พบผลลัพธ์ทั้งหมด 221 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1961/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งปรับผู้ประกันที่ถึงที่สุดแล้ว ไม่อุทธรณ์ ไม่สามารถรื้อฟื้นได้
ศาลชั้นต้นสั่งปรับผู้ประกันแล้ว หากผู้ประกันไม่อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวย่อมถึงที่สุด ผู้ประกันจะมายื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งปรับผู้ประกันและคืนหลักประกันในภายหลังอีกไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1961/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งปรับผู้ประกันถึงที่สุดแล้ว ไม่อุทธรณ์ ไม่สามารถขอเพิกถอนได้
ศาลชั้นต้นสั่งปรับผู้ประกันแล้ว หากผู้ประกันไม่อุทธรณ์ คำสั่งดังกล่าวย่อมถึงที่สุด ผู้ประกันจะมายื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งปรับผู้ประกันและคืนหลักประกันในภายหลังอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1633/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลบหนีของผู้ถูกปล่อยชั่วคราวและผลกระทบต่อค่าปรับ ผู้ประกันไม่มีส่วนในการจับกุม
จำเลยได้รับการปล่อยชั่วคราวแล้วหลบหนี ศาลมีคำสั่งปรับผู้ประกัน ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยได้ในคดีอื่นผู้ประกันจึงแจ้งให้ศาลทราบ กรณียังถือไม่ได้ว่าผู้ประกันมีส่วนในการจับกุมจำเลยอันเป็นเหตุที่จะลดหย่อนค่าปรับให้.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1633/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปรับผู้ประกันเนื่องจากจำเลยหลบหนี: ศาลยืนตามคำสั่งเดิม แม้ผู้ประกันแจ้งจับจำเลยในคดีอื่น
จำเลยได้รับการปล่อยชั่วคราวแล้วหลบหนี ศาลมีคำสั่งปรับผู้ประกัน ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยได้ในคดีอื่นผู้ประกันจึงแจ้งให้ศาลทราบ กรณียังถือไม่ได้ว่าผู้ประกันมีส่วนในการจับกุมจำเลยอันเป็นเหตุที่จะลดหย่อนค่าปรับให้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1400/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันภัย: การไม่นำตัวจำเลยมาศาล, การประวิงคดี, และการลดค่าปรับตามสมควร
ผู้ประกันไม่นำตัวจำเลยมาส่งศาลตามกำหนด โดยอ้างว่าตัวจำเลยป่วยถึงสองนัดติดต่อกัน ถึงแม้จะมีใบรับรองแพทย์มาแสดงต่อศาลแต่ความเห็นของแพทย์ก็มิได้ระบุว่าอาการป่วยของจำเลยรุนแรงจนถึงขนาดไม่สามารถมาศาลได้ และเมื่อศาลให้ทนายจำเลยนำแพทย์ที่ออกใบรับรองมาศาลเพื่อไต่สวน ทนายจำเลยก็ไม่สามารถนำแพทย์มาให้ศาลไต่สวนได้ โดยอ้างลอย ๆ ว่าติดราชการพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่าจำเลยประวิงคดี และถือได้ว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกัน แต่เมื่อศาลมีคำสั่งปรับผู้ประกันเต็มตามสัญญาประกันและออกหมายจับจำเลย ผู้ประกันก็ได้พยายามติดตามนำตัวจำเลยมามอบต่อศาลภายในเวลาเพียง 2 วันนับแต่วันที่ศาลสั่งปรับผู้ประกัน และในวันที่ศาลสั่งปรับตามสัญญาประกันผู้ประกันก็มาศาล แสดงให้เห็นว่าผู้ประกันเอาใจใส่ในหน้าที่ ทั้งช่วยติดตามนำตัวจำเลยมามอบต่อศาลโดยไม่ชักช้า เป็นการให้ความสะดวกรวดเร็วแก่ศาล มีเหตุที่ศาลจะลดค่าปรับให้ตามสมควร.