คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1378

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 355 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินหลังแลกเปลี่ยน แม้ไม่มีหนังสือ แต่มี น.ส.3ก. ครบ 1 ปี จำเลยหมดสิทธิเอาคืน
การแลกเปลี่ยนที่ดินแม้มิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่ที่ดินที่ตกลงแลกเปลี่ยนกันเป็นที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) โจทก์ที่ 2 ได้ครอบครองอย่างเป็นเจ้าของมีเขตแน่นอน อนึ่งข้อเท็จจริงแห่งคดีฟังได้ด้วยว่าโจทก์ได้ครอบครองจนเกิน 1 ปีแล้ว จำเลยย่อมหมดสิทธิเอาคืนซึ่งการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375
การแลกเปลี่ยนที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) โดยต่างฝ่ายต่างเข้าครอบครองที่ดินของอีกฝ่ายหนึ่งที่แลกเปลี่ยนกันผู้แลกเปลี่ยนไม่มีหน้าที่ทางนิติกรรมที่จะจดทะเบียนแบ่งแยกให้หรือรับโอน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินหลังการแลกเปลี่ยนที่ไม่จดทะเบียน: สิทธิครอบครองเกิดหลัง 1 ปี
การแลกเปลี่ยนที่ดินแม้มิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แต่ที่ดินที่ตกลงแลกเปลี่ยนกันเป็นที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3ก.)โจทก์ที่2ได้ครอบครองอย่างเป็นเจ้าของมีเขตแน่นอนอนึ่งข้อเท็จจริงแห่งคดีฟังได้ด้วยว่าโจทก์ได้ครอบครองจนเกิน1ปีแล้วจำเลยย่อมหมดสิทธิเอาคืนซึ่งการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1375. การแลกเปลี่ยนที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3)โดยต่างฝ่ายต่างเข้าครอบครองที่ดินของอีกฝ่ายหนึ่งที่แลกเปลี่ยนกันผู้แลกเปลี่ยนไม่มีหน้าที่ทางนิติกรรมที่จะจดทะเบียนแบ่งแยกให้หรือรับโอน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2883/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร้องขอกันส่วนที่ดิน เจ้าของรวมมีสิทธิขอให้แบ่งขายเฉพาะส่วนของตนก่อนได้ หากมีการแบ่งครอบครองเป็นส่วนสัด
ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ซึ่งมีชื่อจำเลยและผู้ร้องเป็นเจ้าของรวมผู้ร้องได้ครอบครองที่ดินครึ่งหนึ่งทางทิศเหนือเป็นส่วนสัดมาตั้งแต่ได้รับการยกให้จากบิดาเมื่อโจทก์รับจำนองที่ดินส่วนที่เป็นของจำเลยโจทก์ก็ทราบว่ารับจำนองเฉพาะที่ดินส่วนที่อยู่ทางทิศใต้ดังนี้โจทก์จะบังคับคดียึดที่ดินทั้งแปลงออกขายทอดตลาดให้ผู้ร้องกันเงินครึ่งหนึ่งที่ได้จากการขายทอดตลาดมิได้ผู้ร้องย่อมมีสิทธิที่จะขอให้กันที่ดินส่วนทางด้านทิศเหนือของผู้ร้องออกก่อนขายทอดตลาด กรณีเช่นนี้เป็นเรื่องการร้องขอกันส่วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287 มิใช่เป็นการร้องขัดทรัพย์ตามมาตรา 288 จึงเรียกค่าขึ้นศาลอย่างคดีมีทุนทรัพย์มิได้เมื่อศาลอุทธรณ์เรียกค่าขึ้นศาลมาไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาย่อมสั่งให้คืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2831/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดกรรมเดียวต่อกฎหมายหลายบท: ใช้เครื่องชั่งผิดอัตราเพื่อเอาเปรียบในการค้า
