พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7770/2547
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาอนุญาตช่วงเครื่องหมายการค้าเป็นโมฆะ หากสัญญาหลักยังมิได้จดทะเบียนตามกฎหมาย ผู้รับอนุญาตช่วงไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย
ขณะที่จำเลยทำสัญญาอนุญาตช่วงให้โจทก์ใช้สิทธิในเครื่องหมายบริการที่ได้จดทะเบียนแล้วของบริษัท ค. จำเลยกับบริษัท ค. ยังมิได้นำหนังสือสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในเครื่องหมายบริการที่ได้จดทะเบียนแล้วระหว่างจำเลยผู้รับอนุญาตกับบริษัท ค. ผู้อนุญาต ไปจดทะเบียนต่อนายทะเบียนเครื่องหมายการค้า ตาม พ.ร.บ. เครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 มาตรา 80 ประกอบด้วยมาตรา 68 วรรคสอง จึงเป็นการมิได้ทำให้ถูกต้องตามแบบที่กฎหมายกำหนดไว้ สัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิดังกล่าวย่อมเป็นโมฆะ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 152 จำเลยจึงยังไม่มีสิทธิตามสัญญาดังกล่าวที่จะนำเครื่องหมายบริการที่ได้จดทะเบียนแล้วของบริษัท ค. ไปอนุญาตช่วงให้โจทก์ใช้สิทธิในเครื่องหมายบริการนั้นได้
โจทก์ทราบดีว่าสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในเครื่องหมายบริการที่ได้จดทะเบียนแล้วต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อนายทะเบียนเครื่องหมายการค้า ดังนั้น ก่อนที่โจทก์จะเข้าทำสัญญาอนุญาตช่วงให้ใช้สิทธิในเครื่องหมายบริการที่ได้จดทะเบียนแล้วของบริษัท ค. กับจำเลย โจทก์ย่อมสามารถตรวจสอบทางทะเบียนได้ว่าผู้อนุญาตกับจำเลยได้ทำสัญญาอนุญาตเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าแล้วหรือไม่ แต่โจทก์ก็มิได้ทำการตรวจสอบ โจทก์กลับเข้าทำสัญญากับจำเลยและชำระค่าสิทธิจำนวน 200,000 บาท ให้แก่จำเลยไป การกระทำของโจทก์ถือได้ว่าเป็นการกระทำตามอำเภอใจเหมือนหนึ่งว่าเพื่อชำระหนี้โดยรู้อยู่ว่าตนไม่มีความผูกพันที่จะต้องชำระ แม้จำเลยจะรับชำระค่าสิทธินั้นไว้โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ แต่โจทก์ก็ไม่มีสิทธิเรียกให้จำเลยคืนค่าสิทธิดังกล่าว ตาม ป.พ.พ. มาตรา 407
โจทก์ทราบดีว่าสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในเครื่องหมายบริการที่ได้จดทะเบียนแล้วต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อนายทะเบียนเครื่องหมายการค้า ดังนั้น ก่อนที่โจทก์จะเข้าทำสัญญาอนุญาตช่วงให้ใช้สิทธิในเครื่องหมายบริการที่ได้จดทะเบียนแล้วของบริษัท ค. กับจำเลย โจทก์ย่อมสามารถตรวจสอบทางทะเบียนได้ว่าผู้อนุญาตกับจำเลยได้ทำสัญญาอนุญาตเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าแล้วหรือไม่ แต่โจทก์ก็มิได้ทำการตรวจสอบ โจทก์กลับเข้าทำสัญญากับจำเลยและชำระค่าสิทธิจำนวน 200,000 บาท ให้แก่จำเลยไป การกระทำของโจทก์ถือได้ว่าเป็นการกระทำตามอำเภอใจเหมือนหนึ่งว่าเพื่อชำระหนี้โดยรู้อยู่ว่าตนไม่มีความผูกพันที่จะต้องชำระ แม้จำเลยจะรับชำระค่าสิทธินั้นไว้โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ แต่โจทก์ก็ไม่มีสิทธิเรียกให้จำเลยคืนค่าสิทธิดังกล่าว ตาม ป.พ.พ. มาตรา 407