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1316/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดค่าปรับสัญญาประกันตัวจากการที่ผู้ประกันติดตามตัวจำเลยได้เอง แม้ผิดสัญญาแต่ความผิดจำเลยเล็กน้อย
เมื่อโจทก์ยื่นฟ้อง ผู้ประกันไม่สามารถส่งตัวจำเลยซึ่งได้ประกันตัวไปในชั้นฝากขังต่อศาลได้ ศาลชั้นต้นสั่งปรับเต็มตามสัญญาประกัน หลังจากนั้นผู้ประกันสามารถติดตามตัวจำเลยโดยนำเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมจำเลยมาส่งศาลได้เพราะความพยายามขวนขวายของผู้ประกัน ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการติดตามเป็นจำนวนไม่น้อย ทั้งความผิดของจำเลยเป็นความผิดเล็กน้อย ดังนี้ศาลฎีกาย่อมยกเป็นเหตุลดค่าปรับให้ผู้ประกันได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4282/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งมอบตัวจำเลยหลังถูกจำคุกในคดีอื่น ถือเป็นการถอนประกันเดิม ศาลไม่สามารถปรับนายประกันได้
การที่ผู้ประกันยื่นคำร้องแจ้งให้ศาลชั้นต้นทราบว่า จำเลยซึ่งศาลชั้นต้นอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยมีประกันถูกศาลชั้นต้นนั้นพิพากษาให้จำคุกในอีกคดีหนึ่ง และตัวจำเลยถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ถือได้ว่าผู้ประกันได้ส่งมอบตัวจำเลยต่อศาลชั้นต้นแล้ว และการที่ศาลชั้นต้นนั้นสั่งเบิกคืนหลักประกันให้ผู้ประกันในวันเดียวกันนั้นเอง ก็เป็นการที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ผู้ประกันถอนประกันจำเลยแล้ว มิฉะนั้นศาลชั้นต้นคงไม่ยินยอมให้เบิกคืนหลักประกันที่ให้ไว้ไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2794/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการบังคับจำนอง: บังคับจำนองเกินวงเงินที่ระบุในสัญญาไม่ได้ แม้มีหนี้ดอกเบี้ย
จำเลยที่ 1 กู้เงินผู้ร้องไป 260,700 บาท โดยจำนองที่ดินพร้อมด้วยเรือนพิพาทเป็นประกันในวงเงินไม่เกิน 97,700 บาท ผู้ร้องฟ้องจำเลยที่ 1 เพื่อบังคับจำนอง ศาลพิพากษาให้จำเลยใช้หนี้ดังกล่าว และเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินออกขายทอดตลาดได้เงิน 115,000 บาท แต่มิได้ยึดเรือนพิพาท จำเลยที่ 1 ยังคงค้างชำระหนี้ผู้ร้องอยู่อีก 130,000 บาท ดังนี้ ผู้ร้องจะบังคับจำนองเอากับที่ดินและเรือนพิพาทได้ไม่เกิน 97,700 บาท เท่านั้นไม่ว่าจะแยกบังคับหรือบังคับเอาพร้อมกันเมื่อผู้ร้องบังคับจำนองเฉพาะที่ดินได้เงินจำนวน 