คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 158 (5)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,524 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3796/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตในการรับเงินค่าจัดหางาน แม้จะรับสารภาพ ศาลไม่สามารถลงโทษฐานจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตได้
ตามคำฟ้องของโจทก์ปรากฎว่า จำเลยมิได้มีเจตนามาตั้งแต่แรกที่จะจัดหางานและดำเนินการติดต่อหางานใด ๆ ดังที่จำเลยกล่าวชักชวน จำเลยมีเจตนาทุจริตมาตั้งแต่ต้นแล้วเมื่อได้รับเงินจากคนหางานแล้ว ก็จะนำเงินดังกล่าวไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัวแสดงว่าจำเลยเพียงแต่อ้างเหตุที่จะจัดหางานเป็นข้อหลอกลวงเพื่อให้ได้เงินจากผู้เสียหายเท่านั้น การกระทำของจำเลยตามที่กล่าวในฟ้องไม่เป็นความผิดในข้อหาจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตดังนี้ แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพ ศาลก็ลงโทษจำเลยในข้อหานี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3624/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์ประกอบความผิดฉ้อโกงประชาชน: ไม่ต้องระบุชื่อผู้เสียหายในฟ้อง หากบรรยายพฤติการณ์หลอกลวงและทรัพย์สินที่ได้ไปครบถ้วน
ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343โจทก์ต้องบรรยายฟ้องให้ครบองค์ประกอบว่าจำเลยหลอกลวงประชาชนโดยทุจริตและโดยการหลอกลวงนั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากประชาชนผู้ถูกหลอกลวง ส่วนประชาชนผู้ใดบ้างเป็นผู้ที่ถูกจำเลยหลอกลวงและจำเลยได้ทรัพย์สินจากผู้ใดบ้างเป็นเพียงรายละเอียดที่โจทก์นำสืบได้ในชั้นพิจารณา การที่โจทก์มิได้ระบุชื่อประชาชนผู้ถูกหลอกลวงหรือผู้เสียหายมาในฟ้อง จึงไม่ทำให้ฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกับพวกได้ทำการหลอกลวงประชาชนในเขตตำบลสักหลง ตำบลบ้านกลาง และตำบลวัดป่า จังหวัดเพชรบูรณ์การหลอกลวงของจำเลยเป็นเหตุให้ประชาชนในท้องที่ดังกล่าวหลงเชื่อและได้นำใบยาสูบแห้งจำนวน 2,462 กิโลกรัม คิดเป็นเงิน29,491 บาทไปมอบให้จำเลยกับพวก ถือได้ว่าได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด ข้อเท็จจริงและรายละเอียดเกี่ยวกับบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควรที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)แล้ว ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3624/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์ประกอบความผิดฉ้อโกงประชาชน: ไม่ต้องระบุชื่อผู้เสียหายในฟ้อง
การผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 โจทก์ต้องบรรยายฟ้องให้ครบองค์ประกอบว่าจำเลยหลอกประชาชนโดยทุจริตและโดยการหลอกลวงนั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากประชาชนผู้ถูกหลอกลวง ส่วนประชาชนผู้ใดบ้างเป็นผู้ที่ถูกจำเลยหลอกลวงและจำเลยได้ทรัพย์สินจากผู้ใดบ้างเห็นเพียงรายละเอียดที่โจทก์นำสืบได้ในชั้นพิจารณา การที่โจทก์มิได้ระบุชื่อประชาชนผู้ถูกหลอกลวงหรือผู้เสียหายมาในฟ้อง จึงไม่ทำให้ฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกับพวกได้ทำการหลอกลวงประชาชนในเขตตำบลสักหลง ตำบลบ้านกลาง และตำบลวัดป่า จังหวัดเพชรบูรณ์ การหลอกลวงของจำเลยเป็นเหตุให้ประชาชนในท้องที่ดังกล่าวหลงเชื่อและได้นำใบยาสูบแห้งจำนวน 2,462 กิโลกรัม คิดเป็นเงิน 29,491 บาท ไปมอบให้จำเลยกับพวก ถือได้ว่าได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด ข้อเท็จจริงและรายละเอียดเกี่ยวกับบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควรที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5) แล้ว ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3334/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของคำฟ้องอาญา: การระบุตำแหน่งเจ้าหน้าที่ที่ดินในการแจ้งความเท็จ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้แจ้งให้ ถ. เจ้าหน้าที่ที่ดินอำเภอผู้ทำหน้าที่รับคำขอจดทะเบียนต่าง ๆ จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารคำขอออกใบแทนหนังสือรับรองการทำประโยชน์และเอกสารบันทึกถ้อยคำซึ่งเป็นเอกสารราชการและมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานว่าหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้หายไป แม้มิได้บรรยายว่า ถ.