จำเลยมีไว้เพื่อใช้ซึ่งเครื่องชั่งที่ผิดอัตรา และได้ใช้เครื่องชั่งนั้นในกิจการต่อเนื่องกับผู้อื่น ซึ่งต่างก็มีวัตถุประสงค์เพื่อเอาเปรียบในการค้าเช่นเดียวกัน จึงเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ศาลล่างทั้งสองลงโทษเป็น 2 กระทง ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาก็หยิบยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2434/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินมี น.ส.3 ต้องจดทะเบียน มิฉะนั้นสิทธิครอบครองยังไม่สมบูรณ์ แต่การครอบครองภายหลังย่อมมีผล
การโอนสิทธิครอบครองเนื่องจากมีการซื้อขายที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์แล้วนั้นย่อมทำได้โดยสมบูรณ์ ด้วยการทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม ประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 4 ทวิ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 96 ข้อ 2 ซึ่งเป็นการกระทำตามแบบของกฎหมายประการ หนึ่งกับกระทำการโอนโดยข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377, 1378 อีกประการหนึ่งซึ่งไม่ต้องมีแบบการที่โจทก์ขายที่พิพาทอันเป็นที่มี น.ส.3 ให้จำเลยโดยทำหนังสือสัญญาซื้อขายกันเองและจำเลยได้เข้าครอบครองยึดถือที่พิพาทหลังจากทำการซื้อจากโจทก์แล้วโดยปลูกบ้าน ปลูกต้นไม้และสร้างยุ้งข้าวจำเลยจึงได้มาซึ่งสิทธิครอบครองโดยประการหลังหาจำต้องทำตามแบบของนิติกรรมไม่ และกรณีเช่นนี้ไม่เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 115

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2434/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินมีโฉนด การโอนสิทธิครอบครองทำได้โดยการทำสัญญาซื้อขายและครอบครองทรัพย์สินจริง
การโอนสิทธิครอบครองเนื่องจากมีการซื้อขายที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์แล้วนั้นย่อมทำได้โดยสมบูรณ์ ด้วยการทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 4ทวิ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 96 ข้อ 2 ซึ่งเป็นการกระทำตามแบบของกฎหมายประการ หนึ่งกับกระทำการโอนโดยข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377,1378 อีกประการหนึ่งซึ่งไม่ต้องมีแบบการที่โจทก์ขายที่พิพาทอันเป็นที่มีน.ส.3ให้จำเลยโดยทำหนังสือสัญญาซื้อขายกันเองและจำเลยได้เข้าครอบครองยึดถือที่พิพาทหลังจากทำการซื้อจาก โจทก์แล้วโดยปลูกบ้าน ปลูกต้นไม้ และสร้างยุ้งข้าวจำเลยจึงได้มาซึ่งสิทธิครอบครองโดยประการหลัง หาจำต้องทำตามแบบของนิติกรรมไม่ และกรณีเช่นนี้ไม่เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 115

