตามมาตรา4แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวคำฟ้องของโจทก์จึงเป็นคำฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 618/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์ประกอบความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม ฟ้องไม่ชอบเมื่อไม่ได้บรรยายถึงการใช้เอกสารนั้นก่อให้เกิดความเสียหาย
ตามคำฟ้องของโจทก์ฐานปลอมเอกสารโจทก์บรรยายมีใจความสำคัญแต่เพียงว่าจำเลยกับพวกร่วมกันปลอมเอกสารซึ่งเป็นหนังสือมอบอำนาจรวม2ฉบับโดยกรอกข้อความลงในหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวซึ่งมีลายมือชื่อของนาย ย. โดยไม่ได้รับความยินยอมเท่านั้นมิได้บรรยายว่าจำเลยกระทำเพื่อนำเอาเอกสารนั้นไปใช้ในกิจการที่อาจเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือประชาชนไว้ด้วยฟ้องโจทก์ฐานปลอมเอกสารทั้งสองสำนวนจึงขาดองค์ประกอบอันสำคัญสำหรับความผิดฐานปลอมเอกสาร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 618/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องฐานปลอมเอกสารต้องระบุถึงการนำไปใช้ก่อความเสียหาย
ตามคำฟ้องของโจทก์ฐานปลอมเอกสาร โจทก์บรรยายมีใจความสำคัญแต่เพียงว่า จำเลยกับพวกร่วมกันปลอมเอกสารซึ่งเป็นหนังสือมอบอำนาจรวม 2 ฉบับ โดยกรอกข้อความลงในหนังสือมอบอำนาจดังกล่าว ซึ่งมีลายมือชื่อของนาย ย. โดยไม่ได้รับความยินยอมเท่านั้น มิได้บรรยายว่า จำเลยกระทำเพื่อนำเอาเอกสารนั้นไปใช้ในกิจการที่อาจเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือประชาชนไว้ด้วย ฟ้องโจทก์ฐานปลอมเอกสารทั้งสองสำนวนจึงขาดองค์ประกอบอันสำคัญสำหรับความผิดฐานปลอมเอกสาร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 483/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การบรรยายพฤติการณ์การกระทำความผิดเพียงพอต่อการเข้าใจข้อหา
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันลักยาปราบวัชพืช15 ลัง ของผู้เสียหายไปโดยทุจริต หรือมิฉะนั้นจำเลยกับพวกร่วมกันรับของโจรยาปราบวัชพืช 13 ลัง ของผู้เสียหายไว้ คำฟ้องของโจทก์ดังกล่าวมิได้มีข้อความใดระบุยืนยันหรือทำให้เข้าใจได้ว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรเลยเพียงแต่บรรยายข้อเท็จจริงที่ปรากฏเพื่อให้ศาลวินิจฉัยเลือกลงโทษตามที่ศาลจะฟังข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานของโจทก์ คำฟ้องของโจทก์ดังกล่าวจึงเป็นฟ้องที่บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด ข้อเท็จจริงและราย-ละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 483/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การบรรยายความผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรโดยไม่จำกัดฐานความผิด
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกับพวกร่วมกันลักยาปราบวัชพืช15ลังของผู้เสียหายไปโดยทุจริตหรือมิฉะนั้นจำเลยกับพวกร่วมกันรับของโจรยาปราบวัชพืช13ลังของผู้เสียหายไว้คำฟ้องของโจทก์ดังกล่าวมิได้มีข้อความใดระบุยืนยันหรือทำให้เข้าใจได้ว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรเลยเพียงแต่บรรยายข้อเท็จจริงที่ปรากฏเพื่อให้ศาลวินิจฉัยเลือกลงโทษตามที่ศาลจะฟังข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานของโจทก์คำฟ้องของโจทก์ดังกล่าวจึงเป็นฟ้องที่บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้นๆอีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีจึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8083/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชอบด้วย ป.วิ.อ.มาตรา 158(5) ของฟ้องคดียาเสพติด: การบรรยายรายละเอียดการครอบครองและการขาย
โจทก์บรรยายฟ้องข้อ 1 (ก) ว่าจำเลยได้บังอาจมีแอมเฟตามีนจำนวน 1 เม็ด น้ำหนัก 0.14 กรัม อันเป็นวัตถุที่ออกฤทธิ์ในประเภท 2 ไว้ในครอบครองเพื่อขาย และข้อ 1 (ข) ว่าจำเลยได้บังอาจขายแอมเฟตามีนจำนวน2 เม็ด น้ำหนัก 0.14 กรัม อันเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 อันเป็นส่วนหนึ่งของเมทแอมเฟตามีนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองดังกล่าวในฟ้องข้อ 1 (ก) ให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อ เช่นนี้ ย่อมเป็นที่เห็นได้ว่า โจทก์ยืนยันว่าจำเลยได้ขายแอมเฟตามีนตามที่จำเลยมีไว้ในครอบครองตามข้อ 1 (ก) นั่นเอง ที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำนวน 2 เม็ด และเป็นส่วนหนึ่งของเมทแอมเฟตามีนนั้นเห็นได้ว่าโจทก์พิมพ์ผิดไปฟ้องโจทก์จึงบรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำและสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว เป็นฟ้องที่ชอบด้วย ป.วิ.อ.มาตรา 158 (5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8083/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของคำฟ้องคดียาเสพติด: การบรรยายรายละเอียดสิ่งของและข้อหาที่ชัดเจน
โจทก์บรรยายฟ้องข้อ1(ก)ว่าจำเลยได้บังอาจมีแอมเฟตามีนจำนวน1เม็ดน้ำหนัก0.14กรัมอันเป็นวัตถุที่ออกฤทธิ์ในประเภท2ไว้ในครอบครองเพื่อขายและข้อ1(ข)ว่าจำเลยได้บังอาจขายแอมเฟตามีนจำนวน2เม็ดน้ำหนัก0.14กรัมอันเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท2อันเป็นส่วนหนึ่งของเมทแอมเฟตามีนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองดังกล่าวในฟ้องข้อ1(ก)ให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อเช่นนี้ย่อมเป็นที่เห็นได้ว่าโจทก์ยืนยันว่าจำเลยได้ขายแอมเฟตามีนตามที่จำเลยมีไว้ในครอบครองตามข้อ1(ก)นั่นเองที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำนวน2เม็ดและเป็นส่วนหนึ่งของเมทแอมเฟตามีนนั้นเห็นได้ว่าโจทก์พิมพ์ผิดไปฟ้องโจทก์จึงบรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำและสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้วเป็นฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา158(5)
of 153