คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 213

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 522 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 259/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: ป้องกันเกินสมควรแก่เหตุและสมคบคิด
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249 จำคุกคนละ 15 ปี แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้
ว่าจำเลยที่ 2 ยังไม่ผิด จึงให้ยกฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 1 คงพิพากษายืน ดังนี้
แม้โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 อย่างเดียว ส่วนจำเลยที่ 1 ไม่ติดใจฎีกาแล้วก็ตาม เมื่อศาลฎีกาพิจารณาเห็น
ว่า เป็นเรื่องป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ อันเป็นเหตุลักษณะคดีแล้ว ศาลฎีกาย่อมพิพากษาลดโทษจำเลยที่ 1 ฐาน
ป้องกันเกินสมควรแก่เหตุด้วยได้./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 259/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำผิดฐานสมคบกันฆ่า และการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ ศาลฎีกาพิจารณาถึงความผิดของจำเลยทั้งสอง
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 249 จำคุกคนละ 15 ปี แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยที่ 2 ยังไม่ผิด จึงให้ยกฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 1คงพิพากษายืน ดังนี้
แม้โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 อย่างเดียว ส่วนจำเลยที่ 1ไม่ติดใจฎีกาแล้วก็ตามเมื่อศาลฎีกาพิจารณาเห็นว่า เป็นเรื่องป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุอันเป็นเหตุลักษณะคดีแล้วศาลฎีกาย่อมพิพากษาลดโทษจำเลยที่ 1 ฐานป้องกันเกินสมควรแก่เหตุด้วยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลอุทธรณ์ในการแก้ไขคำพิพากษาเดิมให้เป็นคุณแก่จำเลย แม้โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษ
คดีอาญาที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้องของโจทก์แล้วแต่ใช้ดุลพินิจให้รอการลงอาญาโทษจำคุกไว้แม้จำเลยจะมิได้อุทธรณ์คงมีโจทก์อุทธรณ์ฝ่ายเดียวขอให้ลงโทษจำคุกโดยไม่รอการลงอาญาก็ตาม ในการใช้ดุลพินิจข้อนี้ ศาลอุทธรณ์จำต้องตรวจข้อเท็จจริงและเมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าตามข้อเท็จจริงยังไม่สมควรที่จะลงโทษจำเลยศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจพิพากษาให้เป็นคุณแก่จำเลยได้ คือพิพากษายกฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1578/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองอาวุธปืนชั่วคราวเพื่อส่งมอบคืนเจ้าของ ไม่ถือเป็นความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต
ใช้ให้คนไปหยิบอาวุธปืนและกระสุนปืนมาจากบ้านให้นำมาส่งให้แก่ตน ณ ที่แห่งหนึ่งอันอยู่ห่างกันประมาณ 10 เส้น เพื่อมอบคืนให้แก่เจ้าของผู้มีไว้โดยชอบด้วยกฎหมาย เช่นนี้ ยังถือไม่ได้ว่าคนที่หยิบอาวุธปืนและกระสุนได้มีอาวุธปืนและกระสุนปืนนั้นไว้ในครอบครอง จึงยังไม่เป็นผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯลฯ และผู้ใช้ให้ไปหยิบ ก็ไม่มีความผิดด้วย
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยที่ 2 แต่ผู้เดียว ส่วนจำเลยที่ 1 พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ด้วย แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์จึงฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 อีกแม้จำเลยที่ 2 จะมิได้อุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าตามรูปคดี จำเลยที่ 2 ยังไม่มีความผิด ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษายกฟ้องปล่อยจำเลยที่ 2 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1578/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต: การส่งมอบคืนไม่ใช่การครอบครอง
ใช้ให้คนไปหยิบอาวุธปืนและกระสุนปืนมาจากบ้านให้นำมาส่งให้แก่ตน ณ ที่แห่งหนึ่งอันอยู่ห่างกันประมาณ 10 เส้น เพื่อมอบคืนให้แก่เจ้าของผู้มีไว้โดยชอบด้วยกฎหมาย เช่นนี้ ยังถือไม่ได้ว่าคนที่ไปหยิบอาวุธปืนและกระสุนได้มีอาวุธปืนและกระสุนปืนนั้นไว้ในความครอบครอง จึงยังไม่เป็นผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯลฯ และผู้ใช้ให้ไปหยิบก็ไม่มีความผิดด้วย