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2012/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งไม่เคลือบคลุม สัญญาซื้อขายที่ดิน สิทธิครอบครอง การส่งมอบที่ดิน และหน้าที่ชำระหนี้
การที่จะพิจารณาว่าฟ้องแย้งเคลือบคลุมหรือไม่ต้องพิจารณาคำให้การและฟ้องแย้งทั้งฉบับรวมกัน(คำให้การและฟ้องแย้งที่จำเลยขอให้บังคับโจทก์ปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายที่ดินที่ถือได้ว่ามิได้ขัดกันหรือแย้งกันเป็นสองฝักสองฝ่าย เป็นฟ้องแย้งที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 ประกอบด้วยมาตรา177) โจทก์ผู้ซื้อทำสัญญาซื้อขายและมัดจำที่ดินซึ่งมีสภาพเป็นป่าที่จำเลยผู้ขายใช้สิทธิครอบครองอยู่เพื่อมาบุกเบิกให้เตียนใช้ทำประโยชน์ได้เอาเองทั้งนี้โดยไม่มีเจตนาที่จะไปทำการโอนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เมื่อได้มีการตรวจสอบการกั้นเขตและวัดอาณาเขตที่ดินดังกล่าวทั้งสี่ด้านและคำนวณเนื้อที่ได้ตามที่ตกลงกันและจำเลยได้ส่งมอบที่ดินที่ซื้อขายให้โจทก์แล้ว แม้ต่อมาได้มีผู้อื่นบุกรุกเข้าทำประโยชน์ในที่ดินนั้นทั้งแปลงจนโจทก์ไม่สามารถเข้าครอบครองถากถางให้แล้วเสร็จได้ตามเงื่อนไขการชำระเงินในสัญญาที่ว่าเมื่อโจทก์ถากถางแล้วเสร็จจะได้มาจ่ายเงินให้ครบตามสัญญาให้กับจำเลยก็ตาม ย่อมเป็นความผิดของโจทก์เองที่ไม่รีบเข้าถากถางครอบครองเสียปล่อยปละละเลยจนเสียสิทธิไปอันไม่ใช่ความผิดของจำเลยโจทก์จึงต้องชำระเงินส่วนที่เหลือตามสัญญาให้แก่จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2012/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งไม่เคลือบคลุม สัญญาซื้อขายที่ดิน สิทธิครอบครอง การส่งมอบที่ดิน และหน้าที่ชำระเงิน
การที่จะพิจารณาว่าฟ้องแย้งเคลือบคลุมหรือไม่ต้องพิจารณาคำให้การและฟ้องแย้งทั้งฉบับรวมกัน(คำให้การและฟ้องแย้งที่จำเลยขอให้บังคับโจทก์ปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายที่ดินที่ถือได้ว่ามิได้ขัดกันหรือแย้งกันเป็นสองฝักสองฝ่าย เป็นฟ้องแย้งที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 ประกอบด้วยมาตรา 177)
โจทก์ผู้ซื้อทำสัญญาซื้อขายและมัดจำที่ดินซึ่งมีสภาพเป็นป่าที่จำเลยผู้ขายใช้สิทธิครอบครองอยู่เพื่อมาบุกเบิกให้เตียนใช้ทำประโยชน์ได้เอาเองทั้งนี้โดยไม่มีเจตนาที่จะไปทำการโอนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เมื่อได้มีการตรวจสอบการกั้นเขตและวัดอาณาเขตที่ดินดังกล่าวทั้งสี่ด้านและคำนวณเนื้อที่ได้ตามที่ตกลงกันและจำเลยได้ส่งมอบที่ดินที่ซื้อขายให้โจทก์แล้ว แม้ต่อมาได้มีผู้อื่นบุกรุกเข้าทำประโยชน์ในที่ดินนั้นทั้งแปลงจนโจทก์ไม่สามารถเข้าครอบครองถากถางให้แล้วเสร็จได้ตามเงื่อนไขการชำระเงินในสัญญาที่ว่าเมื่อโจทก์ถากถางแล้วเสร็จจะได้มาจ่ายเงินให้ครบตามสัญญาให้กับจำเลยก็ตาม ย่อมเป็นความผิดของโจทก์เองที่ไม่รีบเข้าถากถางครอบครองเสียปล่อยปละละเลยจนเสียสิทธิไปอันไม่ใช่ความผิดของจำเลยโจทก์จึงต้องชำระเงินส่วนที่เหลือตามสัญญาให้แก่จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 413/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์หลังสัญญาจะซื้อขายไม่สมบูรณ์ จำเลยสละการครอบครอง โจทก์ยึดถือเพื่อตน
