คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 475

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 76 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 471/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าช่วงเป็นโมฆะเมื่อผู้เช่าเดิมผิดสัญญาและถูกขับไล่ สิทธิการเช่าช่วงจึงตกไป
จำเลยให้ อ. เช่าที่พิพาทโดย อ. มีสิทธินำไปให้เช่าช่วงได้ อ. นำที่พิพาทไปให้โจทก์เช่าช่วงโดยทำหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์ไปจดทะเบียนการเช่าช่วงแต่เมื่อ อ. ประพฤติผิดสัญญาเช่าที่ทำไว้กับจำเลยโดยไม่ชำระค่าเช่า จนจำเลยต้องบอกเลิกสัญญาฟ้องขับไล่ และศาลพิพากษาขับไล่ อ. ออกจากที่พิพาทแล้ว อ. ก็หมดสิทธิครอบครองและให้โจทก์เช่าช่วงที่พิพาทได้ต่อไปเหตุนี้โจทก์จึงจะใช้หนังสือมอบอำนาจของ อ. มาบังคับให้จำเลยไปจดทะเบียนการเช่าที่พิพาทให้โจทก์หาได้ไม่ ไม่ว่าการเช่าช่วงที่โจทก์อ้างจะกระทำกันก่อนหรือหลังที่ศาลพิพากษาให้ขับไล่ อ. ออกไปจากที่พิพาทผลของคดีก็ไม่แตกต่างกัน หากโจทก์ได้รับความเสียหายอย่างไร ชอบที่จะไปว่ากล่าวกับ อ.ผู้ให้เช่าช่วงแล้วประพฤติผิดสัญญาดังกล่าวต่อไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1885/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีรับผิดจากการซื้อขาย: การยอมตามบุคคลภายนอกต้องสมัครใจ มิใช่การจำยอมต่อกฎหมาย
การยอมตามที่บุคคลภายนอกเรียกร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 481 นั้น มีความหมายว่า ต้องเป็นการยอมโดยสมัครใจ การที่เจ้าพนักงานศุลกากรยึดรถยนต์ที่โจทก์ซื้อจากจำเลยไปจากโจทก์โดยอ้างอำนาจของกฎหมาย ซึ่งหากโจทก์ไม่ยอมให้ยึดก็อาจต้องมีความผิดในทางอาญา จึงไม่เป็นการยอมตามที่บุคคลภายนอกเรียกร้องตามมาตรา 481 ความรับผิดของจำเลยผู้ขายรถยนต์ดังกล่าวไม่อยู่ในบังคับอายุความตามมาตรา481 แต่อยู่ในบังคับอายุความทั่วไปตามมาตรา 164

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1885/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความความรับผิดของผู้ขาย กรณีผู้ซื้อยอมตามคำเรียกร้องของเจ้าพนักงาน
การยอมตามที่บุคคลภายนอกเรียกร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 481 นั้น มีความหมายว่าต้องเป็นการยอมโดยสมัครใจ การที่เจ้าพนักงานศุลกากรยึดรถยนต์ที่โจทก์ซื้อจากจำเลยไปจากโจทก์โดยอ้างอำนาจของกฎหมาย ซึ่งหากโจทก์ไม่ยอมให้ยึดก็อาจต้องมีความผิดในทางอาญา จึงไม่เป็นการยอมตามที่บุคคลภายนอกเรียกร้องตามมาตรา 481 ความรับผิดของจำเลยผู้ขายรถยนต์ดังกล่าวไม่อยู่ในบังคับอายุความตามมาตรา 481แต่อยู่ในบังคับอายุความทั่วไปตามมาตรา 164

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1885/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความการฟ้องคดีรับผิดจากการซื้อขาย: การยอมตามบุคคลภายนอกต้องเป็นความสมัครใจ