115,000 บาท เกินจำนวนเงินจำนองที่ระบุไว้ ก็ไม่มีสิทธิจะบังคับจำนองเอากับเรือนพิพาทอีกแม้การจำนองจะคลุมถึงหนี้อื่นเช่นดอกเบี้ยและค่าฤชาธรรมเนียมด้วย แต่ผู้ร้องก็ไม่ได้นำสืบว่าหนี้ดังกล่าวมีจำนวนแน่นอนแยกได้จากหนี้สามัญเท่าใด ผู้ร้องจึงไม่อาจอาศัยอำนาจแห่งการจำนองนั้นขอรับชำระหนี้จากการขายทอดตลาดเรือนพิพาทก่อนเจ้าหนี้อื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2794/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำนองเกินวงเงิน: สิทธิบังคับจำนองสงวนเฉพาะวงเงินที่ระบุ แม้มีหนี้อื่นเพิ่ม
จำเลยที่ 1 กู้เงินผู้ร้องไป 260,700 บาท โดยจำนองที่ดินพร้อมด้วยเรือนพิพาทเป็นประกันในวงเงินไม่เกิน 97,700 บาทผู้ร้องฟ้องจำเลยที่ 1 เพื่อบังคับจำนอง ศาลพิพากษาให้จำเลยใช้หนี้ดังกล่าว และเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินออกขายทอดตลาดได้เงิน 115,000 บาท แต่มิได้ยึดเรือนพิพาท จำเลยที่ 1 ยังคงค้างชำระหนี้ผู้ร้องอยู่อีก 130,000 บาท ดังนี้ ผู้ร้องจะบังคับจำนองเอากับที่ดินและเรือนพิพาทได้ไม่เกิน 97,700 บาท เท่านั้นไม่ว่าจะแยกบังคับหรือบังคับเอาพร้อมกันเมื่อผู้ร้องบังคับจำนองเฉพาะที่ดินได้เงินจำนวน 115,000 บาท เกินจำนวนเงินจำนองที่ระบุไว้ ก็ไม่มีสิทธิจะบังคับจำนองเอากับเรือนพิพาทอีก แม้การจำนองจะคลุมถึงหนี้อื่นเช่นดอกเบี้ยและค่าฤชาธรรมเนียมด้วย แต่ผู้ร้องก็ไม่ได้นำสืบว่าหนี้ดังกล่าวมีจำนวนแน่นอนแยกได้จากหนี้สามัญเท่าใด ผู้ร้องจึงไม่อาจอาศัยอำนาจแห่งการจำนองนั้นขอรับชำระหนี้จากการขายทอดตลาดเรือนพิพาทก่อนเจ้าหนี้อื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2794/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการบังคับจำนอง: จำนวนเงินจำนองเกินจำนวนที่จำนองไว้ สิทธิในการบังคับจำนองเรือนพิพาท
จำเลยที่1กู้เงินผู้ร้องไป260,700บาทโดยจำนองที่ดินพร้อมด้วยเรือนพิพาทเป็นประกันในวงเงินไม่เกิน97,700บาทผู้ร้องฟ้องจำเลยที่1เพื่อบังคับจำนองศาลพิพากษาให้จำเลยใช้หนี้ดังกล่าวและเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินออกขายทอดตลาดได้เงิน115,000บาทแต่มิได้ยึดเรือนพิพาทจำเลยที่1ยังคงค้างชำระหนี้ผู้ร้องอยู่อีก130,000บาทดังนี้ผู้ร้องจะบังคับจำนองเอากับที่ดินและเรือนพิพาทได้ไม่เกิน97,700บาทเท่านั้นไม่ว่าจะแยกบังคับหรือบังคับเอาพร้อมกันเมื่อผู้ร้องบังคับจำนองเฉพาะที่ดินได้เงินจำนวน115,000บาทเกินจำนวนเงินจำนองที่ระบุไว้ก็ไม่มีสิทธิจะบังคับจำนองเอากับเรือนพิพาทอีกแม้การจำนองจะคลุมถึงหนี้อื่นเช่นดอกเบี้ยและค่าฤชาธรรมเนียมด้วยแต่ผู้ร้องก็ไม่ได้นำสืบว่าหนี้ดังกล่าวมีจำนวนแน่นอนแยกได้จากหนี้สามัญเท่าใดผู้ร้องจึงไม่อาจอาศัยอำนาจแห่งการจำนองนั้นขอรับชำระหนี้จากการขายทอดตลาดเรือนพิพาทก่อนเจ้าหนี้อื่น.