จำเลยทำสัญญาจะขายที่นาพิพาทซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่าให้แก่ ก. สามีโจทก์ และได้ส่งมอบการครอบครองให้ตั้งแต่วันทำสัญญาแล้ว โดยมีข้อตกลงกันว่าจะไปขอออก น.ส.3 แล้วจดทะเบียนโอนในภายหลัง. ต่อมาจำเลยและสามีโจทก์ไปยื่นเรื่องราวขอขายและขอออก น.ส.3 ต่อทางการ แต่ในที่สุดทางการไม่ออก น.ส.3 ให้จึงยังมิได้จดทะเบียนโอนตามที่ตกลงกันไว้ แม้สามีโจทก์เข้าครอบครองที่นาพิพาทตอนแรกตามสัญญาจะซื้อขายเป็นการครอบครองแทนจำเลยผู้ขายก็ตาม แต่ภายหลังจากที่ไม่สามารถออก น.ส.3 ได้ สามีโจทก์ก็ได้ไปแจ้งการครอบครองและนำสำรวจเสียภาษีบำรุงท้องที่ เมื่อสามีโจทก์ตายโจทก์ได้เอาที่นาพิพาทให้จำเลยเช่า พฤติการณ์แห่งคดีเช่นนี้เป็นที่เห็นได้ว่า เมื่อจำเลยไม่สามารถที่จะออก น.ส.3 สำหรับที่พิพาทเพื่อจดทะเบียนสิทธิโอนที่นาพิพาทให้แก่สามีโจทก์แล้ว ทั้งจำเลยและสามีโจทก์ก็ไม่ได้คำนึงถึงการที่จะทำการจดทะเบียนสิทธิที่นาพิพาทให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป ถือได้ว่าจำเลยสละการครอบครองที่นาพิพาทให้แก่สามีโจทก์และโจทก์โดยเด็ดขาดแล้ว สามีโจทก์และโจทก์ได้ยึดถือที่นาพิพาทโดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตนจึงเป็นเจ้าของผู้มีสิทธิครอบครองที่นาพิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 413/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละการครอบครองที่ดิน - สิทธิครอบครอง - เจตนาถือครองเพื่อตนเอง
จำเลยทำสัญญาจะขายที่นาพิพาทซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่าให้แก่ก. สามีโจทก์ และได้ส่งมอบการครอบครองให้ตั้งแต่วันทำสัญญาแล้ว โดยมีข้อตกลงกันว่าจะไปขอออก น.ส.3 แล้วจดทะเบียนโอนในภายหลัง. ต่อมาจำเลยและสามีโจทก์ไปยื่นเรื่องราวขอขายและขอออก น.ส.3 ต่อทางการ แต่ในที่สุดทางการไม่ออก น.ส.3 ให้จึงยังมิได้จดทะเบียนโอนตามที่ตกลงกันไว้ แม้สามีโจทก์เข้าครอบครองที่นาพิพาทตอนแรกตามสัญญาจะซื้อขายเป็นการครอบครองแทนจำเลยผู้ขายก็ตามแต่ภายหลังจากที่ไม่สามารถออก น.ส.3 ได้ สามีโจทก์ก็ได้ไปแจ้งการครอบครองและนำสำรวจเสียภาษีบำรุงท้องที่ เมื่อสามีโจทก์ตายโจทก์ได้เอาที่นาพิพาทให้จำเลยเช่าพฤติการณ์แห่งคดีเช่นนี้เป็นที่เห็นได้ว่า เมื่อจำเลยไม่สามารถที่จะออก น.ส.3 สำหรับที่พิพาทเพื่อจดทะเบียนสิทธิโอนที่นาพิพาทให้แก่สามีโจทก์แล้ว ทั้งจำเลยและสามีโจทก์ก็ไม่ได้คำนึงถึงการที่จะทำการจดทะเบียนสิทธิที่นาพิพาทให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป ถือได้ว่าจำเลยสละการครอบครองที่นาพิพาทให้แก่สามีโจทก์และโจทก์โดยเด็ดขาดแล้ว สามีโจทก์และโจทก์ได้ยึดถือที่นาพิพาทโดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตนจึงเป็นเจ้าของผู้มีสิทธิครอบครองที่นาพิพาท
of 36