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยที่ 2 แต่ผู้เดียว ส่วนจำเลยที่1 พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ด้วยแต่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์จึงฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 อีก แม้จำเลยที่ 2 จะมิได้อุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาด้วยเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าตามรูปคดี จำเลยที่ 2ยังไม่มีความผิด ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษายกฟ้องปล่อยจำเลยที่ 2 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1566/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาคดีอาญาที่ขาดหลักฐานยืนยันการกระทำผิด ศาลฎีกายกฟ้องจำเลยเนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายกระทงหนึ่งจำคุก 2 เดือน และฐานบุกรุกสถานที่ราชการอีกกระทงหนึ่งจำคุก 1 เดือน ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์มิได้สืบว่ารถการ์ดที่จำเลยขึ้นไปนั้นเป็นสถานที่สำหรับใช้ในราชการซึ่งผู้หนึ่งผู้ใดจะเข้าไปมิได้ ฉะนั้นจำเลยยังไม่ผิดฐานนี้ พิพากษาแก้ว่าจำเลยไม่ผิดฐานบุกรุกนอกจากนี้ยืน โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกตามศาลชั้นต้น ดังนี้เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยมิได้ขึ้นไปบนรถการ์ด ฉะนั้นความผิดในเรื่องบุกรุกจึงไม่ต้องวินิจฉัย และเมื่อฟังไม่ได้ว่าขึ้นไปรถการ์ดข้อหาโจทก์ที่ว่าจำเลยขึ้นไปทำร้ายเขาบนรถการ์ดก็ย่อมตกไปด้วย แม้โจทก์ฝ่ายเดียวจะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกฐานเดียวก็ดี เมื่อคดีฟังไม่ได้ว่า จำเลยมีความผิด ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ศาลฎีกาต้องพิพากษายกฟ้องโจทก์ ปล่อยจำเลยไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1566/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาคดีอาญาที่พยานหลักฐานไม่เพียงพอต่อการรับฟังความผิดฐานบุกรุกและทำร้ายร่างกาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายกะทงหนึ่งจำคุก 2 เดือนและฐานบุกรุกสถานที่ราชการอีกกะทงหนึ่งจำคุก 1 เดือน ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์มิได้สืบว่ารถการ์ดที่จำเลยขึ้นไปนั้นเป็นสถานที่สำหรับใช้ในราชการซึ่งผู้หนึ่งผู้ใดจะเข้าไปมิได้ฉะนั้นจำเลยยังไม่ผิดฐานนี้ พิพากษาแก้ว่าจำเลยไม่ผิดฐานบุกรุกนอกจากนี้ยืน โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกตามศาลชั้นต้นดังนี้เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยมิได้ขึ้นไปบนรถการ์ด ฉะนั้นความผิดในเรื่องบุกรุกจึงไม่ต้องวินิจฉัย และเมื่อฟังไม่ได้ว่าขึ้นไปรถการ์ดข้อหาโจทก์ที่ว่าจำเลยขึ้นไปทำร้ายเขาบนรถการ์ดก็ย่อมตกไปด้วย แม้โจทก์ฝ่ายเดียวจะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกฐานเดียวก็ดีเมื่อคดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีความผิด ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ ศาลฎีกาต้องพิพากษายกฟ้องโจทก์ปล่อยจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 625/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การควบคุมการค้าโคกระบือตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร และการจ่ายเงินสินบนผู้นำจับ
สิ่งของตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควรนั้นหมายถึง โค กระบือด้วย (อ้างฎีกา 2094/2492)
การจ่ายเงินสินบลแก่ผู้นำจับตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร แม้ไม่มีฝ่ายใดฎีกาขึ้นมาก็ดี ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้ เพราะเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน และอยู่ในลักษณะคดี
โคของกลางที่นำออกนอกเขตโดยฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการ ริบไม่ได้ต้องคืนเจ้าของ (อ้างฎีกา 202/2493)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 625/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขต พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร ครอบคลุมถึงโคกระบือ และอำนาจศาลในการวินิจฉัยเรื่องสินบน
สิ่งของตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควรนั้นหมายถึง โค กระบือด้วย (อ้างฎีกา 2094/2492)
การจ่ายเงินสินบนแก่ผู้นำจับตาม พระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร แม้ไม่มีฝ่ายใดฎีกาขึ้นมาก็ดี
ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้ เพราะเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน และอยู่ในลักษณะคดี
โคของกลางที่นำออกนอกเขตโดยฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการฯ ริบไม่ได้ต้องคืนเจ้าของ
(อ้างฎีกา 202/2493)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1761/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษความผิด พ.ร.บ.ศุลกากร: แยกปรับหรือรวมปรับ, เหตุลดเพิ่มโทษ, และกรรมเดียวกัน
ความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร มาตรา 27 ศาลจะแยกปรับจำเลยเป็นรายตัวหรือปรับจำเลยรวมกันก็ได้เมื่อรวมกันเป็น4 เท่าราคา ของรวมค่าอากรด้วย
ในกรณีที่ลงโทษตามพ.ร.บ.ศุลกากร เมื่อมีเหตุลดหรือเพิ่มโทษจำเลยไม่เหมือนกัน ศาลต้องปรับแยกกัน
การกระทำผิดฐานช่วยเหลือให้ทำการค้ายาสูบตามพ.ร.บ.ศุลกากรกับมียาสูบในครอบครองโดยไม่ปิดแสตมป์เป็นกรรมเดียวกันต้องลงโทษตามพ.ร.บ.ศุลกากร ซึ่งเป็นบทหนัก
of 53