คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ม. 15 วรรคหนึ่ง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 105 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7473/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษฐานครอบครองยาเสพติด แม้ฟ้องจำหน่าย – ศาลลงโทษได้หากมีหลักฐานจากการพิจารณา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4,7,15,66,102 โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 3 และที่ 4 ร่วมกับจำเลยที่ 1ที่ 2 และที่ 5 จำหน่ายเฮโรอีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ให้แก่ผู้มีชื่อ แม้โจทก์มิได้บรรยายว่า จำเลยที่ 3และที่ 4 ร่วมกันครอบครองเฮโรอีนของกลางก็ตาม แต่เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยที่ 3 และที่ 4 กับพวกร่วมกันมีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องถือว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้องเกี่ยวกับฐานความผิดอันเป็นข้อแตกต่างกันในรายละเอียดทั้งจำเลยที่ 3 และที่ 4 นำสืบต่อสู้ว่า จำเลยทั้งสองมิได้มีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครอง การบรรยายฟ้องของโจทก์ดังกล่าว จึงไม่เป็นเหตุให้จำเลยที่ 3 และที่ 4 หลงต่อสู้ ศาลย่อมมีอำนาจลงโทษจำเลยที่ 3 และที่ 4ในความผิดฐานร่วมกันมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามที่พิจารณาได้ความได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสองกรณีมิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1848/2542 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. กรณีจำเลยยกข้อเท็จจริงใหม่ในชั้นฎีกา และศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันผลิตเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่ายและร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้อง ในชั้นอุทธรณ์จำเลยอุทธรณ์แต่เพียงว่าการที่จำเลยแบ่งเมทแอมเฟตามีนบรรจุใส่หลอดพลาสติกเพื่อจำหน่ายถือไม่ได้ว่าเป็นการผลิตตามความหมายของคำว่าผลิตตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษพ.ศ.2522 มาตรา 4 และขอให้ลงโทษสถานเบา จำเลยไม่ได้อุทธรณ์ในปัญหาที่ว่าจำเลยไม่ได้แบ่งเมทแอมเฟตามีนบรรจุใส่หลอดพลาสติกเพื่อจำหน่าย ดังนั้น ปัญหาที่ว่าจำเลยแบ่งเมทแอมเฟตามีนบรรจุใส่หลอดพลาสติกเพื่อจำหน่ายหรือไม่ จึงยุติไปแล้วจำเลยจะมาโต้เถียงในชั้นฎีกาว่า โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานมายืนยันว่า จำเลยได้แบ่งเมทแอมเฟตามีนบรรจุใส่หลอดพลาสติกเพื่อจำหน่าย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามฟ้องนั้นหาได้ไม่เพราะเป็นการยกข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ที่จำเลยไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ ฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ.มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ประกอบด้วย ป.วิ.อ.มาตรา 15 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
เมทแอมเฟตามีนที่จำเลยผลิตเพื่อจำหน่ายเป็นจำนวนเดียวกับเมทแอมเฟตามีนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ปัญหาข้อนี้เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย แม้ว่าจำเลยจะมิได้ฎีกาในปัญหานี้ ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นแก้ไขให้ถูกต้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1848/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับวินิจฉัยประเด็นใหม่ที่ไม่ได้ยกขึ้นสู่ศาลอุทธรณ์ และแก้ไขโทษกรรมเดียว
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันผลิตเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่ายและร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้อง ในชั้นอุทธรณ์จำเลยอุทธรณ์แต่เพียงว่าการที่จำเลยแบ่งเมทแอมเฟตามีนบรรจุใส่ หลอดพลาสติกเพื่อจำหน่ายถือไม่ได้ว่าเป็นการผลิตตาม ความหมายของคำว่าผลิตตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4 และขอให้ลงโทษสถานเบา จำเลยไม่ได้ อุทธรณ์ในปัญหาที่ว่าจำเลยไม่ได้แบ่งเมทแอมเฟตามีนบรรจุ ใส่หลอดพลาสติกเพื่อจำหน่าย ดังนั้น ปัญหาที่ว่าจำเลยแบ่งเมทแอมเฟตามีนบรรจุใส่หลอดพลาสติกเพื่อจำหน่าย หรือไม่ จึงยุติไปแล้วจำเลยจะมาโต้เถียงในชั้นฎีกาว่า โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานมายืนยันว่า จำเลยได้แบ่งเมทแอมเฟตามีน บรรจุใส่หลอดพลาสติกเพื่อจำหน่าย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็น ความผิดตามฟ้องนั้นหาได้ไม่เพราะเป็นการยกข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ที่จำเลยไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ ฎีกา ของจำเลยจึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ เมทแอมเฟตามีนที่จำเลยผลิตเพื่อจำหน่ายเป็นจำนวนเดียวกับ เมทแอมเฟตามีนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ปัญหาข้อนี้เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย แม้ว่าจำเลยจะมิได้ฎีกาในปัญหานี้ ศาลฎีกาก็มีอำนาจ ยกขึ้นแก้ไขให้ถูกต้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1159/2542 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทรัพย์สินจากการกระทำผิด: ศาลริบเงินจากการจำหน่ายยาเสพติด แม้ไม่ใช่ของกลางในคดีปัจจุบัน
เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยทั้งสองได้พร้อมกับยึดได้เงินสดของกลาง จากจำเลยที่ 1 และในชั้นจับกุม จำเลยที่ 1 รับว่าเงินสดของกลางจำเลยที่ 1 ได้มาจากการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนก่อนที่ถูกจับในคดีนี้ เงินสดของกลางจึงเป็นทรัพย์สินซึ่งจำเลยที่ 1 ได้มาโดยการกระทำความผิดเพราะการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนอันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้จะไม่ได้มาโดยการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนในคดีนี้โดยตรงก็ตาม ศาลก็มีอำนาจริบเงินสดของกลางดังกล่าวได้ตาม ป.อ.มาตรา 33 (2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1159/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบเงินสดที่ได้จากการจำหน่ายยาเสพติด แม้ไม่ใช่ของกลางในคดีปัจจุบัน
เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยทั้งสองได้พร้อมกับยึดได้เงินสด ของกลาง จากจำเลยที่ 1 และในชั้นจับกุม จำเลยที่ 1 รับว่า เงินสดของกลางจำเลยที่ 1 ได้มาจากการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน ก่อนที่ถูกจับในคดีนี้ เงินสดของกลางจึงเป็นทรัพย์สิน ซึ่งจำเลยที่ 1 ได้มาโดยการกระทำความผิดเพราะการจำหน่าย เมทแอมเฟตามีนอันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้จะไม่ได้มา โดยการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนในคดีนี้โดยตรงก็ตามศาลก็มีอำนาจริบเงินสดของกลางดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 394/2542 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งบรรจุเฮโรอีนเข้าข่ายความผิดฐานผลิตยาเสพติดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ
จำเลยนำเฮโรอีนบรรจุใส่หลอดเครื่องดื่มและใช้เทียนไขจุดไฟลนปิดหัวท้ายอยู่ในขนำ ขณะเจ้าพนักงานตำรวจเข้าตรวจค้นขนำดังกล่าวก็พบเฮโรอีนที่บรรจุในหลอดบิ๊กฝาแดง 1 หลอด ซึ่งพร่องไปบ้างแล้วและเฮโรอีนที่บรรจุในหลอดเครื่องดื่มปิดหัวท้ายอีก 15 หลอด กับพบหลอดเครื่องดื่มเปล่าที่ตัดไว้แล้วและยังไม่ได้ตัดเป็นจำนวนรวม 72 หลอด ทั้งยังพบเทียนไข 2 เล่ม ไม้ขีดไฟ 1 กล่อง ไฟแช็ก1 อัน และมีดคัทเตอร์ขนาดเล็ก 1 เล่ม พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าขณะจำเลยถูกจับจำเลยแบ่งบรรจุเฮโรอีนจากหลอดบิ๊กฝาแดงลงในหลอดเครื่องดื่มไปแล้วและกำลังจะแบ่งบรรจุอีกต่อไป ถือได้ว่าจำเลยทำการผลิตเฮโรอีนตามความหมายแห่ง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4 ซึ่งให้คำนิยามว่า "ผลิต" หมายความว่าเพาะ ปลูก ทำ ผสม ปรุงแปรสภาพ เปลี่ยนรูป สังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ และให้หมายความรวมตลอดถึงการแบ่งบรรจุหรือรวมบรรจุด้วยแล้ว ทั้งนี้แม้จำเลยจะแบ่งบรรจุเฮโรอีนโดยมิได้มีการดัดแปลง เจือปน หรือเพิ่มเติมสิ่งใดก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 394/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งบรรจุยาเสพติดเข้าข่ายความผิดฐานผลิต แม้ไม่มีการดัดแปลง
จำเลยนำเฮโรอีนบรรจุใส่หลอดเครื่องดื่มและใช้ เทียนไขจุดไฟลนปิดหัวท้ายอยู่ในขนำ ขณะเจ้าพนักงานตำรวจ เข้าตรวจค้นขนำดังกล่าวก็พบเฮโรอีนที่บรรจุในหลอดบิ๊ก ฝาแดง 1 หลอด ซึ่งพร่อง ไปบ้างแล้วและเฮโรอีนที่บรรจุในหลอดเครื่องดื่มปิดหัวท้ายอีก 15 หลอด กับพบหลอดเครื่องดื่มเปล่าที่ตัดไว้แล้วและยังไม่ได้ตัดเป็น จำนวนรวม 72 หลอด ทั้งยังพบเทียนไข 2 เล่มไม้ขีดไฟ 1 กล่อง ไฟแช็ก1อันและมีดคัทเตอร์ ขนาดเล็ก1 เล่ม พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าขณะจำเลยถูกจับจำเลยแบ่งบรรจุเฮโรอีนจากหลอดบิ๊ก ฝาแดงลงในหลอดเครื่องดื่มไปแล้วและกำลังจะแบ่งบรรจุอีกต่อไปถือได้ว่าจำเลยทำการผลิตเฮโรอีนตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4ซึ่งให้คำนิยามว่า "ผลิต" หมายความว่า เพาะ ปลูกทำ ผสม ปรุงแปรสภาพ เปลี่ยนรูป สังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์และให้หมายความรวมตลอดถึงการแบ่งบรรจุหรือรวมบรรจุด้วยแล้ว ทั้งนี้แม้จำเลยจะแบ่งบรรจุเฮโรอีนโดยมิได้มีการดัดแปลง เจือปน หรือเพิ่มเติมสิ่งใดก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6707/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนผสมอีเฟดรีนเป็นกรรมเดียว
จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 780 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และได้จำหน่ายให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อไปทั้งหมด เจ้าพนักงานตำรวจจับได้พร้อมยึดเมทแอมเฟตามีนทั้งหมดเป็นของกลาง ผลการตรวจพิสูจน์ของกลางทั้ง 780เม็ด พบว่ามีปริมาณเมทแอมเฟตามีนคำนวณเป็นน้ำหนักสารบริสุทธิ์ได้ 10.783 กรัมและมีปริมาณอีเฟดรีนคำนวณเป็นน้ำหนักสารบริสุทธิ์ได้ 0.618 กรัม โดยของกลางแต่ละเม็ดมีส่วนผสมของเมทแอมเฟตามีนและอีเฟดรีน ดังนี้ เมื่อเมทแอมเฟตามีนของกลางทั้งหมดแต่ละเม็ดถูกผสมด้วยอีเฟดรีนบางส่วนก็เพื่อวัตถุประสงค์ให้เป็นเมทแอมเฟตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 เมทแอมเฟตามีนที่มีอีเฟดรีนผสมอยู่จึงเป็นวัตถุอันเดียว การที่จำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวไปเป็นการกระทำคราวเดียวกัน จึงเป็นการกระทำผิดเพียงกรรมเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6707/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายยาเสพติดผสม (เมทแอมเฟตามีนและอีเฟดรีน) ถือเป็นกรรมเดียว แม้มีส่วนผสมหลายชนิด
จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 780 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และได้จำหน่ายให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อไปทั้งหมดเจ้าพนักงานตำรวจจับได้พร้อมยึดเมทแอมเฟตามีนทั้งหมดเป็นของกลาง ผลการตรวจพิสูจน์ของกลางทั้ง 780 เม็ดพบว่ามีปริมาณเมทแอมเฟตามีนคำนวณเป็นน้ำหนักสารบริสุทธิ์ได้ 10.783 กรัม และมีปริมาณอีเฟดรีนคำนวณเป็นน้ำหนักสารบริสุทธิ์ได้ 0.618 กรัม โดยของกลางแต่ละเม็ดมีส่วนผสมของเมทแอมเฟตามีนและอีเฟดรีน ดังนี้ เมื่อเมทแอมเฟตามีนของกลางทั้งหมดแต่ละเม็ดถูกผสมด้วยอีเฟดรีนบางส่วนก็เพื่อวัตถุประสงค์ให้เป็นเมทแอมเฟตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 เมทแอมเฟตามีนที่มีอีเฟดรีนผสมอยู่จึงเป็นวัตถุอันเดียว การที่จำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวไปเป็นการกระทำคราวเดียวกัน จึงเป็นการกระทำผิด เพียงกรรมเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6986/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เปลี่ยนแปลงกฎหมายระหว่างการพิจารณาคดี: ผลต่อการลงโทษความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
ขณะจำเลยกระทำความผิดฐานขายเมทแอมเฟตามีนอันเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทพ.ศ.2518 มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่ง ต้องรับโทษตามมาตรา 89 ซึ่งระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท แต่ในระหว่างการพิจารณาของศาลได้มีประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 97 (พ.ศ.2539)ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องระบุชื่อและจัดแบ่งประเภทวัตถุออกฤทธิ์ตามความใน พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518 เดิมทุกฉบับและให้วัตถุออกฤทธิ์ที่ระบุชื่อในบัญชีท้ายประกาศเป็นวัตถุออกฤทธิ์ตามความในพ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518 ซึ่งตามบัญชีท้ายประกาศกระทรวงสาธารณสุขดังกล่าวไม่มีระบุว่า เมทแอมเฟตามีนเป็นวัตถุออกฤทธิ์อีกต่อไป แต่ต่อมารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 135 (พ.ศ.2539) เรื่อง ระบุชื่อและประเภทยาเสพติดให้โทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ซึ่งตามบัญชีท้ายประกาศลำดับที่ 20 ระบุชื่อเมทแอมเฟตามีน เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ตามพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 จึงมีผลให้การขายเมทแอมเฟตามีนเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่งต้องรับโทษตามมาตรา 66 วรรคหนึ่ง ซึ่งระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงจำคุกตลอดชีวิตและปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงห้าแสนบาท และไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518 อีกต่อไป อันเป็นกรณีกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำความผิดแตกต่างกับกฎหมายที่ใช้ในภายหลังการกระทำความผิดซึ่งให้ใช้กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำความผิดไม่ว่าในทางใด ป.อ.มาตรา 3วรรคหนึ่ง คือ พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518 มาตรา 89
of 11