การยอมตามที่บุคคลภายนอกเรียกร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 481 นั้น มีความหมายว่า ต้องเป็นการยอมโดยสมัครใจ การที่เจ้าพนักงานศุลกากรยึดรถยนต์ที่โจทก์ซื้อจากจำเลยไปจากโจทก์โดยอ้างอำนาจของกฎหมาย ซึ่งหากโจทก์ไม่ยอมให้ยึดก็อาจต้องมีความผิดในทางอาญา จึงไม่เป็นการยอมตามที่บุคคลภายนอกเรียกร้องตามมาตรา 481 ความรับผิดของจำเลยผู้ขายรถยนต์ดังกล่าวไม่อยู่ในบังคับอายุความตามมาตรา481 แต่อยู่ในบังคับอายุความทั่วไปตามมาตรา 164.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4164/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากจำนองที่ดินซ้ำซ้อน ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คดีเดิมโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยโอนที่ดินให้ตามสัญญาเช่าซื้อส่วนคดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยให้รับผิดชดใช้ค่าเสียหายด้วยเหตุที่จำเลยนำที่ดินดังกล่าวไปจำนองไว้กับธนาคารแล้วไม่ไถ่จำนองจนในที่สุดมีการบังคับจำนอง ทำให้ไม่อาจโอนที่ดินนั้นให้โจทก์ได้ มิได้ฟ้องโดยอาศัยข้อผูกพันตามสัญญาเช่าซื้อประเด็นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยในคดีนี้จึงเป็นคนละประเด็นกับในคดีที่ได้เคยฟ้องร้องกันมาแล้ว ฟ้องโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1959/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าบำเหน็จนายหน้า: การคืนเงินเมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุดก่อนกำหนดโดยผู้เช่าได้รับประโยชน์
จำเลยเป็นนายหน้าจัดการให้โจทก์ทำสัญญาเช่าตึกกับเจ้าของตึกมีกำหนด 3 ปี สัญญาเช่าตึกจึงได้ทำกันสำเร็จเนื่องแต่ผลแห่งการที่จำเลยจัดการ จำเลยจึงมีสิทธิได้รับค่าบำเหน็จจากโจทก์
ข้อความตามสัญญาที่ว่า ถ้าโจทก์ต้องเลิกการเช่าด้วยเหตุใด ๆ จำเลยต้องคืนเงินค่าตอบแทนที่ได้รับล่วงหน้าให้โจทก์นั้นหมายความถึงกรณีที่มีเหตุจากฝ่ายผู้ให้เช่าหรือการรอนสิทธิจนโจทก์ไม่ได้ใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินที่เช่าคุ้มกับค่าเช่าและค่าบำเหน็จที่ให้แก่จำเลย เมื่อปรากฏว่าโจทก์ได้ใช้และได้รับประโยชน์ในตึกที่เช่าจนเกือบจะครบสัญญาแล้วโจทก์จึงส่งคืนตึกที่เช่าให้แก่เจ้าของ โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิเรียกค่าตอบแทนอันเป็นบำเหน็จค่านายหน้าคืนจากจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1959/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าบำเหน็จนายหน้า: การคืนเงินเมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุดก่อนกำหนด
ข้อความตามสัญญาที่ว่า ถ้าโจทก์ต้องเลิกการเช่าด้วยเหตุใดๆ จำเลยต้องคืนเงินค่าตอบแทนที่ได้รับล่วงหน้าให้โจทก์นั้นหมายความถึงกรณีที่มีเหตุจากฝ่ายผู้ให้เช่าหรือการรอนสิทธิจนโจทก์ไม่ได้ใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินที่เช่าคุ้มกับค่าเช่าและค่าบำเหน็จที่ให้แก่จำเลย เมื่อปรากฏว่าโจทก์ได้ใช้และได้รับประโยชน์ในตึกที่เช่าจนเกือบจะครบสัญญาแล้วโจทก์จึงส่งคืนตึกที่เช่าให้แก่เจ้าของ โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิเรียกค่าตอบแทนอันเป็นบำเหน็จค่านายหน้าคืนจากจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3325/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไล่เบี้ยหนี้จากการซื้อขายเครื่องพิมพ์ที่ถูกยึดคืนจากสัญญาเช่าซื้อ: อายุความ 10 ปี หรือ 3 เดือน