เป็นเจ้าพนักงานที่ดิน ก็ย่อมเข้าใจได้ว่า ถ. เป็นเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ ตามความหมายของประมวลกฎหมายอาญามาตรา 267 แล้ว ฟ้องโจทก์หาเป็นฟ้องที่เคลือบคลุมหรือขาดองค์ประกอบความผิดไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2859/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาออกเช็คโดยไม่มีเจตนาให้ใช้ได้เพียงพอต่อการฟ้องความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ โดยธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินอ้างว่ามีคำสั่งให้ระงับการจ่ายเงิน แม้โจทก์จะมิได้บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตในการห้ามธนาคารมิให้ใช้เงินตามเช็ค แต่โจทก์ก็บรรยายฟ้องว่า จำเลยออกเช็คโดยมีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ฟ้องโจทก์จึงเป็นฟ้องที่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2859/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาออกเช็คโดยรู้ว่าจะไม่มีเงินพอ ชี้ขาดความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ โดยธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน อ้างว่ามีคำสั่งให้ระงับการจ่ายเงิน แม้โจทก์จะมิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยมีเจตนาทุจริต ในการห้ามธนาคารมิให้ใช้เงินตามเช็คแต่โจทก์ก็บรรยายฟ้องว่า จำเลยออกเช็คโดยมีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ฟ้องโจทก์จึงเป็นการฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2200/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จต้องมีเจตนา และฟ้องต้องระบุรายละเอียดข้อสำคัญในคดี มิฉะนั้นเป็นฟ้องไม่สมบูรณ์
ความผิดฐานเบิกความเท็จตาม ป.อ. มาตรา 177 นั้น ผู้กระทำผิดจะต้องกระทำโดยเจตนา คือรู้อยู่แล้วว่าข้อความที่ตนเบิกความนั้นเป็นเท็จ แต่ฟ้องของโจทก์มิได้มีข้อความดังกล่าว และโจทก์มิได้บรรยายฟ้องให้เห็นว่าข้อความเท็จที่จำเลยเบิกความเป็นข้อสำคัญในคดีอย่างไร อันเป็นการกระทำที่อ้างว่าจำเลยกระทำความผิดพอสมควรให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตามป.วิ.อ. มาตรา 158(5) ศาลชอบที่จะพิพากษายกฟ้องโจทก์.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2161/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงข้อหาจากปล้นทรัพย์เป็นชิงทรัพย์เนื่องจากฟ้องไม่ครบองค์ความผิด
ฟ้องโจทก์ที่บรรยายว่าจำเลยทั้งสองมีอาวุธปืนติดตัวไปด้วยและใช้รถยนต์กระบะเป็นยานพาหนะร่วมกันปล้นทรัพย์ของผู้เสียหายนั้นไม่ครบองค์ความผิดฐานปล้นทรัพย์ แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่าจำเลยทั้งสองนั่งรถยนต์กระบะซึ่งมี ว. เป็นผู้ขับมา กระทำความผิดก็ลงโทษจำเลยทั้งสองฐานปล้นทรัพย์ไม่ได้ แต่ลงโทษฐานชิงทรัพย์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2161/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงข้อหาจากปล้นทรัพย์เป็นชิงทรัพย์ เนื่องจากฟ้องไม่ครบองค์ความผิด
ฟ้องโจทก์ที่บรรยายว่าจำเลยทั้งสองมีอาวุธปืนติดตัวไปด้วยและใช้รถยนต์กระบะเป็นยานพาหนะร่วมกันปล้นทรัพย์ของผู้เสียหายนั้นไม่ครบองค์ความผิดฐานปล้นทรัพย์ แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่า จำเลยทั้งสองนั่งรถยนต์กระบะซึ่งมีว.เป็นผู้ขับมากระทำความผิด ก็ลงโทษจำเลยทั้งสองฐานปล้นทรัพย์ไม่ได้ แต่ลงโทษฐานชิงทรัพย์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2161/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงข้อกล่าวหาจากปล้นทรัพย์เป็นชิงทรัพย์เนื่องจากฟ้องไม่ครบองค์ความผิด
ฟ้องโจทก์ที่บรรยายว่าจำเลยทั้งสองมีอาวุธปืนติดตัวไปด้วยและใช้รถยนต์กระบะเป็นยานพาหนะร่วมกันปล้นทรัพย์ของผู้เสียหายนั้นไม่ครบองค์ความผิดฐานปล้นทรัพย์ แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่า จำเลยทั้งสองนั่งรถยนต์กระบะซึ่งมีว.เป็นผู้ขับมากระทำความผิด ก็ลงโทษจำเลยทั้งสองฐานปล้นทรัพย์ไม่ได้ แต่ลงโทษฐานชิงทรัพย์ได้.
of 153