พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,524 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2464/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องนอกเหนือจากข้อหาเดิม เป็นการกระทำที่มิชอบ ศาลรับฟังลงโทษไม่ได้
เมื่อโจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยขับรถจักรยานยนต์แซงขึ้นหน้ารถคันอื่นตรงบริเวณทางแยก ข้อเท็จจริงดังกล่าวก็เป็นข้อเท็จจริงนอกเหนือจากฟ้อง จะรับฟังลงโทษจำเลยหาได้ไม่ เพราะเป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) และมาตรา 192วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2447/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องฉ้อโกงครบองค์ประกอบ แม้ไม่ระบุจำนวนเงินเสียหาย เพราะเป็นรายละเอียดที่ต้องนำสืบ
บรรยายฟ้องว่าจำเลยโดยเจตนาทุจริตได้หลอกลวงโจทก์ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จและปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งโดยจำเลยทำสัญญาแบ่งทรัพย์สินกับโจทก์ ซึ่งมีข้อสัญญายอมให้โจทก์ไปเก็บเงินตามบัญชีที่ลูกค้าค้างชำระร้านน่ำกี่หรือปั้งน่ำกี่มาเป็นประโยชน์ของโจทก์ แต่ต่อมาโจทก์นำบัญชีที่ลูกค้าค้างชำระจากจำเลยไปเก็บเงินปรากฏว่าจำเลยไปเก็บเงินจากลูกค้าไปก่อนแล้ว โดยไม่บอกให้โจทก์ทราบขณะทำสัญญาการหลอกลวงโดยปกปิดความจริงดังกล่าว โจทก์หลงเชื่อจึงไม่ติดใจเรียกร้องทรัพย์สินอื่นที่จำเลยได้เอาไปจากโจทก์ ทำให้จำเลยได้ไปซึ่งทรัพย์สินและสิทธิต่างๆ ของโจทก์ เช่นนี้เป็นฟ้องที่ได้บรรยายครบองค์ประกอบความผิดฐานฉ้อโกง พอที่จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว ไม่จำต้องบรรยายว่าโจทก์เสียหายเป็นจำนวนเงินเท่าใด เพราะเป็นรายละเอียดซึ่งจะต้องนำสืบในชั้นพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2447/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องฉ้อโกง จำเป็นต้องระบุจำนวนเงินที่เสียหายหรือไม่ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าไม่จำเป็น
บรรยายฟ้องว่าจำเลยโดยเจตนาทุจริตได้หลอกลวงโจทก์ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จและปกปิดความจริง ซึ่งควรบอกให้แจ้งโดยจำเลยทำสัญญาแบ่งทรัพย์สินกับโจทก์ ซึ่งมีข้อสัญญายอมให้โจทก์ไปเก็บเงินตามบัญชีที่ลูกค้าค้างชำระร้านน่ำกี่หรือปั้งน่ำกี่มาเป็นประโยชน์ของโจทก์ แต่ต่อมาโจทก์นำบัญชีที่ลูกค้าค้างชำระจากจำเลยไปเก็บเงินปรากฏว่าจำเลยไปเก็บเงินจากลูกค้าไปก่อนแล้ว โดยไม่บอกให้โจทก์ทราบขณะทำสัญญาการหลอกลวงโดยปกปิดความจริงดังกล่าว โจทก์หลงเชื่อจึงไม่ติดใจเรียกร้องทรัพย์สินอื่นที่จำเลยได้เอาไปจากโจทก์ ทำให้จำเลยได้ไปซึ่งทรัพย์สินและสิทธิต่าง ๆ ของโจทก์ เช่นนี้เป็นฟ้องที่ได้บรรยายครบองค์ประกอบความผิดฐานฉ้อโกง พอที่จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5) แล้ว ไม่จำต้องบรรยายว่าโจทก์เสียหายเป็นจำนวนเงินเท่าใด เพราะเป็นรายละเอียดซึ่งจะต้องนำสืบในชั้นพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2353/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องยักยอกไม่ชัดเจน การบรรยายฟ้องต้องระบุการกระทำที่ชัดเจนเพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อหา
โจทก์ฟ้องจำเลยในความผิดฐานยักยอก โดยบรรยายฟ้องว่าจำเลยบังอาจเบียดบังเอาทรัพย์ของผู้เสียหาย ซึ่งอยู่ในความครอบครองของจำเลย โดยจำเลยเช่าจากผู้เสียหายไปเป็นของตนเองโดยทุจริต โดยมิได้ระบุการกระทำของจำเลยให้ชัดว่าจำเลยได้กระทำการอย่างใดที่โจทก์ถือว่าจำเลยกระทำความผิดฐานยักยอกมาพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ย่อมเป็นฟ้องเคลือบคลุม (อ้างฎีกาที่ 1057/2514)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2352/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาต้องระบุรายละเอียดการกระทำความผิดให้ชัดเจน เพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยครอบครองเรือยนต์ของผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายมอบหมายให้จำเลยนำไปทำการดูดแร่ในทะเล แล้วจำเลยเบียดบังเอาเรีอยนต์นั้นเป็นของจำเลยหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต ดังนี้ ข้อกล่าวหาที่ว่าจำเลยเบียดบังนั้น โจทก์มิได้ระบุกระทำของจำเลยให้ชัดว่าจำเลยกระทำการอย่างไรที่พอจะถือได้ว่าจำเลยเบียดบังเอาเรือยนต์ไปเป็นของจำเลยหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต เมื่อโจทก์ไม่บรรยายข้อเท็จจริงและรายละเอียดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ฟ้องโจทก์จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1057/2514)