จำเลยซื้อเครื่องพิมพ์จากบริษัท ส. แล้วนำมาขายให้โจทก์ โจทก์นำเครื่องพิมพ์ดังกล่าวไปแลกเปลี่ยนเครื่องตัดกระดาษลกับบริษัทอ.เครื่องพิมพ์ดังกล่าวบริษัทส. เช่าซื้อจาก บริษัท ก. แล้วผิดสัญญาเช่าซื้อบริษัท ก. ฟ้องเรียกเครื่องพิมพ์คืนและนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดเครื่องพิมพ์คืนจากบริษัท อ.บริษัทอ. จึงฟ้องเรียกค่าเครื่องพิมพ์จากโจทก์ ศาลพิพากษาให้โจทก์ชำระ การที่โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ให้ชดใช้ราคาเครื่องพิมพ์เป็นการฟ้องเพื่อใช้สิทธิไล่เบี้ย ไม่ใช่ให้รับผิดเพื่อการรอนสิทธิต้องนำอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 มาใช้บังคับ จะนำอายุความ 3 เดือนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 481มาใช้บังคับไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3325/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิไล่เบี้ยจากการชำระหนี้แทนและการไม่ขาดอายุความฟ้องร้อง
จำเลยซื้อเครื่องพิมพ์จากบริษัท ส. แล้วนำมาขายให้โจทก์ โจทก์นำเครื่องพิมพ์ดังกล่าวไปแลกเปลี่ยนเครื่องตัดกระดาษลกับบริษัท อ. เครื่องพิมพ์ดังกล่าวบริษัท ส. เช่าซื้อจาก บริษัท ก. แล้วผิดสัญญาเช่าซื้อบริษัท ก. ฟ้องเรียกเครื่องพิมพ์คืนและนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดเครื่องพิมพ์คืนจากบริษัท อ. บริษัท อ. จึงฟ้องเรียกค่าเครื่องพิมพ์จากโจทก์ ศาลพิพากษาให้โจทก์ชำระการที่โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ให้ชดใช้ราคาเครื่องพิมพ์เป็นการฟ้องเพื่อใช้สิทธิไล่เบี้ย ไม่ใช่ให้รับผิดเพื่อการรอนสิทธิต้องนำอายุความ10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 มาใช้บังคับจะนำอายุความ 3 เดือนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 481มาใช้บังคับไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3125/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลักษณะนายจ้าง-ลูกจ้างในสัญญาจ้างทำของ และสิทธิเรียกร้องค่าชดเชยเมื่อทำงานไม่ครบ 120 วัน
ความที่ว่าโจทก์ไม่ได้เป็นลูกจ้างของจำเลยนี้เป็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอำนาจฟ้องเรียกค่าชดเชย เมื่อปรากฏขึ้นจากกการที่คู่ความแถลงรับกันในขณะที่ศาลสอบถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างโจทก์กับจำเลยเช่นนี้ ศาลแรงงานกลางย่อมมีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง แม้จำเลยจะมิได้ให้การไปถึงว่าโจทก์ไม่ใช่ลูกจ้างจำเลยก็ตาม
จำเลยจ้างเหมาให้โจทก์ที่ 1 หาคนงานมาทำการขนถ่ายสินค้าจากเรือเดินทะเลเป็นลำๆ ไป โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 11 เป็นคนงานของโจทก์ที่ 1 ในเดือนหนึ่งๆ โจทก์จะได้งานขนถ่ายสินค้า 1 ถึง 3 ลำ ลำหนึ่งๆ ต้องใช้เวลาขนถ่ายอย่างมาก 7 วัน จำเลยจ่ายค่าจ้างให้ตามน้ำหนักของสินค้า โจทก์ที่ 1 เป็นผู้รับเงินก้อนไปจ่ายให้แก่โจทก์อื่นๆ ดังนี้ จำเลยเป็นนายจ้างของโจทก์ที่ 1 ในลักษณะของการจ้างทำของ
เมื่อไม่ปรากฏข้อเท็จจริงจากที่ใดว่าโจทก์ได้ทำงานให้จำเลยเกินกว่า 120 วัน ติดต่อกัน คงได้ความแต่เพียงว่า โจทก์ทำงานขนถ่ายสินค้าจากเรือเดินทะเลให้จำเลยเดือนละ 1 ลำ อย่างมาก 3 ลำ ลำหนึ่งๆ ใช้เวลาอย่างมาก 7 วันเท่านั้น จึงไม่อาจถือได้ว่าโจทก์มีสิทธิเช่นเดียวกับลูกจ้างประจำตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานฯ ข้อ 75
of 8