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1057/2514)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2352/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาข้อหาเบียดบังทรัพย์ ต้องระบุรายละเอียดการกระทำที่ชัดเจนเพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อหา
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยครอบครองเรือยนต์ของผู้เสียหายโดยผู้เสียหายมอบหมายให้จำเลยนำไปทำการดูดแร่ในทะเลแล้วจำเลยเบียดบังเอาเรือยนต์นั้นเป็นของจำเลยหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต ดังนี้ ข้อกล่าวหาที่ว่าจำเลยเบียดบังนั้น โจทก์มิได้ระบุ การกระทำของจำเลยให้ชัดว่าจำเลยกระทำการอย่างไรที่พอจะถือได้ว่าจำเลยเบียดบังเอาเรือยนต์ไปเป็นของจำเลยหรือบุคคลที่สาม โดยทุจริต เมื่อโจทก์ไม่บรรยายข้อเท็จจริงและรายละเอียดพอสมควร เท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ฟ้องโจทก์จึงไม่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1057/2514)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1290/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีลักทรัพย์ การระบุชื่อเจ้าของทรัพย์ และการอนุโลมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ในคดีลักทรัพย์ ฟ้องโจทก์ย่อมต้องระบุชื่อเจ้าของทรัพย์เพื่อจำเลยจะต่อสู้คดีได้ แต่กฎหมายก็มิได้บังคับเด็ดขาดว่าต้องระบุชื่อเสมอไปคดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องครบถ้วนขาดแต่ชื่อเจ้าของทรัพย์เท่านั้น แต่เมื่ออ่านคำฟ้องโดยตลอดก็พอจะทราบได้ว่าเจ้าของทรัพย์เป็นผู้ใด เพราะในตอนท้ายได้กล่าวไว้ว่าระหว่างสอบสวนจำเลยถูกควบคุมตัวอยู่ตามหมายขังของศาลชั้นต้นในคดีอาญาหมายเลขดำที่ พ.643/2519 ซึ่งพอจะอนุโลมได้ว่าเป็นส่วนประกอบของคำฟ้อง และปรากฏว่าในคดีที่ขอฝากขังดังกล่าวนั้นได้ระบุชื่อเจ้าของทรัพย์ไว้ด้วย จำเลยน่าจะเข้าใจได้ดีว่าทรัพย์ตามที่โจทก์ฟ้องเป็นของผู้ใด ฟ้องของโจทก์จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1066/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานเบิกความเท็จ: การบรรยายฟ้องผู้เสียหายและข้อผิดพลาดในการอ้างมาตรากฎหมาย
คำบรรยายฟ้องความผิดฐานเบิกความเท็จที่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
โจทก์บรรยายฟ้องถึงการกระทำของจำเลยในความผิดฐานเบิกความเท็จอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา177 แต่โจทก์มีคำขอท้ายฟ้องให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180 เป็นเรื่องที่โจทก์อ้างมาตรา ผิด ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามความผิดที่ถูกต้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192
โจทก์บรรยายฟ้องถึงการกระทำของจำเลยในความผิดฐานเบิกความเท็จอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา177 แต่โจทก์มีคำขอท้ายฟ้องให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180 เป็นเรื่องที่โจทก์อ้างมาตรา ผิด ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามความผิดที่ถูกต้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 390/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากไม่ได้บรรยายรายละเอียดข้อสำคัญในคดีที่จำเลยเบิกความเท็จ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานเบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีอาญา คำบรรยายฟ้องของโจทก์เข้าใจได้แต่เพียงว่าจำเลยเบิกความเท็จในการพิจารณาคดีอาญาซึ่ง ส.ถูกฟ้องฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยสุจริตและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเท่านั้น ส. กระทำการอย่างใดอันเป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริตโจทก์มิได้บรรยายมาในฟ้อง จึงไม่ทำให้เข้าใจได้ว่าข้อความที่จำเลยเบิกความต่อศาลดังกล่าวนั้นเป็นข้อสำคัญในคดีที่ ส. ถูกฟ้องนั้นหรือไม่ คำฟ้องของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 390/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องไม่ชอบด้วยกฎหมาย หากไม่บรรยายรายละเอียดข้อสำคัญในคดีที่จำเลยเบิกความเท็จ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานเบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีอาญา คำบรรยายฟ้องของโจทก์เข้าใจได้แต่เพียงว่าจำเลยเบิกความเท็จในการพิจารณาคดีอาญาซึ่ง ส. ถูกฟ้องฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริตและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเท่านั้น ส.กระทำการอย่างใดอันเป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริตโจทก์มิได้บรรยายมาในฟ้อง จึงไม่ทำให้เข้าใจได้ว่าข้อความที่จำเลยเบิกความต่อศาลดังกล่าวนั้นเป็นข้อสำคัญในคดีที่ ส. ถูกฟ้องนั้นหรือไม่คำฟ้องของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)